เรียนต่อมหาลัยจำกัดอายุไหม

43 การดู

เรียนต่อมหาลัยไม่จำกัดอายุ สมัครปริญญาตรีได้เลย! มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เปิดรับนักศึกษาไม่จำกัดอายุ โอกาสเรียนสูงกว่าปริญญาตรีก็มี สนใจสาขาไหน รีบสมัคร เตรียมตัวให้พร้อม ศึกษาข้อมูลมหาวิทยาลัยที่สนใจ เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน อย่าให้เรื่องอายุเป็นอุปสรรค ความมุ่งมั่นสำคัญกว่า ลงมือทำตามความฝัน ประสบการณ์ชีวิตของคุณคือจุดแข็ง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เปิดโลกกว้าง สร้างอนาคตที่สดใส

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เรียนต่อมหาวิทยาลัย อายุเท่าไหร่ถึงจำกัด?

เรื่องอายุเนี่ยนะ… เอาจริงๆ มหาลัยเค้าไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นหรอก

สมัยก่อนตอนเราเอนท์ฯ ติดอ่ะ ก็มีพี่ๆ ที่แบบ, เออ, หน้าแก่กว่าเราเยอะเลยเว้ย (555+) ตอนนั้นก็แอบคิดในใจนะ “เอ๊ะ, เค้ามาเรียนอะไรเนี่ย?” แต่พอมองอีกมุม, เฮ้ย, มันก็ดีออก ที่เค้ากล้าที่จะกลับมาเรียน กลับมาทำตามฝันอ่ะ

จำได้เลยตอนปี 1 วิชา intro to law อาจารย์แม่งโคตรโหด แต่ก็มีพี่คนนึง (น่าจะ 30+ ได้แล้วมั้ง) เค้าช่วยติวให้เรากับเพื่อนๆ นี่แหละ ตอนนั้นโคตรซึ้งอ่ะ ไม่รู้จะขอบคุณยังไง

สรุปคือ, ไม่ต้องห่วงเรื่องอายุนะ ไปสมัครเลย!

อายุ50เรียนมหาลัยได้ไหม

ได้สิ! อายุ 50 เรียนมหาลัยได้แน่นอน! ใจยังกล้าหาญ ฝันยังสดใส แสงดาวพร่างพราวบนท้องฟ้ามืดมิด ดั่งความหวังที่ไม่เคยจางหายไปกับกาลเวลา… อายุเป็นเพียงตัวเลข จิตใจต่างหากที่สำคัญกว่า

  • ความฝันยังคงรอคอยอยู่ ปีนี้ 2566 โอกาสยังเปิดกว้างเสมอ
  • 30-40 ปี ไม่ใช่เรื่องสายเกินไป เลยวัยเรียน แต่ไม่เลยวัยฝัน
  • นักวิทยาศาสตร์ นักดาราศาสตร์ รอคุณอยู่ จักรวาลกว้างใหญ่ รอให้คุณไปสำรวจ

ลมพัดเย็นยะเยือก เหมือนความตื่นเต้นที่กำลังก่อตัว อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ อยากไขปริศนาจักรวาล ความฝันนี้ งดงามเหลือเกิน เหมือนดวงดาวบนฟากฟ้า ระยิบระยับ ดึงดูดใจ ไม่มีวันมืดมน

ความรู้ไม่มีวันสิ้นสุด เหมือนสายน้ำที่ไหลไม่หยุดยั้ง เรียนรู้ไปตลอดชีวิต ไม่มีคำว่าสาย ใจยังอยากเรียน ก็เรียนไปเถอะ อย่าไปกลัว อย่าไปลังเล

  • หาข้อมูลมหาวิทยาลัย เปิดรับสมัครตลอดปี หลายที่
  • เตรียมตัวให้พร้อม สอบเข้าให้ได้ ความฝันรออยู่

ปีนี้ 2566 จะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นใหม่ ก้าวไปสู่ความฝัน อย่ารอช้า อย่าเสียเวลา เวลาที่มีค่า อย่าปล่อยให้มันผ่านไป ไร้ค่า

เรียนมหาลัยอายุไม่เกินกี่ปี

เรียนมหาลัยอะ อายุเท่าไหร่ก็ได้แหละ ไม่มีกำหนด จริงๆ นะ

คือ มหาลัยส่วนใหญ่ในไทยเค้าไม่ได้สนหรอกว่าแก่อายุเท่าไหร่ แต่ๆๆๆ ต้องมีวุฒิ ม.6 หรือเทียบเท่าอ่ะ สำคัญสุด แล้วก็ต้องสอบติดด้วยนะจ๊ะ

แต่เอาจริงๆ นะ ถึงไม่มีกำหนดอายุก็เถอะ บางทีอาจจะรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย ถ้าเข้าเรียนตอนอายุเยอะกว่าคนอื่นๆ อ่ะ แต่ถ้าใจมันรัก อยากเรียน ก็ลุยเลย! ไม่มีไรยากเกินไปหรอก

  • วุฒิการศึกษา: ต้องมี ม.6 หรือเทียบเท่า หรือปวช. หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มหาลัยนั้นๆ เค้ากำหนดอะ
  • สอบ: ต้องสอบให้ติดนะจ๊ะ ทั้ง TCAS หรือสอบตรงอะไรก็แล้วแต่
  • ค่าเทอม: อันนี้สำคัญสุด มีตังค์จ่ายค่าเทอมไหม ถามใจดู
  • เวลา: เรียนมหาลัยต้องมีเวลาให้มันนะ ไม่ใช่แค่เข้าเรียนๆ แล้วก็จบ ต้องอ่านหนังสือ ทำรายงาน ทำกิจกรรมอีกเยอะแยะ
  • ความพร้อม: พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือเปล่า? มหาลัยไม่ใช่แค่ที่เรียน แต่เป็นที่ที่เราจะได้เจอเพื่อน ได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยนะ

ปล. สมัยเราเรียนก็มีพี่ที่อายุเยอะกว่ามาเรียนด้วยนะ เค้าบอกว่าอยากเปลี่ยนสายงาน ก็เลยมาเรียนใหม่ ไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลย สู้ๆ น้า

เรียนมหาลัยมากสุดได้กี่ปี

นักศึกษาสามารถเรียนในมหาวิทยาลัยได้นานสูงสุด 8 ปี ตามหลักสูตรปกติ โดยทั่วไปแบ่งเป็น 4 ปี สำหรับปริญญาตรี และอีก 4 ปีสำหรับปริญญาโทหรือเอก แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลักสูตร บางหลักสูตรอาจใช้เวลาเรียนนานกว่านี้ เช่น หลักสูตรแพทย์ หรือบางมหาวิทยาลัยอาจมีข้อกำหนดแตกต่างกันไป

  • หลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี (โดยทั่วไป)
  • หลักสูตรปริญญาโท 2-3 ปี (บางหลักสูตรอาจใช้เวลาเรียนนานกว่านี้)
  • หลักสูตรปริญญาเอก 3-7 ปี (ขึ้นอยู่กับสาขาและความก้าวหน้าในการวิจัย)

ที่จริงแล้ว การจำกัดเวลาเรียน 8 ปี เป็นเพียงกรอบคร่าวๆ ความจริงแล้ว การเรียนรู้เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ไม่มีเส้นชัยที่แน่นอน มันขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความมุ่งมั่นของแต่ละบุคคลมากกว่า ผมเองก็เคยคิดว่า การเรียนรู้ที่ดีที่สุดนั้น ไม่ได้วัดจากระยะเวลา แต่เป็นคุณภาพและความเข้าใจ

ปีนี้ (2566) มหาวิทยาลัยหลายแห่งยังคงใช้ระบบเวลาเรียนแบบเดิม แต่ก็มีการปรับปรุงหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของนักศึกษาที่หลากหลาย

ตัวอย่างเช่น บางมหาวิทยาลัยอนุญาตให้เรียนจบปริญญาตรีภายใน 3 ปี สำหรับนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีเยี่ยม หรือมีการนำระบบเครดิตเข้ามาใช้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนจบได้รวดเร็วขึ้น หรือเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่สนใจ

สอบเข้ามหาลัยจำกัดอายุไหม?

สอบเข้ามหาลัยจำกัดอายุไหม? อายุเป็นเพียงตัวเลข! คิดว่าตัวเองแก่เกินเรียนเหรอ? คิดผิดแล้วล่ะ! ป้าข้างบ้านฉันอายุ 50 กว่า ยังไปเรียนปริญญาโทเลย! แค่ใจถึงก็พอ!

  • ส่วนใหญ่ไม่จำกัด: มหาลัยไทยใจดี๊ใจดี ไม่ค่อยมีใครมาถามอายุคุณหรอกครับ เว้นแต่…

  • บางคณะแอบจุก: พวกคณะที่ต้องใช้แรงเยอะ หรือต้องไปฝึกงานที่ต้องมีใบอนุญาต นี่แหละอาจจะมีกำหนดอายุ เช่น พวกกายภาพบำบัด คุณหมอ อะไรประมาณนั้น ไปดูรายละเอียดให้ดีๆ อย่าไปซุ่มซ่ามล่ะ!

  • เช็คให้ชัวร์: อย่าเชื่อฉันง่ายๆ ไปดูระเบียบการรับสมัครของแต่ละที่ เว็บไซต์มหาลัยคือเพื่อนแท้ อย่าลืมเช็คปีล่าสุดด้วยนะ อย่าไปเรียนแบบใช้ข้อมูลเก่า ตกเทรนด์แล้วเชียว!

ปีนี้ (2566) ก็ยังเหมือนเดิมครับ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากมาย ยังไงก็เช็คข้อมูลให้ดี อย่ามาโทษฉันนะถ้าพลาด! (ฮา)

TCAS จำกัดอายุไหม?

ไม่จำกัดอายุนะ TCAS อ่ะ…

แบบว่า จะอายุเท่าไหร่ก็สมัครได้เลย…

จริงๆ นะ… ถ้าใจมันเรียกร้อง อยากเรียน ก็ลุยเลย…

  • TCAS คืออะไร: ระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยของไทย
  • ทำไมถึงไม่จำกัดอายุ: เพราะทุกคนมีสิทธิในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  • แล้วถ้าจบมานานแล้วล่ะ: ไม่เป็นไรเลย เพื่อนเราบางคนทำงานมาสิบกว่าปีแล้วค่อยกลับมาเรียนใหม่ ก็ยังได้
  • ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง: อันนี้แล้วแต่คณะที่เราอยากเข้าเลย ต้องดูเกณฑ์ของแต่ละที่
  • แล้วถ้าไม่เคยสอบอะไรพวกนี้เลย: ก็ต้องลองดู ข้อสอบมันเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ ต้องหาแนวข้อสอบล่าสุดมาลองทำดู

บางที… การได้กลับไปเรียน มันก็เหมือนได้เติมไฟให้ตัวเองอีกครั้ง…

แต่ก็ต้องถามตัวเองดีๆ ก่อนนะ ว่าเราพร้อมจริงๆ รึเปล่า…

เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องเรียนอย่างเดียว มันคือการเปลี่ยนแปลงชีวิตเลย…

ดรอปมหาลัยได้กี่ปี?

ดรอปเรียนเนี่ยนะ… เหมือนหนีไปพักใจ แต่ต้องรู้ลิมิต! 😜

  • 8 ปี…คือเส้นตาย! ถ้าเรียนไม่จบใน 8 ปี (รวมดรอป) มหาลัยจะส่งเราไปพักร้อนยาว ๆ แบบไม่ได้กลับมาเรียนอีก (รีไทร์นั่นเอง) 🏖️

  • ดรอปนานไป…มีเงิบ! อย่าดองไว้นานเกิน 2 ปี เพราะหลักสูตรชอบเปลี่ยนหน้าใหม่ทุก 5-8 ปี เดี๋ยวกลับมาแล้วจะงงเป็นไก่ตาแตก 🐔

  • กฎเหล็ก…ระเบียบต้องเป๊ะ! ดรอปได้ตามสบาย ถ้าไม่ขัดระเบียบมหาลัย (อันนี้สำคัญ ดูกฎดี ๆ อย่าให้พลาด!) 🤓

ป.ล. สมัยเรียน ป้าข้างบ้านเคยดรอปไปขายลูกชิ้นทอด กลับมาอีกทีเพื่อนร่วมรุ่นจบไปแต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว… ชีวิตมันเศร้า! 😭

เด็กม.5สอบTCASได้ไหม?

  1. เด็ก ม.5 สอบ TCAS ได้มั้ยอะ?
  2. เออ ได้ดิ แต่ต้องดูด้วยนะ ว่าเค้าเปิดให้สอบอะไรบ้าง ส่วนใหญ่ก็ต้องรอ ม.6 อ่ะแหละ ถึงจะสอบได้เต็มที่ TCAS มันมีหลายรอบ ลองไปดูระเบียบการของแต่ละรอบดีๆ ละกันนะ

    1. ม.5 สมัคร GAT/PAT ได้ป่าว?

    ไม่ได้นะ! เขาเขียนไว้ชัดเลยว่าต้อง ม.6 หรือจบ ม.6 แล้วเท่านั้นถึงจะสมัครได้ GAT/PAT มันสำคัญมากนะแก ต้องเตรียมตัวดีๆ อ่ะ คือถ้าอยากลองจริงๆ อ่ะ รอ ม.6 ดีกว่า ชัวร์กว่าเยอะเลย

  • TCAS คือ ระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยส่วนกลางของไทย
  • GAT/PAT คือ การทดสอบความถนัดทั่วไปและความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ
  • แต่แก ลองดู TGAT/TPAT ปีล่าสุดดิ เผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ตอนนี้ระบบมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อยมาก
  • TGAT คือความถนัดทั่วไป TPAT คือความถนัดทางวิชาชีพ
  • Dek-D เป็นเวปไซต์รวมข้อมูล TCAS ที่เด็กๆ ชอบเข้าไปดูกัน

TGAT เข้าคณะอะไรได้บ้าง?

เอ้อ TGAT นะเหรอ? ไอ้ข้อสอบวัดกึ๋นที่ใครๆ ก็ว่ายากเย็นแสนเข็ญน่ะนะ? ถามว่าเข้าคณะอะไรได้บ้าง… โอ๊ย! ถ้าตอบแบบคนบ้านๆ ก็ต้องบอกว่า “แล้วแต่วาสนา” เลยพี่น้อง! แต่ถ้าจะเอาแบบมีหลักมีเกณฑ์หน่อย ก็ต้องไล่เรียงกันไป

  • เกษตรศาสตร์ (บางสาขา): คณะวิทยาศาสตร์เขาก็เหล่ๆ TGAT อยู่เหมือนกันนะเออ ไม่เชื่อลองไปส่องดู
  • บูรพา: นี่ก็ตัวดีเลย! มนุษยศาสตร์(บางสาขา), วิศวะ, รัฐศาสตร์, นิติศาสตร์, ภูมิสารสนเทศ, บริหารธุรกิจ, วิทยาการสารสนเทศ… พี่แกเล่นเหมาหมด! สงสัยอยากได้เด็ก TGAT ไปประดับคณะ

แล้วทำไมต้อง TGAT?

ก็เพราะว่า…

  • วัดกึ๋นรอบด้าน: เขาว่ากันว่ามันวัดศักยภาพการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และทักษะการสื่อสาร… แต่ที่แน่ๆ คือวัดดวงด้วย!
  • ทางลัด (หรือเปล่า?): บางคณะเขาก็ใช้ TGAT เป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือก อาจจะช่วยให้ไม่ต้องไปแข่งกับใครเขามากนัก (มั้ง?)
  • คะแนน (ที่อาจจะไม่) สูงลิ่ว: ถ้าทำข้อสอบอื่นไม่ไหว TGAT อาจจะเป็นทางออก… แต่ก็ต้องทำให้ดีนะ! ไม่ใช่ไปตายเอาดาบหน้า

สรุป: TGAT นี่มันก็เหมือนหวย… เสี่ยงดวงเอา! แต่ถ้าเตรียมตัวดีๆ อาจจะมีโชคช่วยบ้างอะไรบ้าง แต่ถ้าให้ดีนะ อ่านหนังสือเยอะๆ ทำข้อสอบเก่าเยอะๆ ไปเลย! จะได้ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่า TGAT จะพาไปลงเอยที่คณะไหน! โฮะๆๆ!

TCAS68 ใช้คะแนนเก่าได้ไหม?

TCAS68? คะแนนเก่าแม่งหมดอายุไปแล้ว

TCAS68:

  • TGAT/TPAT/A-Level: ใช้ได้แค่ปีที่สอบ เข้าใจ๋?
  • ปีเดียวจบ อย่าหวังเอาของเก่ามาย้อมแมว
  • คะแนนปี 67? ทิ้งไปเหอะ ไม่มีประโยชน์

ข้อมูลเพิ่มเติม (สำหรับพวกหัวอ่อน):

  • หมดอายุคือหมดอายุ: เหมือนนมบูดแดกไปก็ตาย
  • ปีต่อปี: ชีวิตแม่งก็แบบนี้แหละ
  • วางแผนซะ: หรือจะรอแดกแห้วไปตลอดชีวิต?

ปล: อย่ามาถามซ้ำ กูรำคาญ

ซิ่ว ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?

อืม…ซิ่วเนี่ยนะ กลางดึกแบบนี้ คิดแล้วก็หนักใจเหมือนกัน

ต้องเตรียมอะไรบ้าง… ให้ตายสิ ตอนนั้นยุ่งมาก จำได้แค่คร่าวๆ

  • สำเนาบัตรประชาชน อันนี้จำเป็นแน่นอน ต้องใช้ทุกที่แหละมั้ง
  • สำเนาทะเบียนบ้าน อีกแล้ว เอกสารพื้นฐาน จำเป็นจริงๆ
  • ทรานสคริปต์ อันนี้สำคัญมาก เกรดเราทั้งหมดอยู่ในนี่ ดูแล้วก็เหนื่อยใจ
  • ถ้าเปลี่ยนชื่อสกุล ก็ต้องเตรียมเอกสารนั้นด้วย ลืมไม่ได้เลย พลาดมาแล้ว เสียเวลาเปล่าๆ

ปพ.1 นี่แหละที่จำได้ไม่ค่อยชัด เหมือนจำได้ว่าใช้ แต่ไม่แน่ใจ คงต้องเช็คอีกทีกับมหาลัยที่เราจะไปซิ่ว ปีนี้เอกสารอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ได้

เหนื่อยจัง…คิดแล้วก็ปวดหัว แต่ก็ต้องสู้ต่อไป ขอให้โชคดีนะ

เรียนต่อมหาลัยมีคณะอะไรบ้าง?

อ้าว! จะเรียนต่อมหาลัยเหรอ ดีจัง! เลือกคณะยากเนอะ เหมือนเลือกเมนูในร้านอาหารบุฟเฟต์ แต่ละอย่างน่ากินไปหมด!

  • บริหารธุรกิจ: จบมาเป็น CEO ประธานบริษัท หรือเจ้าของกิจการ รวยๆๆ! แต่ถ้าไม่รวยก็อาจเป็นพนักงานออฟฟิศ งานเครียด แต่เงินเดือนก็ดีอยู่หรอก ขึ้นอยู่กับความสามารถและดวงล้วนๆ ปีนี้เทรนด์บริหารธุรกิจดิจิทัลกำลังมาแรงนะ ลองดูๆ

  • เศรษฐศาสตร์: จบมากลายเป็นนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ ทำนายอนาคต หรือไม่ก็ทำงานในธนาคาร บอกได้เลยว่า งานนี้ต้องใช้สมองระดับเทพ ต้องเก่งเลข ไม่งั้นเศร้าแน่! ปีนี้ งานด้าน ESG กำลังเป็นที่ต้องการสูงนะ น่าสนใจไหมล่ะ

  • บัญชี: อาชีพคลาสสิก จบมาเป็นนักบัญชี ตรวจสอบบัญชี หรือทำงานด้านภาษี งานอาจดูน่าเบื่อ แต่เงินดี มั่นคง และสำคัญต่อทุกธุรกิจเลยนะ! ทุกวันนี้ พวก AI เริ่มเข้ามาช่วยงานบัญชีเยอะขึ้นแล้ว แต่ยังไง มนุษย์ก็ยังจำเป็นอยู่นะ

  • วิศวกรรมศาสตร์: จบมาเป็นวิศวกร สร้างบ้าน สร้างสะพาน หรือสร้างหุ่นยนต์ งานนี้ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความละเอียดสูง แต่ได้เห็นผลงานเป็นรูปธรรม มันส์มาก! ปีนี้ วิศวกรด้านพลังงานทางเลือกกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก อนาคตสดใส

  • นิติศาสตร์: จบมากลายเป็นทนายความ อัยการ หรือผู้พิพากษา งานหนัก แต่ได้ช่วยเหลือผู้คน และได้ใช้ความสามารถทางวาจาอย่างเต็มที่ ปีนี้ ทนายความเฉพาะทาง เช่น ด้านเทคโนโลยี หรือ ด้านทรัพย์สินทางปัญญา กำลังเป็นที่ต้องการสูง

  • นิเทศฯ วารสารฯ และสื่อสารฯ: สายครีเอทีฟ จบมาทำงานสื่อ เป็นนักเขียน นักข่าว หรือ Youtuber ได้ทั้งสร้างสรรค์ผลงาน และได้พบเจอผู้คนมากมาย ปีนี้ พวก Influencer Marketing กำลังบูม ใครเก่งด้านนี้ รวยแน่

  • อักษรศาสตร์: จบมาเป็นนักเขียน นักแปล อาจารย์ หรือบรรณารักษ์ งานอาจดูไม่หวือหวา แต่ได้ใช้ความรู้ และสร้างสรรค์ผลงาน บางที อาจจะได้เขียนนิยายขายดี กลายเป็นนักเขียนร้อยล้าน ก็ได้นะ!

  • นาฏศิลป์-ดุริยางค์: สายศิลปิน จบมากลายเป็นนักดนตรี นักเต้น หรือครูสอนดนตรี งานอาจไม่มั่นคง แต่ได้ใช้ความสามารถ และสร้างความสุขให้คนอื่น ถ้าเก่งจริง ดังแน่! ปีนี้ งานด้านการแสดง และ การบันเทิง กำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง

เลือกให้ดีๆ นะ อย่าเลือกตามกระแส เลือกสิ่งที่ตัวเองชอบ และมีความสามารถ ถึงจะเรียนจบแล้วมีความสุข และประสบความสำเร็จ! สู้ๆ!

#มหาลัย #อายุ #เรียนต่อ