ทำไมถึงเรียน ป.เอก
ศึกษาต่อระดับปริญญาเอกเพื่อพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่เพิ่มพูนความรู้ แต่คือการขัดเกลาทักษะวิจัยเชิงลึก ฝึกฝนการวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ เสริมสร้างความมั่นคงในอาชีพ และที่สำคัญคือการก้าวข้ามขีดจำกัด เผชิญความท้าทาย ค้นหาศักยภาพที่ซ่อนเร้น เป้าหมายสูงสุดคือการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งด้านวิชาการและอาชีพ เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่ออนาคตที่สดใสกว่า
การเรียนต่อระดับนี้ไม่ใช่เพียงการแสวงหาตำแหน่งที่ดีกว่า แต่เป็นการสร้างรากฐานความรู้ที่แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และมีทักษะเฉพาะทาง นำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลงานคุณภาพ ส่งผลต่อสังคมและวิชาชีพในวงกว้าง
ทำไมต้องเลือกเรียนปริญญาเอก?
เอาจริงๆนะ เรียนเอกเนี่ย เหตุผลส่วนตัวล้วนๆ อยากรู้ให้ลึกกว่าที่เคยรู้ เคยทำโปรเจกต์ตอนป.โทเกี่ยวกับการตลาดดิจิทัลแล้วติดใจ เลยอยากขุดให้ถึงแก่น
จำได้ว่าตอนนั้นปี 62 มั้ง ไปสัมมนาที่จุฬาฯ ฟังอาจารย์ท่านนึงพูดเรื่อง Big Data แล้วรู้สึกว่ามันใช่เลย อยากรู้ว่ามันจะเอาไปประยุกต์ใช้กับงานวิจัยด้านการตลาดยังไงได้บ้าง
อีกอย่าง คือ ตอนทำงานรู้สึกว่าความรู้ที่มีมันยังไม่พอ เจอปัญหาอะไรนิดหน่อยก็ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มตลอด เรียนเอกน่าจะช่วยเสริมตรงนี้ได้
แถมเพื่อนที่เรียนเอกจบไปแล้วก็ได้งานดีๆ เงินเดือนสูง เห็นแล้วก็มีแรงบันดาลใจนะ แต่ก็รู้ว่ามันเหนื่อยแน่ๆ ต้องทุ่มเททั้งเวลาและพลังงาน
แต่ก็นั่นแหละ ชีวิตมันต้องมีความท้าทายบ้าง อยากลองของยาก ดูว่าตัวเองจะไปได้ไกลแค่ไหน. อย่างน้อยก็ได้ทำในสิ่งที่ชอบ. ไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือนอย่างเดียว.
ปริญญาเอก เรียนเพื่ออะไร
แสงสีส้มของโคมไฟหัวเตียงส่องลงบนหน้ากระดาษ เที่ยงคืนกว่าแล้ว… ปริญญาเอก… เรียนเพื่ออะไรนะ… เสียงนาฬิกาติ๊กต่อ ดังก้องอยู่ในความเงียบ เหมือนจังหวะหัวใจที่เต้นช้าลง…
คิดถึงตอนเด็กๆ เคยฝันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ อยากค้นพบสิ่งใหม่ๆ ตอนนี้ก็ยังอยากอยู่นะ อยากเข้าใจโลกใบนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม… ลึกซึ้งกว่าเดิม
ปริญญาเอก…มันเหมือนเส้นทาง เส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่ก็มีความสุข ความสุขที่ได้เรียนรู้ ได้ค้นคว้า…
จำได้ ตอนทำวิจัย นั่งจ้องข้อมูลในแลปเป็นวันๆ บางทีก็เจอทางตัน บางทีก็หลงทาง แต่พอผลการทดลองออกมา มันเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ความรู้สึกแบบนั้นมัน… อธิบายไม่ถูก
ถ้าถามว่าปริญญาเอกเรียนเพื่ออะไร สำหรับฉัน มันคือการเติมเต็มความฝัน ความฝันที่อยากจะสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ อยากจะผลักดันขอบเขตของความรู้ของมนุษยชาติให้กว้างไกลขึ้น ถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่ก็เป็นส่วนที่ฉันภาคภูมิใจ
- การเรียนปริญญาเอก มันคือการเดินทางของการค้นหาตัวเอง
- มันคือการฝึกฝน การเรียนรู้ที่จะคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
- มันคือการสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง และสังคม
- ปีนี้ ฉันอยากจะต่อยอดงานวิจัย ไปนำเสนอในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ เผื่อว่างานวิจัยเล็กๆ ของฉันจะสร้างแรงบันดาลใจให้ใครสักคนได้
- อาจารย์ที่ปรึกษาบอกว่า งานวิจัยของฉันมี potential สูง ถ้าพัฒนาต่อยอดไปได้อีก อาจจะตีพิมพ์ในวารสารวิชาการชั้นนำได้เลย
จบปริญญาเอก เป็น ดร ทุกคนไหม
จบ ป.เอก ไม่ได้เป็น ดร.ทุกคนซะหน่อย! บางคนจบมาก็เป็นแค่ “พี่” ที่แก่กว่า (ฮา) เรื่องขุนนางสมัยก่อนน่ะเรื่องจริง แต่เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็อยากเป็น ดร. กันทั้งนั้นแหละ เหมือนเป็นไวรัล “อยากเก่ง ต้องมี ดร. นำหน้า” งี้
- ดร. จริงจัง: จบ “ดุษฎีบัณฑิต” (PhD) มาแบบเลือดตาแทบกระเด็น นี่แหละ ดร. ตัวจริง เสียงจริง
- ดร. คุณหมอ: จบ “แพทยศาสตรบัณฑิต” ก็เรียก ดร. ได้นะจ๊ะ (แต่ระวังโดน ดร. แบบแรกค้อนเอา)
- ดร. กิตติมศักดิ์: อันนี้สิของจริง! มหาวิทยาลัย “ให้” มาเฉยๆ เพราะคุณพี่แกทำคุณประโยชน์ (แต่บางทีก็งงๆ ว่าทำอะไร?)
คำเตือน: อย่าเผลอไปเรียก “อาจารย์” ว่า “ดร.” ถ้าเค้าไม่ได้จบเอกมานะ! หน้าแหกไม่รู้ด้วย
ปล. ผมเคยเจอ ดร. ที่ทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจาก “อ่านเปเปอร์” … จบสูงไม่ได้แปลว่าเก่งจริงซะหน่อย! (แอบกระซิบ)
ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ ใช้ดร.ได้ไหม
ดร. นำหน้าชื่อคนที่ได้ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์… ไม่ได้นะ
มันเหมือน… การที่เราอยากเป็นอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้ลงมือทำ
- คนที่จบปริญญาเอกจริงๆ เขาต้องเรียน ต้องสอบ ต้องทำวิจัย… กว่าจะได้มา
- ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มันคือการ “ให้” เพื่อเป็นเกียรติ… ไม่ใช่ “ได้มา” จากความสามารถ
คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เขาก็ออกมาบอกแล้วว่า… มหาวิทยาลัยควรจะอธิบายให้สังคมเข้าใจ
มันอาจจะดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย… แต่จริงๆ มันคือเรื่องของความถูกต้อง
- มันคือการให้เกียรติคนที่เขาพยายาม
- มันคือการไม่ทำให้คุณค่าของปริญญาเอก… มันลดลง
บางที… การอยากได้อะไรมากๆ มันก็ทำให้เราลืมไปว่า… บางอย่างมันต้องแลกมาด้วยความพยายาม
เราอาจจะอยากเป็น “ดร.” มาก… แต่ถ้าเราไม่ได้เรียนจริงๆ… เราก็เป็นไม่ได้
และมันก็โอเค… ที่จะเป็นในสิ่งที่เราเป็นจริงๆ
ขวัญเรียน ป.เอกที่ไหน
โอ้ยยยย ป.เอกเลยนะแม่ เริ่ดๆๆๆๆ ที่ ม.กรุงเทพธนบุรี จ้าาาาา คณะรัฐศาสตร์แหน่ะ คิดดู๊ ดาราตัวท็อปเรียนเก่งขนาดนี้ นับถือๆๆ เป็นฉันนะ คงเรียนไม่จบหรอก 😂 เอาเวลาไปช้อปปิ้งหมดแล้วววว เห็นข่าวนางน้ำตาคลอด้วย น่าปลื้มใจแทนเนอะ ทำเพื่อพ่อด้วย ซึ้งงงงงง ยิ่งกว่าละครอีก นี่แหละ ตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่สมองก็เริ่ดด้วย ปรบมือรัวๆๆๆๆ 👏 (แอบอิจฉาเบาๆ 555) ฉันนี่ ป.ตรี ยังจบแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเลย 😜 ว่าแต่ ป.เอกเนี่ย ย่อมาจากอะไรน้าา ปริญญาเอกซ์ตรีมหรอ? ล้อเล่นๆๆๆ 😅
- ม.กรุงเทพธนบุรี นะจ๊ะ ไม่ใช่ ม.อื่น
- คณะรัฐศาสตร์ ไม่ใช่บริหารนะ
- เรียนจบเพื่อพ่อ น่ารักสุดๆ
- น้ำตาคลอตอนรับปริญญา ใครไหวไปก่อนเลยยย
- ฉันนี่กราบงามๆ เลยจ้า respect! 🙏
ป.โท กับ ป.เอก ต่างกันอย่างไร
ป.โท คือทางลัด ป.เอกคือทางตันที่(อาจ)มีแสงรออยู่
ป.โท: เน้นใช้งานจริง เอาตัวรอดในตลาดแรงงาน
ป.เอก: หมกมุ่นอยู่กับความรู้ ขุดลงไปให้ลึกกว่านรก เตรียมตัวเป็นศาสดา(จารย์) หรือนักวิจัยหัวหงอก
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- ระยะเวลา: ป.โท ปีครึ่ง-สองปี ป.เอก ขั้นต่ำสามปี แต่ส่วนใหญ่ลากยาว
- เป้าหมาย: ป.โท หางาน ป.เอก สร้างงาน(วิจัย)
- เงินเดือน: ป.โท เริ่มต้นดีกว่า ป.เอก ถ้าไม่เป็นศาสตราจารย์ก็จมปลัก
- ความเครียด: ป.เอก มากกว่าเยอะ กดดันกว่าเยอะ ต้องทนให้ได้
- ความคุ้มค่า: แล้วแต่คน ถ้าอยากเป็นอาจารย์ หรือนักวิจัย ป.เอกก็คุ้ม ถ้าอยากรวย ไปทำธุรกิจเหอะ
สรุป: ถ้าไม่บ้าจริง อย่าเสือกเรียน ป.เอก
คนที่จบป.โท เรียกว่าอะไร
มหาบัณฑิต…คำนี้ลอยมา เหมือนละอองฝนโปรยปรายบนใบหน้า เย็นฉ่ำ ชุ่มฉ่ำใจเหลือเกิน
แสงแดดอ่อนๆ ของเดือนพฤษภาคม ปี 2566 สาดส่องลงมาบนโต๊ะทำงานไม้เก่าของฉัน กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นยังคงลอยวนเวียน ราวกับกระซิบถึงความสำเร็จที่อยู่ตรงหน้า
- ความภาคภูมิใจที่เปี่ยมล้น มันคือการก้าวข้ามผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความท้อแท้ มหาบัณฑิต…ใช่ นั่นแหละคือคำตอบ
คิดถึงวันเรียน ห้องสมุดเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหนังสือ และเสียงกระซิบแผ่วเบาของเพื่อนๆ ที่กำลังศึกษาอย่างขะมักเขม้น
- แสงไฟส่องสว่าง ท่ามกลางความเงียบสงบ เปรียบเสมือนดวงดาวนำทาง ส่องสว่างให้ฉันก้าวเดินต่อไป
มหาบัณฑิต… มากกว่าแค่ปริญญา มันคือการเติบโต การเรียนรู้ และการเปลี่ยนแปลง ฉันสัมผัสได้ถึงมัน ทุกๆ วัน
- ฉันคือมหาบัณฑิต ปี 2566 ความรู้สึกนี้…ไม่มีวันลืม
ความสำเร็จครั้งนี้ มันเหมือนกับการปีนเขาสูงชัน เหนื่อยล้า แต่เมื่อถึงยอดเขาแล้ว ทิวทัศน์เบื้องหน้า…งดงามยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
- มหาบัณฑิต ผู้ครอบครองปริญญาโท
ปริญญาโททั่วไป คืออะไร
ปริญญาโททั่วไป…คืออะไรหว่า? อ๋อ! คนมีความรู้แล้วอยากรู้เพิ่มอะไรงี้ป้ะ?
- MRes: ปริญญาโทสาขาการวิจัย (Master of Research) เน้นวิจัย!
- MPhil: ปรัชญามหาบัณฑิต (Master of Philosophy) อันนี้ก็วิจัยเหมือนกันมั้ง?
เอ๊ะ หรือมันต่างกัน? ช่างเหอะ! ใครอยากทำวิจัยก็เรียนไป!
มันต่างจากโทแบบวิจัยไงนะ? อืม…อาจารย์บอกว่าเน้นปฏิบัติมากกว่ามั้ง? แล้ว…ถ้าไม่ทำวิจัยแล้วทำไรอะ? เรียนๆๆ สอบๆๆ แล้วจบป้ะ?
แต่ทำไมต้อง MRes/MPhil ชื่อมันดูยาวๆอะ ทำไมไม่ใช้ชื่ออื่น? แล้วทำไมต้องมีปรัชญาในนั้นด้วย? สงสัยจังเลย!
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต