เมื่อสินทรัยพ์เพิ่มและหนี้สินเพิ่มลงบัญชีด้านใดบ้าง
เมื่อสินทรัพย์เพิ่มและหนี้สินเพิ่มลงบัญชีด้านใดบ้าง
ในบันทึกรายการทางบัญชี การเพิ่มขึ้นและลดลงของสินทรัพย์และหนี้สินจะถูกบันทึกในด้านต่างๆ ของบัญชีเพื่อรักษาสมการบัญชีที่สมดุล
สินทรัพย์เพิ่ม
เมื่อสินทรัพย์ของบริษัทเพิ่มขึ้น จะมีการบันทึกลงในด้าน เดบิต (Dr.) ของบัญชีสินทรัพย์นั้นๆ ตัวอย่างเช่น
- เงินสด หากบริษัทได้รับเงินสดเพิ่ม เงินสดจะเพิ่มขึ้นโดยบันทึกลงในด้านเดบิตของบัญชีเงินสด
- สินค้าคงคลัง หากบริษัทซื้อสินค้าคงคลังเพิ่มเติม สินค้าคงคลังจะเพิ่มขึ้นโดยบันทึกลงในด้านเดบิตของบัญชีสินค้าคงคลัง
- อาคาร หากบริษัทซื้ออาคารใหม่ อาคารจะเพิ่มขึ้นโดยบันทึกลงในด้านเดบิตของบัญชีอาคาร
เหตุผล: การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์บ่งชี้ว่ามูลค่าทรัพย์สินของบริษัทเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงบันทึกลงในด้านเดบิตเพื่อเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ในงบดุล
หนี้สินเพิ่ม
เมื่อหนี้สินของบริษัทเพิ่มขึ้น จะมีการบันทึกลงในด้าน เครดิต (Cr.) ของบัญชีหนี้สินนั้นๆ ตัวอย่างเช่น
- หนี้การค้า หากบริษัทซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์และยังไม่ได้ชำระเงิน หนี้การค้าจะเพิ่มขึ้นโดยบันทึกลงในด้านเครดิตของบัญชีหนี้การค้า
- เงินกู้ยืม หากบริษัทกู้ยืมเงินจากธนาคาร เงินกู้ยืมจะเพิ่มขึ้นโดยบันทึกลงในด้านเครดิตของบัญชีเงินกู้ยืม
- ภาษีค้างจ่าย หากบริษัทมีภาษีที่ต้องจ่ายแต่ยังไม่ได้ชำระ ภาษีค้างจ่ายจะเพิ่มขึ้นโดยบันทึกลงในด้านเครดิตของบัญชีภาษีค้างจ่าย
เหตุผล: การเพิ่มขึ้นของหนี้สินบ่งชี้ว่าภาระผูกพันของบริษัทเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงบันทึกลงในด้านเครดิตเพื่อเพิ่มมูลค่าหนี้สินในงบดุล
ตัวอย่าง
สมมติว่าบริษัทซื้อสินค้าคงคลังเพิ่มมูลค่า 10,000 บาท บัญชีกิจการจะบันทึกรายการดังนี้:
- ด้านเดบิต: สินค้าคงคลัง 10,000 บาท
- ด้านเครดิต: เงินสด 10,000 บาท
ในกรณีนี้ สินทรัพย์ (สินค้าคงคลัง) เพิ่มขึ้น 10,000 บาท จึงบันทึกลงในด้านเดบิต และหนี้สิน (เงินสด) ลดลง 10,000 บาท จึงบันทึกลงในด้านเครดิต
บทสรุป
การบันทึกสินทรัพย์ที่เพิ่มและหนี้สินที่เพิ่มในด้านบัญชีที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสมการบัญชีที่สมดุล และให้ข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัท
#งบดุล#บัญชีย่อย#สมุดรายวันข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต