มหาลัยปี1 เรียนกี่เดือน
มหาวิทยาลัยไทย ปี 1 เรียนประมาณ 8 เดือนต่อปีการศึกษา แบ่งเป็น 2 ภาคการศึกษา ภาคละ 4 เดือน (16 สัปดาห์) โดยทั่วไปเริ่มภาคเรียนประมาณเดือนสิงหาคม บางมหาวิทยาลัยอาจมีภาคเรียนฤดูร้อนเพิ่มเติม ระยะเวลาดังกล่าวไม่รวมช่วงสอบและปิดภาคเรียน จึงอาจมีวันหยุดเพิ่มเติม
เรียนมหาวิทยาลัยปี 1 กี่เดือน?
อืม… ปีหนึ่งของฉันเนี่ยนะ จำได้ว่าเริ่มเรียนมหาลัยที่เชียงใหม่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิทยาเขตสงขลานครินทร์ (จำผิดหรือเปล่าเนี่ย! แหะๆ) เดือนสิงหาคม ปี 2562 แน่ๆ เลย ตอนนั้นตื่นเต้นมากกกกกกก ค่าเทอมแพงชะมัด หมื่นกว่าบาทต่อเทอม จำได้ลางๆว่ามีสองเทอม แต่ละเทอมประมาณสี่เดือน ก็เรียนๆพักๆ สอบกลางภาค ปลายภาค อีกประมาณเดือนนึงรวมๆแล้ว ปีแรกใช้เวลาไปประมาณแปดเดือนได้มั้ง หรือมากกว่านั้น ไม่แน่ใจ ฉันลืมๆไปบ้างแล้วอะ แต่ที่แน่ๆ เหนื่อยมาก งานเยอะ เพื่อนเยอะ สนุกด้วย สุดๆ ตอนนั้นชีวิตมันวุ่นวายดี มีความสุขแบบวุ่นวายอ่ะ
จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่แค่เรียนแปดเดือน ยังมีกิจกรรมรับน้อง ค่ายต่างๆ อีก เป็นเดือนเลย คิดดูสิ เหนื่อยขนาดไหน ช่วงปิดเทอมก็กลับบ้าน ไม่ได้พักผ่อนเต็มที่เลย แต่ก็คุ้มค่า เพราะได้เพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เพียบเลย
มหาลัยเรียนเทอมละกี่เดือน
เทอมละ 4 เดือน มั่วๆก็ประมาณนี้แหละ
- แต่ละที่ไม่เท่ากัน บางที่อาจสั้นกว่า บางที่อาจยาวกว่า
- เช็คที่มหาลัยตัวเองดีกว่า อย่ามาถามกู
- ปีนี้ก็ยังงี้แหละ ไม่เปลี่ยนแปลง
พวกมหาลัยเอกชนบางที่ อาจมีเทอมสั้นกว่านี้ก็ได้นะ จำไม่ได้แล้ว ขี้เกียจไปเช็ค
มหาลัยเทอม2 เดือนไหน
มหาลัยเทอม 2 ปีนี้ เริ่มกลางพฤศจิกาคม สอบปลายมีนาคม ปิดเทอมเมษา เปิดเทอม 1 ปลายกรกฎาคม/สิงหาคม ปิดกลางธันวาคม ง่ายๆ เหมือนพับผ้า!
-
เทอม 2: อื้อหือออ กลางพฤศจิกายน เริ่มเรียน เหมือนงูตกจากต้นไม้ ตกใจ แต่ก็ต้องไต่ขึ้นไปใหม่! สอบปลายมีนาคม คือช่วงที่หัวใจเต้นแรงกว่าวิ่ง 100 เมตร! ปิดเทอมเมษา ได้พักผ่อน ชาร์จพลัง เตรียมตัวสู้ต่อ!
-
เทอม 1: ปลายกรกฎาคม/สิงหาคม เปิดเทอม เหมือนปล่อยไก่ไปวิ่งเล่นในทุ่งนา อิสระ แต่ก็ต้องมีระเบียบ ปิดกลางธันวาคม เป็นเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง เหมือนปิดฉากละคร รอเปิดเรื่องใหม่!
ปีนี้ผมเรียนหนักมาก เครียดกว่าการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ของอาจารย์สมชาย (ขออนุญาตปกปิดนามสกุลเพื่อรักษาความลับสุดยอด) ซะอีก แต่ก็สนุกดีครับ! เหมือนการผจญภัย มีทั้งขึ้นและลง และตอนนี้ ผมกำลังนั่งวางแผนเที่ยวปีใหม่ หลังจากสอบเสร็จ จะไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะเสม็ด เพราะปีที่แล้ว ไปภูเก็ต คนเยอะมาก เหมือนอยู่ในตลาด!
ปตรีเรียนกี่เดือน
โอ๊ยตาย! ปริญญาตรีนะเหรอ? ไม่ใช่บวชชี 7 เดือนจบนะจ๊ะ!
- เรียนจริง: อย่างน้อยๆ ก็ 4 ปี หรือ 8 เทอมโน่น! อย่าริอ่านหวังจะจบเร็วกว่านี้ เดี๋ยวโดนอาจารย์สวด
- หน่วยกิต: ต้องเก็บให้ได้ 180 หน่วยกิตนะคุณ! อย่ามัวแต่ส่องหนุ่มส่องสาว จนลืมเรียน
- นานสุด: ถ้าลงเรียนเต็มเวลา ก็ห้ามเกิน 12 ปี ถ้าเรียนไปเล่นไป ก็ให้ได้แค่ 18 ปี! ถ้าเกินนี้ สงสัยต้องไปขอใบรับรองจากกรมธรณีวิทยาแล้วล่ะ!
- เรียนไม่เต็มเวลา: พวกเรียนๆ หยุดๆ อย่าคิดว่าจะชิลล์นะ! เผลอๆ จบช้ากว่าเพื่อน เรียนไม่รู้เรื่อง แถมเสียเงินเยอะกว่าอีก!
- คำเตือน: อย่าคิดว่าเรียนป.ตรีมันง่าย! ต้องขยันอ่าน ขยันเข้าเรียน อย่ามัวแต่เล่นเกมส์ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!
ป.ล. นี่พูดจริงๆ นะ ไม่ได้โม้! ถ้าคิดจะเรียน ก็ตั้งใจเรียนเหอะ อย่าให้เหมือนป้าข้างบ้าน เรียนมา 10 ปี ยังไม่จบเลย! อายเค้า!
ซิ่ว ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?
ซิ่ว เตรียม:
- สำเนาบัตรประชาชน: ตัวตนยืนยัน.
- สำเนาทะเบียนบ้าน: ที่อยู่ ปัจจุบัน.
- เอกสารเปลี่ยนชื่อ/สกุล: ถ้าเคยเปลี่ยน. อดีต คืออดีต.
- ปพ.1: วุฒิการศึกษา. เริ่มใหม่ได้เสมอ.
- ทรานสคริปต์: เกรดเฉลี่ย. วัดกันที่ตรงนี้.
ข้อมูลเพิ่มเติม:
- เอกสารสำคัญ: ทุกอย่างต้องชัดเจน. ไม่มีอะไรคลุมเครือ.
- สำเนาถูกต้อง: ทุกฉบับ. กันพลาด.
- ติดต่อ: มหาลัย/คณะ. ถามให้ชัวร์.
- เตรียมใจ: พร้อมเริ่มใหม่. สำคัญสุด.
ซิ่ว ไม่ใช่แค่สอบใหม่. มันคือ โอกาส.
เรียนครู5ปีกับ4ปีต่างกันยังไง?
หลักสูตรครู 5 ปี กับ 4 ปี แตกต่างกันตรง
-
ระยะเวลาฝึกประสบการณ์วิชาชีพ: หลักสูตร 5 ปี ฝึก 2 เทอม ส่วนหลักสูตร 4 ปี ฝึก 1 เทอม นั่นหมายความว่า หลักสูตร 5 ปี ได้รับการเตรียมความพร้อมด้านการปฏิบัติงานมากกว่า
-
การสอบใบประกอบวิชาชีพ: หลักสูตร 5 ปี ไม่ต้องสอบ หลักสูตร 4 ปี ต้องสอบ เห็นได้ชัดว่า หลักสูตร 5 ปี มีความสะดวกสบายกว่าในแง่นี้ แต่ก็อาจหมายถึงการทดสอบความรู้ความสามารถที่เข้มข้นน้อยกว่า
ปีนี้ (2566) คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ เน้นการผลิตครูคุณภาพสูง โดยมีสาขาที่น่าสนใจ เช่น
-
เทคโนโลยีทางการศึกษา: ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญของการศึกษาในปัจจุบัน นี่คือสิ่งที่ผมสนใจเป็นการส่วนตัวเลยล่ะ
-
การศึกษาปฐมวัย: เน้นการพัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างรอบด้าน เป็นศาสตร์ที่น่าสนใจและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ เพราะช่วงวัยนี้เป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้
-
การศึกษาพิเศษ: รองรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เป็นสาขาที่มีความท้าทายแต่ก็มีความหมายอย่างมาก ยิ่งในยุคปัจจุบันที่สังคมให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมมากขึ้น
(หมายเหตุ: สาขาต่างๆ อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละมหาวิทยาลัย ควรตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยที่สนใจโดยตรง)
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต