ใช้อะไรล้างสีผม

ทางเลือกจากธรรมชาติ: ล้างสีผมแบบอ่อนโยน ไม่ต้องง้อสารเคมีรุนแรง

ใครว่าการเปลี่ยนสีผมต้องแลกมาด้วยสารเคมีทำร้ายเส้นผมเสมอไป? หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักเส้นผม อยากเปลี่ยนสีผมให้จางลงเล็กน้อย หรือเพียงแค่ต้องการลองล้างสีผมแบบอ่อนโยนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำสีใหม่ นี่คือทางเลือกจากธรรมชาติที่น่าสนใจ ซึ่งอาจช่วยคุณได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีรุนแรง:

1. พลังแห่งความเปรี้ยว: มะนาวและน้ำส้มสายชู

• มะนาว: กรดซิตริกในมะนาวช่วยเปิดเกล็ดผม ทำให้สีผมอ่อนลงได้เล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้สีผมสว่างขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ วิธีใช้คือผสมน้ำมะนาวกับน้ำในอัตราส่วนเท่าๆ กัน ชโลมให้ทั่วผม ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำซ้ำได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ระวังอย่าทิ้งไว้นานเกินไป เพราะอาจทำให้ผมแห้งเสียได้
• น้ำส้มสายชู: โดยเฉพาะน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (Apple Cider Vinegar หรือ ACV) มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ที่ช่วยปรับสมดุล pH ของหนังศีรษะ และยังช่วยให้สีผมหลุดลอกออกไปบ้าง วิธีใช้คือผสม ACV กับน้ำในอัตราส่วน 1:1 ชโลมให้ทั่วผมหลังสระ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำซ้ำได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

2. สิ่งของในครัวเรือน: เบกกิ้งโซดาและน้ำยาล้างจาน

• เบกกิ้งโซดา: มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ ที่ช่วยเปิดเกล็ดผมและล้างสีผมออกไปได้บ้าง วิธีใช้คือผสมเบกกิ้งโซดากับแชมพูในอัตราส่วน 1:1 สระผมตามปกติ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรใช้ควบคู่กับครีมนวดผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เพราะเบกกิ้งโซดาอาจทำให้ผมแห้งเสียได้
• น้ำยาล้างจาน: ฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ความเป็นด่างของน้ำยาล้างจานสามารถช่วยล้างสีผมได้บ้าง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ค่อนข้างรุนแรงและอาจทำให้ผมแห้งเสียอย่างมาก ควรใช้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ และต้องบำรุงผมอย่างเข้มข้นหลังใช้

3. บำรุงไป ล้างสีไป: น้ำมันหมักผม

• น้ำมันมะพร้าว/น้ำมันมะกอก: การหมักผมด้วยน้ำมันเหล่านี้ก่อนสระ จะช่วยให้เกล็ดผมเปิดออก และสีผมหลุดลอกออกไปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ น้ำมันยังช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมไปพร้อมๆ กัน ควรหมักผมด้วยน้ำมันอุ่นๆ ทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที ก่อนสระผมตามปกติ

4. ตัวช่วยที่ไม่คาดคิด: น้ำอัดลม

• น้ำอัดลม: อาจช่วยให้สีผมอ่อนลงได้เล็กน้อย โดยเฉพาะสีแดงหรือสีน้ำตาล วิธีใช้คือชโลมน้ำอัดลมให้ทั่วผม ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนนัก

ข้อควรระวัง:

• ผลลัพธ์อาจไม่เหมือนกัน: ประสิทธิภาพของวิธีเหล่านี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของสีผม สภาพเส้นผม และความถี่ในการทำ
• ทดสอบก่อนใช้: ควรทดสอบผลิตภัณฑ์บนผมเล็กน้อยก่อน เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่
• บำรุงผมเป็นพิเศษ: หลังจากใช้วิธีเหล่านี้ ควรบำรุงผมด้วยครีมนวด หรือทรีตเมนต์บำรุงผมอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันผมแห้งเสีย

สำคัญที่สุด: หากคุณต้องการเปลี่ยนสีผมอย่างเห็นได้ชัดเจน การปรึกษาช่างทำผมผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพวกเขาจะสามารถแนะนำวิธีการที่เหมาะสมกับสภาพผมของคุณและให้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้อย่างปลอดภัย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกวิธีล้างสีผมที่เหมาะกับคุณนะคะ!