ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ ใช้ดร.ได้ไหม

126 การดู

ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ใช้คำนำหน้า "ดร." ไม่ได้ กกอ. ย้ำชัด "ดร." สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกเท่านั้น ไม่รวมปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ ขอความร่วมมือทุกมหาวิทยาลัยชี้แจงประชาชนให้เข้าใจตรงกัน เพื่อความถูกต้องและเป็นมาตรฐานเดียวกันในการใช้คำนำหน้าทางวิชาการ การใช้คำนำหน้า "ดร." จึงควรระมัดระวัง เพื่อป้องกันความสับสนและเข้าใจผิด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ ใช้คำนำหน้า ดร. ได้หรือไม่?

เอ่อ…เรื่อง ดร. นำหน้าชื่อเนี่ยนะ? คือเอาจริงๆ นะ ฉันก็เคยงงเหมือนกัน ตอนแรกๆ ที่เห็นคนได้ปริญญา “กิตติมศักดิ์” แล้วเรียกตัวเองว่า ดร.

จำได้เลย ตอนงานรับปริญญาของเพื่อนสนิท (น่าจะปี 2550 กว่าๆ) มีคนนึงได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ด้านอะไรซักอย่าง…จำไม่ได้แม่นยำ แต่จำได้ว่าทุกคนเรียกเขาว่า ดร. ตั้งแต่วันนั้น! ตอนนั้นก็คิดในใจ “เอ๊ะ…นี่มันยังไงกัน?”

แต่พอโตขึ้นมาหน่อย เริ่มศึกษาเรื่องนี้จริงจัง ก็เข้าใจว่า ดร. มันต้องมาจากคนที่เรียนจบปริญญาเอกจริงๆ น่ะแหละ ไม่ใช่ได้มาฟรีๆ แบบกิตติมศักดิ์

กกอ. (คณะกรรมการการอุดมศึกษา) เขาก็ออกมาบอกชัดเจนแล้วนี่นา ว่า ดร. เนี่ย ต้องสำหรับคนที่เรียนจบเอกจริงๆ ไม่ใช่ทุกคนที่ได้ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จะใช้ได้

แล้วมหาวิทยาลัยแต่ละที่ก็ควรจะออกมาอธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยนะ จะได้ไม่สับสนกันอีกต่อไป

สรุปง่ายๆ นะ ถ้าถามว่า ปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ใช้ ดร. ได้ไหม? คำตอบคือ…ไม่น่าจะได้นะ (จากที่เข้าใจมาอ่ะนะ)

แต่สุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับ “บริบท” และ “เจตนา” ของแต่ละคนด้วยรึเปล่า? อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ… เฮ้อ… ชักจะงงเองแล้วสิเนี่ย

จบ ป.เอก ใช้ ดร. ได้ไหม

จบ ป.เอก ใช้ ดร. ได้ไหม

ใช้ได้สิ…ถ้าอยากโดนแซว! จริงๆ แล้ว ดร. เป็นคำนำหน้าคุณวุฒิ ไม่ใช่คำนำหน้านามแบบท่าน ขุน พระยา ที่ใช้กันในราชการ (ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็แทบไม่มีใครใช้กันแล้วมั้ง นอกจากในละครพีเรียด)

คิดง่ายๆ:

  • เหมือนมีใบขับขี่: จบ ป.เอก เหมือนมีใบขับขี่รถยนต์ จะขับเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไม่ใช่เอาใบขับขี่มาแปะหน้าผากเรียกตัวเองว่า “นายใบขับขี่” ทุกทีไป

  • เหมือนยศทหาร: พันเอกใช้ยศได้ แต่ก็ไม่ได้เรียกตัวเอง “พันเอกสมชาย” ตลอดเวลา ใช่ไหมล่ะ?

แล้วทำไมคนชอบใช้ ดร. กันจัง?

  • ความภูมิใจ: จบ ป.เอก มันยากนะเว้ย! (อันนี้เข้าใจเลย)
  • ความน่าเชื่อถือ: เวลาพูดอะไรคนจะได้ฟังมากขึ้น (มั้ง?)
  • อยากให้ดูฉลาด: (อันนี้ก็แล้วแต่คนจะคิด)

สรุป: ใช้ ดร. ได้…แต่ระวังคนหมั่นไส้! หรือไม่ก็ลองใช้ชื่อ “ศาสตราจารย์” ไปเลย ถ้าได้ตำแหน่งนะ… อันนั้นเท่กว่าเยอะ!

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • ราชบัณฑิตยสภาบอก: “ดร.” เป็นคำแสดงคุณวุฒิ ไม่ใช่คำนำหน้านาม (ชัดเจนนะ!)
  • วงการวิชาการ: ถ้าเขียนบทความวิจัย, บรรยาย, หรือแนะนำตัวในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ใช้ “ดร.” ได้เหมาะสมกว่า
  • ชีวิตประจำวัน: แล้วแต่สะดวก…แต่เตรียมรับมือกับสายตาและคำทักทายที่อาจจะตามมาด้วยนะ เช่น “สวัสดีครับ/ค่ะ ดอกเตอร์…เชิญครับ/ค่ะ ดอกเตอร์” (แล้วแต่สถานการณ์!)

ป.ล. ผมเองก็จบโทมา แต่ไม่เคยเรียกตัวเองว่า “มหา” นะ…มันดูแปลกๆไงไม่รู้ (ฮา)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ คืออะไร

ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์อ่ะหรอ คือแบบ ปริญญาเอกอะ แต่มหาวิทยาลัยเค้าให้ฟรีๆ ไม่ต้องเรียน ไม่ต้องสอบ เข้าใจปะ แบบให้เกียรติอ่ะ

ส่วนปริญญาโท เค้าเรียกว่า มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์นะ แต่ส่วนมากอ่ะ เค้าจะให้แค่สาขาที่มหาลัยมีสอนเท่านั้นแหละ แล้วก็เค้าไม่ให้ซ้ำสาขาในปีเดียวกันนะ

  • สรุปง่ายๆ: เป็นปริญญาที่มหาลัยมอบให้ฟรีๆ เพื่อเป็นเกียรติ
  • ใครได้บ้าง: คนที่ทำคุณประโยชน์ให้สังคม ประเทศชาติ หรือมหาลัยนั้นๆ อะไรประมาณนี้
  • ต้องมีคุณสมบัติอะไร: อันนี้แล้วแต่มหาลัยเลย แต่ส่วนใหญ่ต้องเป็นคนที่ทำประโยชน์จริงๆ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
  • สำคัญนะ: ปริญญากิตติมศักดิ์ไม่ได้มีทุกปีนะ บางปีก็ไม่มีใครได้รับเลย
  • แล้วต่างจากปริญญาปกติยังไง: ต่างกันตรงที่ ไม่ต้องเรียน ไม่ต้องสอบไงจ๊ะ เค้าให้เลย! เจ๋งป่ะล่ะ

เรียนจบปริญญาเอก ได้ยศอะไร

จบเอก? ได้แค่ชื่อนำหน้า

  • ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต (ศศ.ด.) หรือ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)

ไม่ต้องยศศักดิ์ แค่คนเรียก “ด็อกเตอร์” ก็พอใจแล้ว

เกร็ด:

  • จบเอก ไม่ได้เป็นข้าราชการอัตโนมัติ ยศมาจากการแต่งตั้ง
  • บางสายงานเรียก “ศาสตราจารย์” ไม่ใช่ยศ แต่เป็นตำแหน่งทางวิชาการ
  • “ด็อกเตอร์” บางคนแม่งก็แค่คนบ้ากระดาษ อย่าไปให้ราคาสูงนัก

เรียนจบอะไรถึงจะได้เป็นด็อกเตอร์

อยากเป็นด็อกเตอร์เหรอ? ก็ต้องจบปริญญาเอกไง ถามมาได้! เหมือนถามว่าอยากกินข้าวต้องทำไง ก็ต้อง…กินข้าวน่ะสิ! (ฮา)

  • ปริญญาเอก: จบอะไรก็ได้ที่เขาเปิดสอนปริญญาเอกอะคุณ จะปรัชญา กล้วยทอด หรือดาราศาสตร์ ก็แล้วแต่บุญแต่กรรม เอ้ย! แล้วแต่ความถนัด
  • ด็อกเตอร์ยุคนี้: ไม่ใช่แค่หมอหรือนักศาสนาแล้วนะจ๊ะ ใครจบเอกก็เรียก “ด็อกเตอร์” ได้หมดแหละ สมัยนี้เขาฮิตติดยศกัน

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย (แต่ไม่น้อยหรอกน่า):

  • เมื่อก่อนตำแหน่งด็อกเตอร์นี่สงวนไว้ให้พวกขุนนางนะเออ สมัยนี้ใครๆ ก็เป็นได้ แค่…เรียนให้จบ (ยิ้มแห้ง)
  • บางคนเรียกตัวเองว่า “ด็อก” เฉยๆ ก็มีนะ เท่ดีออก (ประชด!)
  • อย่าถามว่าเรียนอะไรถึง “รวย” เพราะด็อกเตอร์หลายคนยังกินมาม่าอยู่เลย! 🙁

ปริญญาเอก เรียนเพื่ออะไร

เรียนป.เอกเพื่ออะไร? ง่ายๆ อยากเป็นкспертในสิ่งที่ชอบ อยากขุดลึก อยากสร้างความรู้ใหม่ๆ. ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะ. เสียเวลา เสียเงิน เสียสุขภาพจิต. แต่ถ้ามุ่งมั่น ผลลัพธ์คุ้มค่า. เคยเจอคนบ้าเรียนป.เอกด้านประวัติศาสตร์อ่ะ แม่งขุดคุ้ยเรื่องสงครามโลกครั้งที่สองจนเจอข้อมูลใหม่ๆ สุดจริง.

  • สร้างความรู้ใหม่ๆ ผลักดันขอบเขตของศาสตร์ที่สนใจ.
  • เป็นผู้เชี่ยวชาญ มีเครดิต มีอำนาจทางวิชาการ.
  • เปิดโอกาสทางอาชีพ ทั้งสายวิชาการ และสายงานเฉพาะทาง.
  • พัฒนาตัวเอง ฝึกความคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน.
  • สร้างเครือข่าย ทั้งในและต่างประเทศ.

ส่วนตัวกู ตอนนี้เรียนป.เอกด้านชีววิทยาโมเลกุลอยู่ ปี 3 แล้ว เหนื่อยสัส แต่สนุกดี ได้เล่นกับยีนกับโปรตีน โคตรมันส์. อยากเปลี่ยนโลก เริ่มจากเปลี่ยนเซลล์. ก็งี้.

จบป.เอกทำอะไรได้บ้าง

จบเอกแล้วเหรอ? โอ้โห สุดยอด! ทำไรได้เยอะแยะเลยแหละ

  • อาจารย์มหาลัยสิ นี่แหละ งานหลักๆเลย เพื่อนฉันหลายคนก็เป็นกัน

  • นักวิจัยก็ดีนะ ได้ทำอะไรใหม่ๆ แต่เงินอาจจะน้อยกว่าเป็นอาจารย์ แล้วแต่ที่นะ ที่ทำงานฉันก็รับนักวิจัยจบเอกอยู่

  • ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ก็อีกทางเลือกนึง เห็นรุ่นพี่ที่จบพร้อมกัน ไปเป็นที่ปรึกษาบริษัทใหญ่ๆ ดูหรูดีนะ เงินเดือนน่าจะสูงด้วย

  • อืมมม อย่างอื่นอ่ะหรอ… ก็มีพวกเขียนหนังสือ แต่ต้องดังก่อนนะ ไม่งั้นยาก เพื่อนฉันคนนึงเขียนนิยาย ได้ค่าลิขสิทธิ์อยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่าไหร่ ยังต้องทำงานอื่นๆควบคู่ไปด้วย

  • ส่วนพวก Life coach ขายคอร์สสัมนา พวกน้ำพลังควอนตัม หินมหัศจรรย์อะไรนั่น ฉันไม่ค่อยสนับสนุนเท่าไหร่ ดูหลอกลวงยังไงไม่รู้ เพื่อนฉันเกือบโดนหลอกซื้อซุปไก่สมุนไพรแพงเวอร์มาแล้ว โชคดีที่ฉุกคิดได้ก่อน อันนี้ไม่แนะนำเลยจริงๆ อย่าไปยุ่งกับมันเลยดีกว่า

ปีนี้งานวิจัยด้าน AI กำลังบูมมากนะ ลองหางานทางด้านนั้นดูก็ได้ อาจจะมีโอกาสดีๆ ลองเสิร์ชดูใน jobdb หรือ LinkedIn ก็ได้นะ เยอะแยะเลย

จบปริญญาเอก เป็น ดร ทุกคนไหม

ไม่ทุกคนที่จบปริญญาเอกเป็น ดร. คือแบบนี้ ตอนเรียนป.เอกที่จุฬาฯ อาจารย์ที่ปรึกษาเคยบอกว่า “ดร.” มันเป็นคำนำหน้าชื่อ ไม่ใช่ทุกคนที่จบป.เอกต้องใช้ บางคนเค้าก็ไม่ใช้กันนะ แล้วแต่ความชอบ

  • ดร. เป็นคำนำหน้าชื่อ
  • ไม่บังคับให้ผู้จบปริญญาเอกทุกคนใช้
  • ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ
  • บางคนอาจไม่ชอบใช้

ส่วนเรื่องที่ว่าสมัยก่อนนิยมในหมู่ขุนนาง อันนี้ไม่แน่ใจ ไม่เคยศึกษาเรื่องนี้จริงจัง แต่ปัจจุบันอะนะ ใครจบป.เอกก็มีสิทธิ์ใช้หมดแหละ ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นหมอหรือนักศาสนศาสตร์เท่านั้นนะ

  • ปัจจุบันใครจบป.เอกก็ใช้ได้
  • ไม่ได้จำกัดสาขา
  • ไม่ได้ผูกติดกับอาชีพใดอาชีพหนึ่ง

จบ ปริญญาเอก เงินเดือน เท่าไร

เงินเดือน ป.เอก (วุฒิปริญญาเอก) ปี 2567-2569 มีการเปลี่ยนแปลงนะ

  • ปี 2567 (1 พ.ค.): เริ่มต้น 23,100 – 25,410 บาท (อิงจากอัตราเดิมที่ปรับขึ้น) อันนี้คือจุดเริ่มต้นที่หลายคนอาจมองข้าม เพราะมันคือ “ฐาน” ที่สำคัญ

  • ปี 2568 (1 พ.ค.): ปรับเป็น 25,410 – 27,960 บาท สังเกตว่าช่วงกว้างของเงินเดือนเริ่มขยับขยาย ซึ่งมันสะท้อนถึง “ความสามารถ” ที่ตลาดต้องการ

  • ปี 2569 (1 พ.ค.): ขึ้นไปอีกที่ 27,960 – 30,870 บาท การเติบโตแบบนี้แสดงให้เห็นว่า “คุณค่า” ของคนที่มีความรู้เฉพาะทางสูงขึ้นเรื่อยๆ ในสังคม

  • ข้อสังเกต: ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียง “ภาพรวม” นะ ปัจจัยที่มีผลต่อเงินเดือนจริงยังมีอีกเยอะ เช่น สาขาที่จบ ประสบการณ์ทำงาน และ “เส้นสาย” ในวงการ

อย่าลืมว่าการศึกษาคือการลงทุนระยะยาว ความรู้คืออำนาจ แต่การนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่างหากคือ “เวทมนตร์” ที่แท้จริง

ข้อมูลเสริม:

  • เงินเดือน ป.เอก ในสายงานราชการอาจมีโครงสร้างที่แตกต่างออกไป โดยมี “ขั้น” และ “ตำแหน่ง” เข้ามาเกี่ยวข้อง
  • ในภาคเอกชน เงินเดือนจะขึ้นอยู่กับ “กำไร” ของบริษัท และ “ความต้องการ” ของตลาดแรงงาน
  • การต่อยอดความรู้หลังจบ ป.เอก เช่น การทำวิจัย การเป็นที่ปรึกษา ก็สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้อีกมาก
  • อย่ามองข้าม “ทักษะ” อื่นๆ ที่จำเป็น เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการทำงานเป็นทีม และทักษะการแก้ปัญหา เพราะสิ่งเหล่านี้คือ “กุญแจ” สู่ความสำเร็จ

ป.ล. ตัวเลขพวกนี้มันก็แค่ตัวเลข สุดท้ายแล้ว “ความสุข” ในการทำงานต่างหากที่สำคัญที่สุด

#กิตติมศักดิ์ #ดร. #ปริญญาเอก