สัตวแพทย์ทำงานกี่วัน

กว่าจะเป็น “คุณหมอ” ของน้องหมาน้องแมว: เจาะลึกชีวิตการทำงานที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด

เคยไหมครับ? เวลาเห็นคุณหมอใส่เสื้อกาวน์เดินเข้ามาตรวจน้องหมาน้องแมวที่บ้าน เรามักจะรู้สึกอุ่นใจ สบายใจ เพราะรู้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแล แต่เคยสงสัยกันบ้างไหมครับว่า กว่าที่คุณหมอจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง? แล้วชีวิตการทำงานของพวกเขามันเป็นยังไงกันแน่?

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่รักสัตว์เลี้ยงมากครับ เลี้ยงน้องหมามาตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้ได้เห็นคุณหมอทำงานอยู่บ่อย ๆ ได้ยินมาบ้างว่างานหนัก แต่พอได้มาหาข้อมูลเจาะลึกจริง ๆ ถึงกับอึ้งไปเลยครับ!

ข้อมูลที่ได้มาส่วนใหญ่บอกว่า สัตวแพทย์ทำงานเฉลี่ย 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งฟังดูอาจจะไม่ต่างจากงานออฟฟิศทั่วไปเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวก่อนครับ! อย่าลืมว่านี่เป็นแค่ “เฉลี่ย” เท่านั้น!

แล้วอะไรที่ทำให้ชีวิตการทำงานของสัตวแพทย์ “ไม่ธรรมดา”?

1. On Call คือเพื่อนสนิท: ลองนึกภาพว่าคุณกำลังนอนหลับสบาย ๆ ตอนตีสาม แล้วจู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นเจ้าของน้องหมาที่รถชน ต้องการความช่วยเหลือด่วน! นี่แหละครับชีวิตจริงของสัตวแพทย์หลาย ๆ ท่าน พวกเขาต้องพร้อม On Call ตลอดเวลา เพื่อดูแลสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ซึ่งหมายความว่าเวลาพักผ่อนส่วนตัวแทบจะไม่มี

2. “เวลาทำการ” ไม่ได้จำกัดแค่ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น: คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์หลายแห่งเปิดทำการตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงดึกดื่น บางที่เปิด 24 ชั่วโมง! นั่นหมายความว่าคุณหมอต้องทำงานเป็นกะ สลับสับเปลี่ยนกันไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก

3. ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่: สัตว์แต่ละตัวมีอาการป่วยที่แตกต่างกัน การวินิจฉัยและการรักษาต้องแม่นยำและรวดเร็ว เพราะบางครั้ง “เวลา” คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยชีวิตสัตว์ได้ คุณหมอต้องมีความรู้ความสามารถรอบด้าน และต้องตัดสินใจภายใต้ความกดดันสูง

4. ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์: นอกจากความเหนื่อยทางกายแล้ว สัตวแพทย์ยังต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าทางอารมณ์อีกด้วย พวกเขาต้องรับมือกับความเครียดจากการรักษา ช่วยเหลือสัตว์ที่เจ็บป่วย และบางครั้งก็ต้องเผชิญกับการสูญเสีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างมาก

กฎหมายแรงงานกับสัตวแพทย์:

แม้ว่าอาชีพสัตวแพทย์จะมีความสำคัญ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายแรงงานเช่นกัน มีข้อกำหนดว่าไม่ควรให้สัตวแพทย์ทำงานเกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและลดความผิดพลาดในการทำงาน แต่ในความเป็นจริงหลาย ๆ ครั้งก็เป็นไปได้ยาก เพราะจำนวนสัตวแพทย์ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ

สิ่งที่อยากจะบอก:

จากการหาข้อมูลและพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์ ทำให้ผมเข้าใจเลยว่าอาชีพนี้ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด พวกเขาต้องเสียสละเวลาส่วนตัว ความสุข และบางครั้งก็ต้องแลกมาด้วยสุขภาพกายและสุขภาพใจ เพื่อดูแลเพื่อนร่วมโลกของเรา

ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ให้กำลังใจ และ เคารพ ในการทำงานของพวกเขา พยายามดูแลสัตว์เลี้ยงของเราให้ดีที่สุด เพื่อลดภาระของคุณหมอ และที่สำคัญที่สุดคือ เข้าใจ ว่าพวกเขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึกและต้องการการพักผ่อนเช่นกัน

หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนเข้าใจชีวิตการทำงานของสัตวแพทย์มากขึ้นนะครับ และอย่าลืมส่งกำลังใจให้คุณหมอที่ดูแลสัตว์เลี้ยงของเราด้วยนะครับ! เพราะพวกเขาคือฮีโร่ตัวจริงของเรา!