ค่าลิขสิทธิ์ มี VAT ไหม

13 การดู

ค่าสิทธิถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(3) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยทั่วไป เว้นแต่มีกฎหมายยกเว้นพิเศษ การพิจารณาว่าค่าสิทธินั้นต้องเสีย VAT หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของสัญญาและลักษณะการใช้งานสิทธิในแต่ละกรณี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ค่าลิขสิทธิ์: VAT ต้องจ่ายหรือไม่? ไขข้อข้องใจเรื่องภาษีที่คุณต้องรู้

ค่าลิขสิทธิ์เป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ที่สำคัญสำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน นักดนตรี โปรแกรมเมอร์ หรือผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ แต่สิ่งที่มักเป็นคำถามคาใจคือ ค่าลิขสิทธิ์ที่ได้รับนั้นต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือไม่? คำตอบนั้นอาจไม่ตรงไปตรงมาเสียทีเดียว เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา

ตามหลักการทั่วไปแล้ว ค่าลิขสิทธิ์ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(3) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งหมายความว่าจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล ขึ้นอยู่กับสถานะของผู้รับค่าลิขสิทธิ์ แต่ประเด็นเรื่อง VAT นั้นมีความซับซ้อนกว่า

หลักการพื้นฐาน: โดยทั่วไปแล้ว การให้บริการที่มีการเรียกเก็บค่าตอบแทน ถือเป็นการกระทำที่ต้องเสีย VAT ตามกฎหมาย ดังนั้น หากการให้สิทธิในการใช้ลิขสิทธิ์นั้นเข้าข่ายเป็นการให้บริการ ก็อาจจะต้องเสีย VAT ด้วย

ปัจจัยที่ต้องพิจารณา:

  • ลักษณะของสัญญา: สัญญาการให้สิทธิในการใช้ลิขสิทธิ์นั้นมีรายละเอียดอย่างไร? หากเป็นการอนุญาตให้ใช้สิทธิเพียงอย่างเดียว โดยที่ผู้ให้สิทธิยังคงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อยู่ ก็อาจพิจารณาได้ว่าเป็นการให้บริการ
  • ลักษณะการใช้งานสิทธิ: ผู้รับสิทธิสามารถนำลิขสิทธิ์ไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบใดได้บ้าง? หากมีการจำกัดขอบเขตการใช้งาน หรือมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่บ่งบอกว่าเป็นการให้บริการมากกว่าการขายขาดสิทธิ ก็อาจต้องเสีย VAT
  • สถานะของผู้ให้และผู้รับสิทธิ: ผู้ให้และผู้รับสิทธิมีสถานะเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT หรือไม่? หากทั้งสองฝ่ายเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT การออกใบกำกับภาษีและการเสีย VAT ก็จะเป็นไปตามปกติ
  • ข้อยกเว้นตามกฎหมาย: มีกฎหมายหรือประกาศใดๆ ที่ยกเว้นการเสีย VAT สำหรับค่าลิขสิทธิ์ประเภทนั้นๆ หรือไม่? เช่น กิจการบางประเภทอาจได้รับการยกเว้น VAT ตามนโยบายส่งเสริมของรัฐบาล

ตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพ:

  • กรณีที่ต้องเสีย VAT: บริษัทซอฟต์แวร์ให้สิทธิบริษัทอื่นในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยมีการเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์รายปี และมีการให้การสนับสนุนทางเทคนิคอย่างต่อเนื่อง กรณีนี้อาจถือเป็นการให้บริการ และต้องเสีย VAT
  • กรณีที่ไม่ต้องเสีย VAT: นักเขียนขายลิขสิทธิ์หนังสือให้กับสำนักพิมพ์ โดยมีการโอนสิทธิความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างเด็ดขาด กรณีนี้อาจถือเป็นการขายสินค้า และไม่ต้องเสีย VAT (หากนักเขียนไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT)

ข้อควรระวัง:

  • กฎหมายและแนวทางการตีความเรื่องภาษีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี
  • รายละเอียดในสัญญาการให้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพิจารณาเรื่อง VAT ดังนั้น ควรระบุรายละเอียดให้ชัดเจน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย

สรุป:

การพิจารณาว่าค่าลิขสิทธิ์ต้องเสีย VAT หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในรายละเอียดของแต่ละกรณี ไม่สามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่าต้องเสียหรือไม่เสียโดยอัตโนมัติ ดังนั้น การทำความเข้าใจหลักการพื้นฐาน ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การจัดการเรื่องภาษีเป็นไปอย่างถูกต้องและราบรื่น