สัมภาษณ์ พูดยังไง

44 การดู

สัมภาษณ์งาน: เตรียมพร้อมรับมือ

  1. บทพูด: วางแผนโครงสร้างคำตอบ เน้นความกระชับ ตรงประเด็น

  2. ฝึกซ้อม: ซ้อมพูดหน้ากระจก ปรับน้ำเสียง ท่าทางให้ดูมั่นใจ

  3. ธรรมชาติ: หลีกเลี่ยงการอ่านสคริปต์ ให้การตอบเป็นธรรมชาติ แสดงความเป็นตัวของตัวเอง

  4. ข้อมูลองค์กร: ศึกษาข้อมูลบริษัท ตำแหน่งงาน และวัฒนธรรมองค์กรล่วงหน้า

  5. จุดแข็ง-จุดอ่อน: วิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย และเตรียมตัวตอบคำถามเกี่ยวกับข้อจำกัดได้อย่างสร้างสรรค์

  6. ผ่อนคลาย: ความมั่นใจสำคัญ อย่ากดดันตัวเองเกินไป แสดงความเป็นมืออาชีพ และพร้อมเรียนรู้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เทคนิคการสัมภาษณ์งาน พูดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?

เฮ้อ, เรื่องสัมภาษณ์งานนี่นะ… จำได้เลยตอนเรียนจบใหม่ๆ โคตรตื่นเต้น!

คือเอาจริงๆ การเตรียมบทพูดมันก็ดีแหละ, แต่! อย่าท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทองนะเว้ย. เคยทำมาแล้ว พังไม่เป็นท่า! หน้ากระจกก็ฝึกไป, แต่ให้เน้นความเป็นธรรมชาติ, ไม่ใช่หุ่นยนต์.

เรื่องข้อมูลบริษัทอ่ะ สำคัญจริง! แต่ไม่ใช่แค่ท่องประวัติ, ลองคิดว่าเราจะช่วยเค้าแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง? เคยเจอ HR ถามคำถามเจาะลึก, ตอบไม่ได้นี่หน้าเสียเลย.

จุดเด่นจุดด้อยก็ลิสต์ไปเหอะ, แต่! อย่าเฟค. บอกข้อเสียแบบฉลาดๆ เช่น “ผมเป็นคนละเอียดมาก, บางทีเลยใช้เวลาเยอะไปหน่อย”. อันนี้เคยใช้ได้ผลนะ, ฮ่าๆ!

แล้วก็… อย่ากดดันตัวเอง! หายใจลึกๆ คิดซะว่าไปคุยกับเพื่อน (ที่เก่งกว่านิดนึง) ก็พอ. สัมภาษณ์ครั้งนึงตอนปี 2015 แถวสีลม, เกือบเป็นลมเพราะประหม่าเกินไป, จำจนวันตาย.

แนะนำตัวสัมภาษณ์พูดอะไรบ้าง

งานสัมภาษณ์? แค่แนะนำตัวก็พังได้แล้วนะ

อย่าไปอ้อมค้อม ตรงไปตรงมา พูดแค่สิ่งที่สำคัญ

  • ชื่อ ตำแหน่งที่สมัคร ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง (เฉพาะเจาะจง ปีล่าสุด)
  • ความสามารถเด่นๆ ที่พิสูจน์ได้ อย่าพูดลอยๆ
  • ความมุ่งมั่น แสดงให้เห็นว่าอยากได้งานนี้จริง ไม่ใช่แค่หาอะไรทำไปวันๆ

เสน่ห์? มันอยู่ที่ความมั่นใจ ไม่ใช่การพูดจาหวานๆ

เอาจริงดิ HR เจอคนมาแล้วนับไม่ถ้วน เขาอยากได้คนทำงาน ไม่ใช่คนมาเล่าเรื่องชีวิต

ปีนี้ผมได้งานใหม่ที่บริษัท Tech Startup เงินเดือนดีขึ้น 30% เพราะผมเตรียมตัวดี ไม่ใช่โชคช่วย

ส่วนตัวผมนะ ชอบใช้เทคนิค STAR แต่ก็ปรับใช้ตามสถานการณ์

  • Situation: สถานการณ์ที่เจอ
  • Task: งานที่ต้องทำ
  • Action: วิธีการแก้ปัญหา
  • Result: ผลลัพธ์ที่ได้

จำไว้ อย่าเยอะ สั้นๆ กระชับ แต่ต้องคม HR ไม่มีเวลาฟังนิทานหรอก

สัมภาษณ์งานควรพูดอะไรบ้าง

กูทำด้านนี้มา 5 ปี หัวหน้าทีมโปรเจคต์ X ที่บริษัท Y ทักษะ? โค้ดดิ้งระดับเทพ บริหารคนเก่ง ปิดดีลได้ทุกงาน ภูมิใจ? ดันยอดขายขึ้น 30% ปีที่แล้ว แม่งโคตรโหด

ก่อนหน้านี้เคยอยู่ Z ตำแหน่ง วิศวกรซอฟต์แวร์ แต่เบื่อ งานมันจืด เลยอยากลองอะไรใหม่ๆ ที่นี่แหละ ดูท่าจะมันส์กว่า

  • ประสบการณ์ 5 ปี ในสายงานเดียวกัน
  • ทักษะด้านโค้ดดิ้งระดับสูง
  • ประสบการณ์บริหารทีม
  • ความสามารถปิดการขายได้ผลลัพธ์สูง
  • ประสบการณ์เพิ่มยอดขาย 30% ในปีที่ผ่านมา

แนะนำตัวยังไงให้โดดเด่น

เห้อ…แนะนำตัวไงให้ปังวะเนี่ย คิดหนักเลย

  • ชื่อเล่น: ชื่อจริงก็เชยไง ชื่อเล่นต้องจึ้ง! (แต่ก็…คิดไม่ออกซักที)
  • อาชีพ: “นัก(อยาก)เขียน” ไปเลยละกัน ดูมีอะไรไง (แต่จริงๆยังเขียนไม่จบซักเรื่อง แฮะๆ)
  • ความสนใจ: ชอบดูหนังผี…เกี่ยวไหมเนี่ย? หรือจะบอกว่าชอบปลูกต้นไม้ดี ให้ดูเป็นคนดี?
  • เป้าหมาย: อยากรวย! อันนี้พูดออกไปได้ป่ะ? หรือต้องบอกว่า “อยากพัฒนาตัวเอง”?
  • เรื่องตลก: เล่าเรื่องหมาตัวเองขี้ใส่รองเท้าคนอื่นดีไหม? จะฮาหรือโป๊ะ?
  • จุดเด่น: ทำอาหารอร่อย…แต่ถ้าไม่มีใครให้ลองชิมจะรู้ได้ไง?
  • คำถาม: ถามอะไรดีอ่ะ? “วันนี้กินอะไรกันมา?” มันดูสิ้นคิดไปป่ะวะ?
  • ความมั่นใจ: ทำไงให้ดูมั่นใจแต่ไม่มั่นหน้า? ยากจัง!

เออ…จริงด้วย! เพิ่งนึกออก ปีนี้ เขาฮิตอะไรกันนะ? ต้องทำการบ้านก่อนไปแนะนำตัวแล้ว!

(ข้อมูลเพิ่มเติม: หมาที่บ้านชื่อ “หมูแดง” ชอบกินขนมแมวเลียมากกว่าอาหารหมาอีก 5555)

หลักการสัมภาษณ์มีอะไรบ้าง

สัมภาษณ์? เรื่องง่ายใครว่ายาก

  1. คำพูด ชัดเจน เสียงดังฟังชัด ไม่มัวแต่กระซิบกระซาบ
  2. ภาษา เลือกใช้ให้ถูกกาละเทศะ ไม่ต้องภาษาวิชาการใส่สูท
  3. ท่าทาง มั่นใจ ไม่สั่นเป็นเจ้าเข้า อย่ากอดอกเหมือนไปงานศพ
  4. อดีต ช่างแม่ง อย่าเอาเรื่องขี้ๆ ที่ทำงานเก่ามาเล่า ให้เค้าดูถูก
  5. ฟัง ตั้งใจฟัง เข้าใจคำถาม ไม่ใช่สักแต่จะตอบ
  6. ถาม ถามคำถามดีๆ แสดงว่าทำการบ้านมา ไม่ใช่ถามเรื่องโง่ๆ
  7. สติ คุมสติให้ดี อย่าหลุด อย่าโป๊ะแตก อย่าเผลอพูดเรื่องที่ไม่อยากให้รู้

เพิ่มเติมนิดหน่อย:

  • แต่งตัว: ให้เกียรติสถานที่
  • เวลา: ไปให้ตรงเวลา อย่าสาย
  • ข้อมูล: รู้เรื่องบริษัทบ้าง ไม่ใช่ไปแบบไม่รู้อะไรเลย

จำไว้ พวก HR แม่งชอบคนแบบไหน กูรู้ดี

สัมภาษณ์งานออนไลน์ ถามอะไรบ้าง?

สัมภาษณ์งานออนไลน์ เขามักถามอะไรกันบ้างนะ? นี่คือคำถามยอดฮิตที่เรา(คนสัมภาษณ์)มักใช้

  • แนะนำตัวเอง: เล่าเรื่องที่มัน เชื่อม กับงานสิ ไม่ใช่ประวัติชีวิต ตอนผมสมัครงานแรกๆ ก็เล่าหมดเปลือก เขาคงเบื่อแย่
  • รู้จักตำแหน่งนี้ยังไง: ตอบให้เห็นว่าเราทำการบ้านมาดี ไม่ใช่แค่เห็นประกาศแล้วคลิกสมัคร ส่วนตัวผมชอบคนที่มี passion จริงๆ
  • ทำไมถึงลาออกจากงานเก่า: ห้ามด่าที่เก่าเด็ดขาด! พูดถึงโอกาสใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับ career path ตัวเองดีกว่า เหมือนเล่นหมากรุก ต้องมองไปข้างหน้า
  • รู้จักบริษัทนี้ดีแค่ไหน: ต้องรู้จริง ไม่ใช่แค่ข้อมูลบนเว็บไซต์ ผมเคยเจอคนตอบแบบท่องจำ มันดูไม่จริงใจ
  • จุดแข็ง-จุดอ่อน: ตอบจุดแข็งให้ตรงกับ job description จุดอ่อนก็พูดถึงสิ่งที่กำลังพัฒนาอยู่ ผมว่าสำคัญคือต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง
  • เงินเดือนที่คาดหวัง: ศึกษาเรทเงินเดือนในตลาดก่อนตอบ ผมว่าการประเมินตัวเองอย่างเหมาะสมคือความฉลาดอย่างหนึ่ง

แถม:

  • คำถามยอดฮิตอื่นๆ: ทำไมถึงสนใจงานนี้? มีคำถามอะไรจะถามเราไหม? (เตรียมคำถามดีๆ ไปด้วยนะ!)
  • Tip: เตรียมพร้อมเรื่องเทคนิค กล้องชัด ไมค์ดี เน็ตแรง สำคัญกว่าที่คิด
  • ปรัชญาส่วนตัว: การสัมภาษณ์คือการ “ขาย” ตัวเอง แต่ไม่ใช่การ “โกหก” ตัวเอง ต้องหาจุดที่ “จริงใจ” และ “เหมาะสม” ให้เจอ

อยากได้อะไรจากการทํางาน?

อยากได้อะไรจากการทำงาน? นอกจากเงินเดือนที่เลี้ยงชีพไปวันๆ (และอาจจะเหลือซื้อหวยงวดหน้า) ก็สวัสดิการนี่แหละตัวดี! มาดูกันสิว่าคนทำงานยุคนี้เค้า “อยากได้” อะไรจากองค์กรบ้าง…แบบที่ถ้าไม่ได้ ชีวิตมันจะขาดสีสันไปเลย! (ประชดนะ!)

10 สวัสดิการที่คนทำงานอยากได้ (แบบว่าถ้าไม่มี…มีเคือง!)

  1. โบนัส/ขึ้นเงินเดือน: อันนี้ไม่ต้องพูดเยอะ! เงินเดือนขึ้นนิดหน่อยเหมือนให้เงินเด็กกินขนม โบนัสสิของจริง! (แต่ได้น้อยก็เซ็งอยู่ดี!)
  2. วันหยุด/ลา: ลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน…ลาไปทำใจ! ชีวิตมันเหนื่อย!
  3. ประกันสังคม: อันนี้เหมือน “ยาขม” ต้องกิน! แต่พอป่วยจริงๆ ก็รู้สึกขอบคุณ (นิดนึง)
  4. ประกันสุขภาพ: ป่วยทีนึงหมดตัว! ประกันสุขภาพช่วยชีวิต (และเงินในบัญชี!)
  5. OT: ใครว่าอยากทำ OT? ไม่มีใครอยากทำหรอก! แต่ถ้าได้เงิน…ก็พอถูไถ!
  6. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: แก่ไปไม่ลำบาก! เก็บเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ…ถ้าไม่ตายซะก่อน!
  7. ค่ารักษาพยาบาลครอบครัว: พ่อแม่ป่วย ลูกป่วย เมียป่วย…เงินในกระเป๋าป่วยตาม! สวัสดิการนี้ช่วยได้เยอะ!
  8. เวลาทำงานยืดหยุ่น: ตอกบัตร 9 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็น? เชย! อยากตื่นสาย ทำงานที่บ้าน…ชีวิตดี๊ดี!
  9. WFH (Work From Home) : ไม่ต้องตื่นเช้าไปรถติดให้เสียสุขภาพจิต แถมได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงแสนรักอีกด้วย (อันนี้ส่วนตัวล้วนๆ!)
  10. วันลาพิเศษ: วันลาไปทำใจหลังอกหัก วันลาไปตามกรี๊ดดาราเกาหลี…ชีวิตมันต้องมีสีสัน!
  • เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: เคยเจอที่ทำงานให้ “คอร์สเรียนทำอาหาร” เป็นสวัสดิการ! ตอนแรกก็งงๆ แต่พอได้เรียนจริงๆ ก็สนุกดีเหมือนกัน! (แถมได้ทำอาหารกินเอง ประหยัดเงินไปอีก!)

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ (หรืออย่างน้อยก็ทำให้ขำๆ) นะครับ! ขอให้ทุกคนได้งานที่มีสวัสดิการดีๆ (และเพื่อนร่วมงานที่ดีด้วย!) สาธุ!

#พูดอย่างไร #วิธีพูด #สัมภาษณ์