เเพทย์4ปี เรียนอะไรบ้าง
แพทย์ปี 4: ชีวิตจริงในโรงพยาบาล
- เริ่มเรียนรู้จากผู้ป่วยจริง ซักประวัติ ตรวจร่างกาย และทำรายงานโรค
- อยู่เวรดูแลผู้ป่วยนอกเวลา
- เรียน 4 วิชาหลัก: สูตินรีเวช, ศัลยกรรม, อายุรกรรม, กุมารเวช สลับหมุนเวียนไป
แพทย์ปี 4 เรียนอะไรบ้าง?
ปีสี่นี่แหละ ชีวิตหมอเริ่มต้นจริงๆ จำได้เลย ตอนนั้นอยู่ศิริราช เดินเข้าวอร์ดวันแรก ตื่นเต้นมาก เหมือนหลุดเข้าไปอีกโลก ต้องเจอคนไข้จริง ๆ แล้วนะ ไม่ใช่แค่ในหนังสือ.
ต้องเริ่มซักประวัติคนไข้เอง ตรวจร่างกายเอง เขียนรายงานเอง บางทีก็งงๆ ทำไมตรวจไม่เจอเหมือนอาจารย์เขา แต่ก็ต้องพยายาม.
มีอยู่วันนึง คนไข้ปวดท้องมาก เราตรวจเท่าไหร่ก็หาสาเหตุไม่เจอ สุดท้ายอาจารย์มาดู แป๊บเดียวรู้เลย ไส้ติ่งอักเสบ. ตอนนั้นรู้สึกเลยว่า ประสบการณ์สำคัญจริงๆ.
เรียนสี่วิชาหลักวนไป สูติฯ ศัลย์ อายุร กุมาร จำได้เลย ตอนเรียนสูติฯ ครั้งแรก เกร็งมาก แต่พอได้คุยกับคนไข้ ได้ช่วย đỡเขา รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก.
แล้วก็มีอยู่เวรด้วย บางทีก็หนักหน่อย นอนน้อย แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ได้เรียนรู้การจัดการเวลา การทำงานภายใต้ความกดดัน. เหนื่อยแต่สนุกดี.
ศัลยแพทย์มีหน้าที่ทำอะไร
ศัลยแพทย์: หมอผ่าตัดเนี่ยนะ? ก็เหมือนช่างซ่อมรถที่ซ่อมได้ตั้งแต่เครื่องยนต์ยันล้ออะไหล่ แต่ถ้าเจอรถที่มันพังแบบ “โอ้โห…นี่มันซากชัดๆ” เขาก็จะโบกมือบอก “ไปหาช่างเฉพาะทางเถอะโยม!” นั่นแหละ!
- ผ่าทุกอย่างที่ขวางหน้า (เกือบ): ตั้งแต่ไส้ติ่งอักเสบยันก้อนเนื้อประหลาด ศัลยแพทย์ทั่วไปนี่แหละจัดการ
- รู้หมดแต่ไม่เก่งสุด: เหมือนเป็ดที่ว่ายน้ำก็ได้ บินก็ได้ เดินก็ได้ แต่ไม่เก่งซักอย่าง! ถ้าเจอเคสยากๆ เขาจะส่งต่อให้หมอเฉพาะทาง
- ส่งต่ออย่างมีชั้นเชิง: ไม่ใช่ว่า “เฮ้ย! ยากไป ไปหาคนอื่นเลย!” แต่เขาจะบอกว่า “คุณโยม…อาการแบบนี้ต้องให้มือโปรเฉพาะทางดูแลนะจ๊ะ”
เกร็ดน่ารู้: ศัลยแพทย์บางคนนี่นะ เย็บแผลเก่งกว่าแม่ฉันเย็บผ้าอีก!
ศัลยแพทย์มีหน้าที่อะไรบ้าง
ศัลยแพทย์เนี่ยนะ หน้าที่เยอะแยะไปหมดเลย! แบบว่า…
-
ผ่าตัดสิ! นี่แหละงานหลัก แต่ก็แล้วแต่สาขาที่เขาเรียนมานะ บางคนก็ผ่าตัดหัวใจ บางคนก็กระดูก ฉันเพื่อนสนิทเรียนศัลยกรรมตกแต่ง เขาบอกว่างานเยอะมาก ปีนี้เห็นเขาบ่นเรื่องเคสเยอะขึ้นอีก เหนื่อยสุดๆ
-
ดูแลคนไข้หลังผ่าตัดด้วย ต้องติดตามผล ประเมินอาการ งานนี้ก็สำคัญ แบบว่า ต้องเช็คแผล ดูว่ามีอะไรผิดปกติไหม บางทีต้องอยู่เฝ้าคนไข้ บางทีก็ต้องประสานงานกับทีมแพทย์คนอื่นๆ วุ่นวายดี
-
แล้วก็ให้คำแนะนำคนไข้กับญาติ เรื่องการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด เรื่องจิตใจ นี่สำคัญมากนะ ฉันเคยไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาล เห็นหมอเอาใจใส่คนไข้ดี สงสารเหมือนกัน เหนื่อยขนาดนั้น
-
งานวิจัยก็มีนะ ศัลยแพทย์ก็ต้องเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆอยู่ตลอด ต้องอัพเดตความรู้ ไปประชุมบ้าง เขียนบทความบ้าง เพื่อพัฒนาการรักษาให้ดีขึ้น ปีนี้เห็นข่าวการแพทย์ก้าวหน้าขึ้นเยอะเลย เทคโนโลยีใหม่ๆมาตลอด
อืมมม… ฉันว่าเหนื่อยนะ งานหนัก ต้องรับผิดชอบสูง แต่ก็เป็นอาชีพที่น่าชื่นชม ช่วยเหลือคนได้เยอะ เพื่อนฉันบอกว่า แม้เหนื่อยแค่ไหน แต่เห็นคนไข้หายดี ก็มีความสุขแล้ว จริงไหมนะ? สงสัยต้องลองถามหมอจริงๆดูซะหน่อย ว่าแต่ปีหน้าเขาจะบ่นอะไรอีกนะ งานเยอะขึ้นหรือเปล่าเนี่ย…
หมอศัลย์ ตรวจอะไรบ้าง
หมอศัลย์ตรวจไรบ้างเนี่ยะ ก้อนเนื้อ ตรวจได้ปะ เออใช่ มะเร็งเต้านมด้วยนิ เราว่าต้องตรวจภายใน ตรวจภายนอกด้วยละมั้ง ไส้ติ่งด้วย จำได้แม่เราเคยเป็นผ่าตัดใหญ่เลย ไส้เลื่อนด้วยป่าวหว่า? หรือเราจำสลับกับอย่างอื่นนะ ลืมแล้ว ไส้เลื่อนนี่น่าจะใช่
- ก้อนเนื้อ/เนื้องอก (ทั้งนอกและใน)
- มะเร็งเต้านม (เราว่าสำคัญมากเลยนะ อันนี้)
- มะเร็งลำไส้ (เพื่อนพ่อเราเคยเป็น ตอนนี้หายแล้ว)
- มะเร็งตับ (อันนี้น่ากลัว)
- ไส้ติ่งอักเสบ (นี่ก็ผ่าตัดเหมือนกัน เคยเห็นคนไข้ที่ รพ. ตอนไปเยี่ยมญาติ)
- ไส้เลื่อน (อันนี้ไม่แน่ใจว่าผ่าตัดไหม แต่คิดว่าใช่)
- แผลเบาหวาน (ยายเราเป็นเบาหวาน แผลหายยากมาก)
- แผลกดทับ (อันนี้ก็น่าสงสารนะ คนป่วยติดเตียง)
- แผลเรื้อรัง (จำได้พี่ที่ทำงานเคยเป็น แผลที่ขา หายยากมาก)
เมื่อกี้โทรหาแม่ แม่บอกว่าพ่อเราไปตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนเมื่อเดือนมีนาคม 2567 ตรวจกับหมอศัลย์ด้วย นี่ก็ว่าจะพาแม่ไปตรวจบ้าง แม่เราชอบปวดหลัง กลัวจะเป็นอะไร เราเคยอ่านเจอว่าโรคบางอย่างมันไม่มีอาการแสดงออกตอนแรกๆด้วย ต้องตรวจถึงจะรู้ ว่าแต่เราจะพาแม่ไปตรวจที่ไหนดีนะ โรงพยาบาลรัฐบาลคนเยอะมาก รอนาน หรือจะโรงพยาบาลเอกชนดี แต่ก็แพง คิดหนักเลยเนี่ยะ
ศัลยแพทย์ ทํางานที่ไหน
ศัลยแพทย์ทำงานในหลายที่เลยนะ ส่วนใหญ่ก็โรงพยาบาลแหละ ทั้งรัฐและเอกชน คิดดูสิ คนไข้ผ่าตัดต้องมีเครื่องมือพร้อม โรงพยาบาลนี่ตอบโจทย์สุด อย่าง รพ.รัฐบาลแถวบ้านผมนี่ก็มีศัลยแพทย์ทั่วไป กระดูก เด็ก ครบเลย ส่วนเอกชนเนี่ย บางทีจะเฉพาะทางมากขึ้นหน่อย อย่างเพื่อนผมเป็นศัลยแพทย์หัวใจ ทำงานอยู่ รพ.เอกชนใจกลางเมืองเลย มีเครื่องมือทันสมัย เพราะเคสส่วนใหญ่จะซับซ้อนกว่า นอกจากโรงพยาบาล ก็ยังมีคลินิกเฉพาะทางอีกนะ อย่างคลินิกศัลยกรรมความงาม ศัลยกรรมตกแต่ง พวกนี้ก็ต้องใช้ศัลยแพทย์เหมือนกัน บางทีก็เห็นศัลยแพทย์เปิดคลินิกเองด้วย เป็นเจ้าของกิจการไปเลย แต่ส่วนใหญ่ถ้าเปิดคลินิกเอง มักจะเป็นหลังจากทำงานโรงพยาบาลมาซักพัก มีประสบการณ์ มีชื่อเสียงแล้ว ถึงจะออกมาเปิดเองได้ มันก็เหมือนเส้นทางอาชีพอย่างหนึ่ง ผมว่านะ บางทีก็คิดเหมือนกัน ถ้าเรามีความรู้เฉพาะทาง ก็สร้างโอกาส สร้างอาชีพได้หลายแบบเลยนะ
- โรงพยาบาลรัฐ: มักครอบคลุมศัลยกรรมพื้นฐานหลายสาขา รองรับคนไข้ทั่วไป เน้นบริการสาธารณสุข
- โรงพยาบาลเอกชน: อาจเน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมากขึ้น มีเครื่องมือที่ทันสมัย ค่าใช้จ่ายสูงกว่า
- คลินิกเฉพาะทาง: เช่น คลินิกศัลยกรรมความงาม ตกแต่ง เลสิก ทันตกรรม มักเน้นบริการเฉพาะด้าน
- คลินิกส่วนตัว: ศัลยแพทย์บางท่านเปิดคลินิกของตนเอง หลังจากสั่งสมประสบการณ์ มักเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทาง
อาชีพศัลยแพทย์ คืออะไร
อาชีพศัลยแพทย์: การผ่าตัดรักษาโรค
- แพทย์เฉพาะทาง ต้องผ่านการฝึกอบรมเข้มข้น ได้รับใบประกอบวิชาชีพ
- ผ่าตัด: กระทำต่อเนื้อเยื่อ อวัยวะ กระดูก ภายในร่างกาย
- วัตถุประสงค์: รักษาโรค บาดเจ็บ (เช่น ผ่าตัดหัวใจ ปี 2566 มีการพัฒนาเทคนิคผ่าตัดหัวใจน้อยที่สุดแผล ลดระยะเวลาพักฟื้น)
ความแตกต่างชัดเจน แพทย์ทุกคนไม่ใช่ศัลยแพทย์ แต่ศัลยแพทย์ทุกคนเป็นแพทย์ เป็นเพียงส่วนย่อย ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
เรียนแพทย์เฉพาะทางใช้เวลากี่ปี
แพทย์เฉพาะทาง เรียนต่อหลังแพทย์ทั่วไป อย่างน้อย 3 ปี
- ระยะเวลา: ขั้นต่ำ 3 ปี สูงสุด 6 ปี ขึ้นกับสาขา
- ความเชี่ยวชาญ: เน้นรักษาเฉพาะโรค หรือระบบในร่างกาย
- ตัวอย่าง: ศัลยแพทย์, อายุรแพทย์, กุมารแพทย์
- ความจริง: บางสาขาซับซ้อน เรียนนานกว่าที่คิด เส้นทางยาวไกลใช่เล่น
เพิ่มเติม: แพทย์ทั่วไปจบ 6 ปี ทำงานได้เลย แต่ถ้าอยาก “เก่ง” เฉพาะทาง ต้องต่อยอด ไม่ใช่แค่เรียน แต่คือชีวิต
หมอผ่าตัด เรียนคณะอะไร
หมอผ่าตัดอะหรอ? เรียนแพทย์สิ! คณะแพทยศาสตร์ทุกที่แหละ จบปุ๊บก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทางอีก อย่างศัลยกรรมเนี่ย ต้องเรียนแพทย์ประจำบ้าน ด้านศัลยศาสตร์ นานอยู่ หลายปีเลยล่ะ กว่าจะได้เป็นหมอผ่าตัดจริงๆ
แล้วก็ต้องสอบเอาใบประกอบโรคศิลป์ สาขาศัลยกรรม จากแพทยสภาด้วยนะ ถึงจะเปิดคลินิกได้ ไม่งั้นโดนจับแน่ๆ เพื่อนฉันคนนึงเรียนนานมากกก กว่าจะได้ใบประกอบโรคศิลป์ เหนื่อยเลย แต่พอได้มาภูมิใจมาก
- จบแพทยศาสตรบัณฑิต (MB.BCh.) ก่อน
- เรียนต่อแพทย์ประจำบ้าน (Residency) ด้านศัลยกรรม
- สอบใบประกอบโรคศิลป์ สาขาศัลยกรรม จากแพทยสภา
- เป็นสมาชิกราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย (ถ้าอยากเป็นแบบเทพๆ)
ปีนี้เพื่อนฉันมันเพิ่งสอบใบประกอบโรคศิลป์ผ่าน ดีใจใหญ่เลย บอกว่าเหนื่อยมากกก แต่ก็คุ้มค่า บอกว่าช่วงเรียนหนักมาก แทบไม่มีเวลาพักเลย แต่ก็ได้เรียนรู้เยอะ ประสบการณ์เพียบเลย
ศัลยแพทย์ คือหมออะไร
ศัลยแพทย์อะหรอ คือหมอผ่าตัดไง ง่ายๆเลย! หมอผ่าตัดทั่วไปก็เรียกเจนเนอรัลเซอร์เจอน์ (General Surgeon) แต่จริงๆแล้ว ศัลยแพทย์มันแยกย่อยเยอะแยะไปหมด ไม่ใช่แค่ผ่าตัดธรรมดาๆ นะ
- ประสาทศัลยแพทย์ คือหมอผ่าสมอง อันนี้ต้องแม่นๆเลยนะ
- ศัลยแพทย์อุบัติเหตุ อันนี้เจอแต่ในโรงพยาบาลใหญ่ๆอะ เพื่อนพี่ทำงานที่รพ.เอกชนแถวบ้านบอกมา วุ่นวายมาก
- กุมารศัลยศาสตร์ คือหมอผ่าตัดเด็ก ต้องใจเย็นๆเป็นพิเศษ พี่เคยเห็นหมอคนนี้ที่ รพ.รามคำแหง น่ารักมากกกก
ยังมีอีกเยอะเลยนะ จำไม่หมดจริงๆ แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้แหละ ศัลยกรรมตกแต่งก็เป็นส่วนหนึ่งของศัลยแพทย์ด้วยนะ เพื่อนพี่ไปทำจมูกมาที่คลินิกแถวสีลม แพงอยู่นะ แต่สวยจริงๆ
#การเรียน #หลักสูตร #แพทย์ปี4ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต