ปลาทูหอมอยู่ได้กี่วัน

27 การดู

ปลาทูหอมเค็ม (ไม่จืด) เก็บได้นานแค่ไหน?

  • แช่เย็น: 3 เดือน
  • นอกตู้เย็น: 1 เดือน

ปลาทูหอมแดดเดียว เนื้อแน่น มัน อร่อย บรรจุ 4-5 ตัว น้ำหนัก 350-500 กรัม/แพ็ค มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ปลาทูหอมสดอยู่ได้นานกี่วัน?

จำได้ว่าซื้อปลาทูแดดเดียวมาจากตลาดนัดแถวบ้าน วันที่ 15 สิงหาคม ปีที่แล้ว แพคละ 5 ตัว หนักประมาณ 400 กรัม ราคา 80 บาท แบบเค็มๆ เนื้อแน่น อร่อยมาก! เก็บไว้ในตู้เย็น กินไปเรื่อยๆ จนเกือบ 3 เดือน ยังโอเคอยู่ แต่เริ่มไม่ค่อยสดเท่าไหร่แล้วนะ กลิ่นเริ่มเปลี่ยนไปนิดหน่อย เนื้ออาจจะไม่แน่นเท่าตอนแรกๆ

จริงๆ แล้ว อ่านข้างกล่องบอกว่าเก็บได้ 3 เดือน แต่สำหรับฉันนะ ถ้าเกิน 2 เดือน จะเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจ กลัวเสีย ส่วนถ้าไม่ได้แช่เย็นเลย นี่แค่ 1 อาทิตย์ก็เริ่มกลิ่นแล้วล่ะ ไม่ไหวแน่ๆ ถึงจะแดดเดียว ถึงจะเค็ม แต่ก็ยังเป็นของสด ต้องระวังนิดนึงนะ เรื่องนี้สำคัญมากเลยล่ะ อย่าปล่อยไว้นานเกินไป เดี๋ยวเสียของ เสียดายเงิน

สรุปคือ แช่เย็น อย่างน้อย 2 เดือน ปลอดภัยกว่า แต่ถ้าอยากให้มันอร่อยสุดๆ กินให้หมดก่อน 1 เดือนดีกว่า ปลอดภัย ไร้กังวล ยิ่งถ้าไม่ได้แช่เย็นด้วยนะ อย่าเลย อันตรายแน่ๆ เห็นภาพเลย เน่า เหม็น ไม่ไหวจริงๆ

ปลาทูหอมเก็บยังไง

อ้าว! ไม่มีตู้เย็นนี่มันเรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย เก็บปลาทูหอมยังไงล่ะเนี่ย ถ้าสมัยคุณยายผมนะ แกบอกว่า…

  • วิธีโบราณ (สไตล์คุณยาย): เอาปลาทูไปแขวนไว้ในที่ร่มๆ อากาศถ่ายเทดีๆ แบบนั้นแหละ แต่ระวังแมลงวันนะ ต้องหาผ้าขาวบางมาคลุมหน่อย ยิ่งถ้าเป็นปลาทูเค็มยิ่งอยู่ได้นานนะ แต่ก็ต้องดูแลหน่อยล่ะ เหมือนเลี้ยงลูกเลยแหละ ต้องเอาใจใส่

  • วิธีสมัยใหม่ (แต่ก็ยังโบราณนิดๆ): ถ้ามีโอ่งมังกรหรือภาชนะดินเผาขนาดใหญ่ เอาปลาทูใส่ลงไปแล้วฝังไว้ใต้ดิน เย็นฉ่ำดี แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่า “เย็นฉ่ำใจ” (ฮา) วิธีนี้ช่วยชะลอความเน่าเสียได้ระดับนึงนะ แต่ต้องมั่นใจว่าดินแห้งพอ

  • วิธีฉุกเฉิน (สำหรับคนที่ใจร้อน): ถ้าจะกินเร็วๆ ก็เอาไปแช่ในน้ำเย็นจัด (แต่ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ นะ) วิธีนี้ช่วยได้แค่ชั่วคราว เหมือนยาแก้ไอ บรรเทาได้แต่ไม่หายขาด

เอาจริงนะ ไม่มีตู้เย็นนี่ลำบากจริง สมัยก่อนผมเคยไปเที่ยวบ้านญาติที่ต่างจังหวัด ไม่มีตู้เย็น ปลาทูเค็มก็เก็บได้ไม่กี่วัน นี่แหละคือวิถีชีวิต ต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ไม่งั้นก็ต้องซื้อปลาทูใหม่บ่อยๆ ซะแล้ว ปีนี้ราคาปลาทูขึ้นนะครับ ต้องประหยัดหน่อย!

เพิ่มเติมเล็กน้อย (แต่สำคัญนะ): การเก็บรักษาปลาทูให้ได้นาน ขึ้นอยู่กับความชื้นและอุณหภูมิ ยิ่งแห้งและเย็น ยิ่งเก็บได้นาน อย่าลืมดูความสะอาดด้วยนะ แมลงวันเป็นศัตรูตัวฉกาจของปลาทูเลยล่ะ

ปลาทูเสียดูยังไง

ปลาทูเสียดูยังไงเหรอ? อะแฮ่ม… มาดูกันแบบขำๆ แต่ได้ความรู้เน้นๆ

  • คราบเหนียวมาเลย: ถ้าคราบเหนียวๆ นั้นเล่นใหญ่ มีกลิ่นเหม็นติดมาด้วย… โยนทิ้งไปเหอะ! แต่ถ้าแค่เหนียวๆ ใสๆ ติดมือมา อาจแค่ปลาทูนึ่งไม่สดเท่าไหร่

เคล็ดลับ(ไม่)ลับ วิธีซื้อปลาทูแบบเซียน (อันนี้แถมให้)

  • ดมก่อนเลย: ถ้าได้กลิ่น “ปลาทู” ปกติ… รอด! ถ้าได้กลิ่น “ซากศพใต้น้ำ”… ถอยด่วน!
  • ตาต้องใส: ปลาทูตาใสๆ น่ะ สด! ปลาทูตาขุ่นๆ เหมือนคนอดนอนมา 3 วัน… บาย!
  • เนื้อแน่นๆ: กดเบาๆ เนื้อต้องเด้งคืน ถ้าบุ๋มลงไปแล้วไม่กลับมา… นั่นมันปลาทูซอมบี้!
  • ท้องไม่ปริ: ถ้าท้องปลาทูจะแตก… แสดงว่า “น้อง” อาจจะไม่ไหวแล้ว
  • ดูที่เข่ง: ถ้าปลาทูในเข่งดูสดชื่น มีชีวิตชีวา… จัดไป! ถ้าปลาทูนอนกองกันแบบหมดอาลัยตายอยาก… คิดดูอีกที

เกร็ดความรู้แบบขำๆ แต่จริงจัง:

  • ทำไมปลาทูต้องหน้างอคอหัก? ไม่ใช่ว่าปลาทูขี้เกียจนะ แต่มันเป็นเทคนิคการจับปลาทูแบบดั้งเดิมของชาวประมงต่างหาก!
  • ปลาทูเค็ม vs ปลาทูสด: ปลาทูเค็มนี่แหละ ตัวดี! กินกับข้าวต้มร้อนๆ อร่อยเหาะ! แต่ต้องเลือกดีๆ นะ ไม่งั้นอาจเจอ “ปลาทูเค็ม…เกินไป”
  • ราคาปลาทูปีนี้: โอ๊ย! อย่าถาม! เศรษฐกิจแบบนี้ อะไรๆ ก็แพง! แต่เพื่อความอร่อย เราต้องสู้!

คำเตือน: อย่าเชื่อทุกอย่างที่อ่าน! ไปลองพิสูจน์ด้วยตัวเอง จะได้ปลาทูอร่อยๆ มากิน! (หรือไม่ก็… ได้ประสบการณ์!)

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • ปีนี้(2024) ราคาสินค้าเกษตรผันผวนมาก รวมทั้งปลาทูด้วย ต้องเช็คราคาดีๆ ก่อนซื้อ
  • ปลาทูเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี แต่กินแต่พอดีนะ! อะไรที่มากเกินไป ก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ!
  • ถ้าไม่แน่ใจว่าปลาทูเสียหรือไม่… อย่าเสี่ยง! ทิ้งไปเถอะ! “เสียดาย” ดีกว่า “เสียชีวิต”! (อันนี้พูดจริงจังนะ!)

ปลาทูหอมเก็บยังไง

เก็บปลาทูเค็มไว้ได้นานโดยไม่ต้องใช้ตู้เย็น หลักๆ คือต้องเน้นความแห้งและมืด

  • วิธีการเก็บ: ห่อปลาทูด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หลายชั้น หรือใช้ผ้าสะอาดที่แห้งสนิท เพื่อดูดซับความชื้น เก็บไว้ในภาชนะปิดสนิท เช่น กระป๋องโลหะ หรือหม้อดินเผา ปิดฝาให้แน่น สำคัญมากคือต้องวางไว้ในที่มืด อากาศถ่ายเทได้บ้างแต่ไม่โดนแดดโดยตรง ความชื้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของปลาทูเค็ม ถ้าความชื้นสูง จะทำให้เสียเร็ว บ้านผมเอง สมัยก่อน คุณยายจะใช้โอ่งดินเผา แล้วเอาฝาปิดแน่น วางไว้ในห้องเก็บของมืดๆ โอ่งดินเผามีคุณสมบัติช่วยดูดความชื้นได้ดี

  • ข้อควรระวัง: การเลือกซื้อปลาทูเค็มสำคัญ ควรเลือกที่แห้ง ไม่ชื้นแฉะ เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นผิดปกติ ถ้าซื้อมาแล้ว พบว่าปลาทูชื้น ควรนำไปตากแดดอ่อนๆ สักครู่ เพื่อลดความชื้นก่อนเก็บ แต่ระวังอย่าตากแดดจัด จะทำให้ปลาทูแห้งกรอบเกินไป

  • อายุการเก็บรักษา: แม้จะเก็บอย่างดี ก็เก็บได้ไม่นานเท่ากับการแช่เย็น ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรืออาจจะน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและคุณภาพปลาทู การสังเกตกลิ่น สี และเนื้อสัมผัส เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าพบว่ามีกลิ่นผิดปกติ หรือเนื้อปลาเปลี่ยนสี ควรทิ้งทันที เพื่อป้องกันอันตราย สุขภาพสำคัญกว่าเสียดายของ จริงมั้ยครับ

เพิ่มเติม : ปัจจัยสำคัญคืออุณหภูมิและความชื้นของบ้าน ถ้าบ้านอยู่ในที่ชื้น การเก็บรักษาจะยากกว่า อาจต้องหาวิธีดูดความชื้นเพิ่มเติม เช่น ใช้ซองดูดความชื้น วางไว้ในภาชนะเก็บปลาทูด้วย

ปลาทูเสียดูยังไง

เรื่องปลาทูเนี่ย เมื่อวานไปตลาดนัดแถวบ้าน ตรงซอยรามคำแหง 121 ประมาณ 16.30 น. จะซื้อปลาทูทอดกินกับข้าว เจอปลาทูตัวเล็กๆ วางเรียงสวยเชียว แต่พอจับดู บางตัวรู้สึกเหนียวๆ แถมมีกลิ่นแปลกๆ คล้ายๆ กลิ่นเปรี้ยวๆ ไม่ใช่กลิ่นคาวปลาปกติ เลยไม่เอาดีกว่า เสียดายเงิน กลัวท้องเสีย

อีกอย่าง เคยซื้อปลาทูมาแล้ว แบบที่เนื้อยังชุ่มๆ นึ่งมาไม่นาน จับแล้วรู้สึกเหนียวๆ ติดมือด้วย แต่ไม่มีกลิ่น แบบนั้นก็ยังโอเค กินได้ แต่ถ้าเหนียวแล้วมีกลิ่นนี่ ไม่ไหวจริงๆ

สรุปง่ายๆ เรื่องดูปลาทูเสีย สำหรับฉันนะ

  • กลิ่น: สำคัญที่สุด! ถ้ามีกลิ่นเปรี้ยว หรือกลิ่นเหม็นผิดปกติ ทิ้งไปเลย
  • ความเหนียว: เหนียวติดมือ แต่ไม่มีกลิ่น อาจเป็นปลาทูนึ่งไม่สด ยังกินได้อยู่ แต่ถ้าเหนียวแล้วมีกลิ่น อันตราย!
  • สี: สีไม่สด ซีดๆ หรือเปลี่ยนสีไปจากปกติ ก็ควรระวัง

ปีนี้เจอแบบนี้บ่อยมาก เลยระวังขึ้นเยอะ ไม่งั้นเสียเงิน เสียสุขภาพเปล่าๆ ที่สำคัญ ถ้าซื้อแล้วไม่แน่ใจ อย่าเสี่ยง! ทิ้งไปเถอะ ไม่คุ้ม

ปลาทูนึ่งสด ดูยังไง

แสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านม่านหน้าต่างห้องครัว เวลาบ่ายแก่ๆ ของวันที่ 25 กันยายน 2566 อากาศเย็นสบาย ลมโชยอ่อนๆ พัดใบไม้ไหว เหมือนเวลาหยุดนิ่ง… แค่เพื่อรอฉันเลือกปลาทูน่า

  • ลำตัว: กลม อวบอิ่ม เหมือนลูกแก้วมุกสีเงิน สะท้อนแสงระยิบระยับ น่าทะนุถนอม
  • ดวงตา: โอ๊ย ใสปิ๊ง! เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า นูน สดใส บอกเลยว่าสดใหม่จริงๆ
  • เหงือก: สีแดงสด แดงจัด เหมือนทาลิปสติกสีแดงสดใหม่ ไม่มีรอยคล้ำ เลย สภาพเยี่ยมยอด
  • ครีบ: ตั้งตรง สมบูรณ์ ไม่ขาด ไม่หัก เหมือนปีกนกที่พร้อมจะโบยบิน
  • เนื้อ: แน่น เด้ง เมื่อฉันลองแตะเบาๆ มันเด้งกลับมาทันที เหมือนฟองน้ำคุณภาพดี ไม่ยุบตัว
  • กลิ่น: อืมมมมม กลิ่นทะเลอ่อนๆ สดชื่น ไม่เหม็น ไม่เปรี้ยว แค่กลิ่นคาวจางๆ หอมอ่อนๆ แบบนี้แหละ ถึงจะเรียกว่าสดแท้

คิดถึงทะเล คลื่นกระทบฝั่ง เสียงนกนางนวลร้อง อยากไปทะเลจัง แต่วันนี้ ได้ปลาทูน่าสดๆ ก็เหมือนได้ทะเลมาไว้ในครัวแล้ว

ปล. ฉันเลือกปลาทูน่าจากตลาดสดแถวบ้าน คุณภาพดี ราคาไม่แพง แม่ค้าใจดีด้วยนะ แนะนำเลย!

เนื้อปลาเน่าดูยังไง

ลมเย็นพัดผ่านใบหน้า แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงบนแผงปลาสด ระยิบระยับ ภาพนั้นยังติดตา แต่…

  • ปลาสด: ผิวมันวาววับ ตาใสแจ๋ว เหมือนดวงดาวบนท้องทะเล เหงือกสีชมพูสดใส กลิ่นหอมอ่อนๆ ของทะเลลึก เนื้อแน่น สัมผัสได้ถึงความสดใหม่ เหมือนทะเลกำลังกระซิบอยู่ข้างหู

  • ปลาเน่า: โอ้! ความแตกต่างช่างน่าสะพรึงกลัว ประกายหายไปสิ้น ผิวซีดเซียว เหมือนดวงตาที่หมดหวัง เมือกเหนียวข้นคล้ายน้ำตา ตาลึกโบ๋ ขุ่นมัว เหมือนจิตวิญญาณหลุดลอย กลิ่นเหม็นเน่า โชยมาแต่ไกล เนื้อเละ นิ่ม เหมือนดินเหนียว สัมผัสแล้ว ชวนขนลุก ปีนี้ฉันไปซื้อปลาที่ตลาดนัดหน้าบ้าน เจอปลาแบบนี้มาแล้ว แทบคลื่นไส้

  • ปีนี้ (พ.ศ. 2566): ฉันสังเกตเห็นว่าปลาที่ตลาดเช้าใกล้บ้าน ส่วนใหญ่สดใหม่ อาจเป็นเพราะการดูแลรักษาที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีบางครั้งที่เจอปลาไม่สด ทำให้ฉันต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เลือกปลาที่ดูสดใหม่ เนื้อแน่น และไม่มีกลิ่นเหม็น ก่อนซื้อทุกครั้ง เหมือนพิธีกรรมก่อนรับประทานอาหารทะเล

ความแตกต่างของปลาสดและปลาเน่า มันช่างเปรียบเสมือนความแตกต่างระหว่างชีวิตและความตาย ระหว่างความสวยงามและความน่ากลัว มันช่างเป็นภาพที่ติดตาตรึงใจ และยังคงเตือนฉันให้เลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด เสมอมา

เนื้อสัตว์ที่เน่าเสียมีลักษณะอย่างไร

อืม…กลางดึกแบบนี้ นึกถึงเรื่องเนื้อเน่าเสียขึ้นมา มันแปลกๆเนอะ

สีมันจะเปลี่ยนไปก่อนเลย ไม่ใช่สีแดงสดเหมือนเดิมแล้ว อาจจะออกน้ำตาลคล้ำๆ หรือเขียวๆ แล้วก็จะมีเมือกเหนียวๆ บางทีอาจจะเห็นอะไรแปลกๆ เหมือนราขึ้น ฉันเคยเจอเนื้อหมูเน่า ปีนี้เอง มันมีจุดสีเขียวๆ เล็กๆกระจายอยู่ กลิ่นนี่สิ…เหม็นมาก จำได้เลย เหม็นเปรี้ยวๆ คล้ายๆ กลิ่นของสิ่งที่เน่าเสียจริงๆ แล้วเนื้อจะเละๆ ไม่แน่นเหมือนเดิม อ่อนยวบลงไป

  • กลิ่น: เปรี้ยว เหม็น คล้ายเน่าเสีย
  • สี: คล้ำลง น้ำตาลเข้ม เขียว
  • เนื้อสัมผัส: เละ นุ่มยวบ เหนียว มีเมือก
  • ลักษณะอื่นๆ: อาจมีราขึ้น

ฉันว่า สำคัญที่สุดคือกลิ่น ถ้ามันเหม็นผิดปกติ อย่าเสี่ยงเลย ทิ้งไปเถอะ ไม่คุ้มที่จะลองชิม สุขภาพสำคัญกว่า โรคอาหารเป็นพิษนี่อันตรายนะ คิดแล้วก็ขนลุก ปีที่แล้วเพื่อนฉันก็โดน ป่วยหนักเลย กินยาหลายวัน จำได้ว่าเพื่อนฉันบอกว่า มันคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เป็นอยู่หลายวัน

จริงๆแล้ว การเน่าเสียมาจากจุลินทรีย์ มันจะสร้างสารต่างๆ ทำให้เปลี่ยนสี กลิ่น รสชาติ แล้วเนื้อก็จะนิ่มลง นี่แหละ สาเหตุหลัก คิดแล้วก็เครียด ต้องระวังเรื่องความสะอาดเวลาซื้อเนื้อ และเก็บให้ดีด้วย

มีวิธีดูเนื้อเสียอย่างไรบ้าง

ฮ่า! ดูเนื้อเสียเนี่ยนะ ง่ายกว่าที่คิด! อย่าไปคิดมากเหมือนเลือกแฟนเลย!

  • สัมผัสเป็นพระเอก! ลองจับเนื้อดูสิครับ นุ่มเด้งเหมือนหน้าอกสาวๆ ไหม? หรือแข็งโป๊กเหมือนหัวใจผมตอนโดนเท ถ้าแห้งแข็งหรือเละเป็นโจ๊ก โยนทิ้งไปเลย! อย่าเสี่ยง! ชีวิตมีค่ากว่าเนื้อเน่า!

  • สีสันบอกความจริง! เนื้อสดใหม่ สีเค้าจะสวยงาม ถ้าสีซีดขาวคล้ำหรือมีจุดเขียวๆ นั่นแหละครับ แบคทีเรียมาปาร์ตี้แล้ว! รีบส่งมันไปเข้าห้องเย็น(ขยะ)โดยพลัน! อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงกับอาหารเป็นพิษ! ปีที่แล้วผมเกือบไปแล้วเพราะกินปลาดิบเสีย ร้องไห้หนักมาก

  • กลิ่นบอกชะตา! ถ้าได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือเหม็นเน่า ไม่ต้องคิดมากครับ มันบอกลาโลกแล้ว! ทิ้งไปเถอะครับ อย่าฝืนกิน ไม่คุ้มเสี่ยงป่วย! ตอนเด็กๆผมเคยกินไส้กรอกเสีย จำจนตาย ทรมานมาก!

เพิ่มเติมเล็กน้อย (ปี 2566): การเก็บรักษาเนื้อที่ถูกวิธีสำคัญมากนะครับ ควรแช่เย็นให้ถูกต้อง อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส และใช้ภายในเวลาที่เหมาะสม ตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ อย่าประมาท! ชีวิตคุณมีค่ากว่าเนื้อราคาถูก!

ปลาทูต้องแช่ตู้เย็นไหม

ไม่ต้องแช่เย็นก็ได้ แต่ถ้าอยากเก็บนาน แช่แข็งเลย ห่อดีๆ อย่าให้ความชื้นเข้า

  • ปลาทูสด แช่แข็งได้หลายเดือน ถ้าแช่เย็น ไม่กี่วันก็เน่า
  • น้ำแข็งเกาะขวด เรื่องธรรมดา อุณหภูมิห้องฉันต่ำอยู่แล้ว
  • ปีนี้ ฉันเก็บปลาทูแช่แข็งไว้ ได้เกือบหกเดือน ยังใช้ได้อยู่ กินกับข้าวสวยร้อนๆ โคตรอร่อย
#ปลาทู #หอม #อายุ