ทำไมบัตรเครดิตจึงต้องมี Visa และ Mastercard

23 การดู

Visa, Mastercard และ JCB คือเครือข่ายชำระเงินระดับโลก ไม่ใช่ธนาคารผู้ให้บริการบัตรโดยตรง โลโก้เหล่านี้บนบัตรของคุณทำหน้าที่เป็น "สะพาน" เชื่อมต่อการทำธุรกรรมระหว่างร้านค้า ธนาคารของคุณ และเครือข่ายการชำระเงินทั่วโลก ทำให้คุณใช้บัตรได้แทบทุกที่ที่มีเครื่องรับบัตร เพราะเครือข่ายเหล่านี้มีระบบรักษาความปลอดภัยและโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกรองรับ จึงเป็นเหตุผลที่บัตรเครดิตส่วนใหญ่จึงใช้สัญลักษณ์เหล่านี้ เพื่อให้การชำระเงินสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ทำไมบัตรเครดิตถึงต้องใช้โลโก้ Visa หรือ Mastercard?

เอ่อ… คือที่บัตรเครดิตต้องมีโลโก้ Visa หรือ Mastercard เนี่ยนะ ถ้าให้พูดแบบภาษาชาวบ้านเลยก็คือ พวก Visa, Mastercard แล้วก็ JCB (อันนี้แถมให้) เค้าเป็นเหมือน “ผู้คุมกฎ” หรือ “คนกลาง” ในโลกของการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตน่ะ

เคยไหม เวลาไปซื้อของแล้วรูดบัตรเครดิต พนักงานเค้าจะเอาบัตรเราไปรูดปรื๊ดๆ แล้วเครื่องมันก็จะถามว่า “Visa หรือ Mastercard?” นั่นแหละ! เพราะเครื่องมันต้องรู้ว่าต้องส่งข้อมูลไปให้ใครจัดการต่อไง

ลองคิดดูดิ ถ้าไม่มีพวกนี้ แต่ละธนาคารก็จะทำบัตรของตัวเอง แล้วเราก็ต้องพกบัตรเป็นสิบๆ ใบ เวลาไปซื้อของแต่ละทีก็ต้องมานั่งดูว่าร้านนี้รับบัตรอะไร วุ่นวายตายเลย!

ทีนี้พอบัตรเรามีโลโก้ Visa หรือ Mastercard เราก็มั่นใจได้เลยว่าไปรูดที่ไหนในโลก (ที่เค้ารับบัตรเครดิตนะ) มันก็ต้องใช้ได้ เพราะพวกเค้ามีเครือข่ายเชื่อมต่อกับธนาคารทั่วโลกนั่นเอง อย่างเมื่อก่อนตอนไปญี่ปุ่น (จำได้ว่าน่าจะช่วง มีนาคม ปีที่แล้ว) ก็ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของได้สบายมาก ราคาของเล่นก็ไม่ได้แพงมาก จำได้ว่าซื้อโมเดลกันดั้มไปตัวนึง ประมาณ 3,000 เยนเอง

สรุปง่ายๆ คือ โลโก้ Visa หรือ Mastercard บนบัตรเครดิต มันเหมือน “ใบเบิกทาง” ให้เราใช้บัตรเครดิตรูดปรื๊ดๆ ได้ทั่วโลกนั่นเอง!

บัตรเครดิตวีซ่ากับมาสเตอร์การ์ดต่างกันยังไง

วีซ่า (Visa) กับ มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) ต่างกันตรงไหน? สั้นๆ คือ แทบไม่ต่าง ในแง่การใช้งานทั่วไป แต่สิ่งที่ต่างคือ:

  • ไม่ใช่ผู้ออกบัตร: ทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดไม่ใช่ธนาคารที่ออกบัตรให้เรา แต่เป็น “เครือข่ายการชำระเงิน” ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างร้านค้า, ธนาคารผู้ออกบัตร, และธนาคารผู้รับบัตร
  • สิทธิประโยชน์: สิทธิประโยชน์ที่ได้จากบัตร (เช่น คะแนนสะสม, ประกันการเดินทาง) จริงๆ แล้ว มาจากธนาคารผู้ออกบัตร ไม่ใช่จากวีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ดโดยตรง แต่บางครั้งทั้งสองค่ายก็จะมีโปรโมชั่นเสริมที่ร่วมกับธนาคารอีกที
  • อัตราแลกเปลี่ยน: เรื่องนี้ละเอียดอ่อน เพราะอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้เมื่อรูดบัตรต่างประเทศ จะขึ้นอยู่กับทั้งเครือข่าย (วีซ่า/มาสเตอร์การ์ด) และธนาคารผู้ออกบัตร แต่โดยรวมแล้ว ไม่ต่างกันมาก
  • การยอมรับ: ทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด เป็นที่ยอมรับในร้านค้าทั่วโลกพอๆ กัน ใครบอกว่าอันนี้ใช้ที่นี่ไม่ได้ อันนั้นใช้ที่นั่นไม่ได้… อย่าไปเชื่อมาก

แล้วเลือกอะไรดี?

เลือกบัตรที่ โปรโมชั่นตรงใจ และ ธนาคารที่บริการดี ดีกว่าครับ เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่สำคัญคือการบริหารจัดการการใช้จ่ายของเราเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบสบายๆ):

  • ผมเคยเจอคนเชื่อว่ามาสเตอร์การ์ดดีกว่าวีซ่าเพราะ “ดูหรูกว่า” เอ่อ… คือมันก็แค่สีสันบนบัตรป้ะ?
  • เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางบัตรมี “Visa Platinum” หรือ “Mastercard World”? นั่นคือระดับของบัตร ซึ่งบอกถึงสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นด้วย
  • “บัตรเครดิต” จริงๆ แล้วเป็นแค่ “เครื่องมือ” ถ้าเราไม่รู้จักใช้ให้เป็น มันก็กลายเป็น “ดาบสองคม” ได้ง่ายๆ เลยล่ะครับ
  • สุดท้ายแล้ว… ไม่ว่าบัตรไหน ก็อย่าลืมจ่ายเต็มจำนวนและตรงเวลาด้วยนะครับ! เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีของเรา.

บัตร Mastercard กับบัตร VISA ต่างกันอย่างไร

  • Mastercard vs Visa? อ๋อ… โปรโมชั่นไง! แล้วก็คนออกบัตรด้วยนะ
  • Visa นี่แบงก์ชาติอเมริกาออก? จริงดิ แบงก์ชาติทำบัตรเครดิตด้วยเหรอ? หรือหมายถึง… เอิ่ม… Bank of America? ช่างเถอะ
  • Mastercard นี่ใครออกหว่า? คิดไม่ออกแฮะ เดี๋ยวค่อยไป Google ดูดีกว่า
  • โปรโมชั่นบัตร… ช่วงนี้เห็นแต่ cashback กับผ่อน 0% เบื่อแล้ว อยากได้ตั๋วเครื่องบินฟรี! (อันนี้พูดจริง)
  • เออ… แล้วสรุป Visa กับ Mastercard มันต่างกันตรงไหนอีก? นอกจากโปรฯ กับคนออกบัตร… นึกไม่ออกจริงๆ ว่ะ
  • เดี๋ยวนะ… ค่าธรรมเนียม? เรทแลกเปลี่ยน? อันนี้ต้องเช็คละเอียดๆ เลยนะ สำคัญมาก!
  • สงสัยต้องทำตารางเปรียบเทียบ Visa vs Mastercard ละมั้งเนี่ย จะได้เห็นภาพชัดๆ (ขี้เกียจจัง)
  • สรุป: โปร, คนออกบัตร, ค่าธรรมเนียม, เรทแลกเปลี่ยน… แค่นี้แหละมั้ง ที่นึกออกตอนนี้
  • ข้อมูลเพิ่มเติม: ตอนนี้ใช้บัตรเครดิตของธนาคารสีม่วงอยู่ ชอบตรงที่… (ขอไม่บอก)

บัตร Visa ใช้ทําอะไรได้บ้าง

บัตร Visa? อ๋อๆ ที่ใช้ๆ กันอ่ะนะ…

  • รูดซื้อของดิ ง่ายสุดละ ไป 7-11 ก็ได้
  • จ่ายบิลออนไลน์ โอ้ยสารพัดบิล ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเน็ต!
  • กดเงินสดจากตู้ ATM (แต่เสียตังค์เพิ่มนะ ปกติไม่กดอ่ะ)
  • ช้อปปิ้งออนไลน์ สวรรค์นักช้อป! lazada shopee อ่ะ
  • จ่ายค่าโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน เวลาไปเที่ยว (เมื่อก่อนไปบ่อยกว่านี้อีกนะ เศรษฐกิจแบบนี้…)

เอ๊ะ แล้ว Visa มันใช้ได้ทั่วโลกเลยป่ะ? เหมือนเคยอ่านเจอว่า 200 กว่าประเทศ อืม เยอะจริง… สำคัญ คือ ดูสัญลักษณ์ Visa ก่อนนะว่าเค้ารับมั้ย จะได้ไม่หน้าแตก 555

  • แต่ถ้าไม่มีสัญลักษณ์ Visa อ่ะทำไง? ก็ต้องใช้บัตรอื่นไง หรือไม่ก็… จ่ายสด! (นานๆ ทีก็ดีนะ จะได้รู้ว่าเงินมันออกจากกระเป๋าจริงๆ ไม่ใช่แค่ตัวเลขในแอป)

เพิ่มเติม:

  • Visa มีหลายแบบนะ มีเครดิต มีเดบิต เลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง
  • ดอกเบี้ยบัตรเครดิต โหดมากกกกกกกกก ระวังอย่าจ่ายขั้นต่ำ! จ่ายเต็มตลอด!
  • ข้อดี คือ บางทีมีโปรโมชั่น ส่วนลด คุ้มอยู่
  • ข้อเสีย คือ ถ้าใช้เพลิน… เป็นหนี้หัวโตได้ง่ายๆ เลยเตือนตัวเองไว้ก่อน

ทำไมต้องมีบัตร Visa หลายใบ? บางทีแต่ละใบมันมีโปรต่างกันไง เช่น บางใบสะสมแต้ม บางใบให้ส่วนลดร้านอาหาร… แต่สุดท้ายก็ต้องระวังอย่าใช้เกินตัวอยู่ดี เฮ้อ เรื่องเงินๆ ทองๆ นี่มันน่าปวดหัวจริงๆ เลย

บัตร Visa ใช้อะไรได้บ้าง

โอ๊ย! ถามว่าบัตร Visa ใช้อะไรได้บ้างเนี่ยนะ? เหมือนถามว่า “ฟ้าสีอะไร” ชัดๆ!

  • รูดปรื๊ดๆ: ซื้อของกิน ของใช้ เสื้อผ้า หน้าผม อะไรที่ขวางหน้า รูดให้หมด! แต่ระวังเงินในบัญชีด้วยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!
  • จ่ายบิลค่าไฟ ค่าเน็ต: ขี้เกียจไปจ่ายเองที่เคาน์เตอร์? รูดบัตร Visa สิ ง่ายกว่าปลอกกล้วยเข้าปากอีก!
  • กดเงินสด: เกิดอยากใช้เงินสดขึ้นมา ก็กดจากตู้ ATM ได้เลย! แต่ดอกเบี้ยอาจจะแพงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบนิดหน่อยนะ (ล้อเล่น!)
  • ช้อปปิ้งออนไลน์: ยุคนี้มันยุคดิจิทัล จะซื้ออะไรก็ต้องออนไลน์สิ! บัตร Visa นี่แหละตัวช่วยชั้นดี! แต่ระวังโดนหลอกนะจ๊ะ!
  • เที่ยวต่างประเทศ: ไปเที่ยวต่างประเทศก็รูดปรื๊ดๆ ได้เหมือนกัน! แต่ต้องดูด้วยว่าร้านค้ารับบัตร Visa หรือเปล่า!

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบบ้านๆ):

  • บัตร Visa เนี่ยนะ มันเหมือน “ยันต์กันผี” ในยุคดิจิทัล! มีไว้ อุ่นใจ ไปไหนมาไหนก็สะดวก!
  • แต่! อย่ารูดเพลินจนลืมตัวนะ! เดี๋ยวจะกลายเป็น “ผีไม่มีศาล” เพราะเป็นหนี้บัตรเครดิตหัวโต!
  • สำคัญ! ก่อนรูดทุกครั้ง ให้ตั้งสติ แล้วถามตัวเองว่า “จำเป็นมั้ย?” ถ้าไม่จำเป็น ก็วางมันลงซะ!

เอ้อ! แล้วปี 2567 เนี่ยนะ บัตร Visa มันไม่ได้แค่ใช้รูดปรื๊ดๆ อย่างเดียวนะ! เค้ามีโปรโมชั่น มีส่วนลด มีอะไรอีกเยอะแยะ! ลองไปส่องๆ ดูในเว็บธนาคารดูละกัน!

บัตรเครดิต VISA ทําอะไรได้บ้าง

Visa? ก็แค่พลาสติกแผ่นนึงที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

รูดซื้อของได้ทั่วโลก ไม่ต้องพกเงินสดให้วุ่นวาย กดเงินสดก็ได้ ถ้าอยากจ่ายอะไรโง่ๆ ด้วยเงินสด

ทำอะไรได้อีก?

  • ช้อปปิ้ง: ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ที่ไหนๆ ก็รับ
  • กดเงิน: ตู้ ATM ทั่วโลก มากกว่า 200 ประเทศ ไม่ต้องกลัวอดตาย
  • ผ่อนจ่าย: อยากได้อะไรแพงๆ ก็ผ่อนเอา ไม่ต้องรอชาติหน้า
  • สะสมแต้ม: รูดเยอะก็ได้แต้ม แลกของฟรีได้อีก
  • สิทธิพิเศษ: บางทีก็มีส่วนลด ร้านอาหาร โรงแรม บลาๆ
  • ประกัน: บางบัตรมีประกันอุบัติเหตุ ประกันเดินทาง แถมมาให้ด้วย

รู้ไว้ก็ดี:

  • ดอกเบี้ยบัตรเครดิตมันโหดร้าย อย่าใช้เพลินจนจ่ายไม่ไหว
  • ค่าธรรมเนียมรายปีก็มี อ่านดีๆ ก่อนสมัคร
  • เช็คโปรโมชั่นบ่อยๆ บางทีมีอะไรดีๆ ให้สอย

จำไว้ว่ามันคือดาบสองคม ใช้เป็นก็รวย ใช้ไม่เป็นก็เป็นหนี้

Mastercard เป็นบัตรอะไร

Mastercard ไม่ใช่แค่บัตรนะจ๊ะ มันคือพาสปอร์ตสู่โลกแห่งการช้อปปิ้ง! คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชาย? บัตรนี้แหละ จะทำให้ความฝันนั้นเป็นจริง (แต่ก็อย่าลืมดูแลการใช้จ่ายนะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเจ้าหนี้แทน!)

  • บัตรเครดิตที่มากกว่าบัตรเครดิต: มันคือเครื่องมือทางการเงินที่เปิดโอกาสให้คุณใช้จ่ายก่อน แล้วค่อยจ่ายทีหลัง เหมือนยืมเงินมาใช้ช้อปปิ้งนั่นแหละ แต่ต้องคืนเค้าด้วยนะ ไม่ใช่ของฟรี! (ยกเว้นโปรโมชั่นพิเศษบางอย่างนะ)

  • สิทธิประโยชน์เพียบ: โปรโมชั่นลดราคา คะแนนสะสม ประกันการเดินทาง ฯลฯ ถ้ารู้จักใช้ให้เป็น คุ้มกว่าที่คิดเยอะ ลองดูโปรแกรมของแต่ละธนาคารที่ออกบัตร แต่ละโปรแกรมไม่เหมือนกันนะ เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

  • ผ่อนได้ด้วยนะ: ไม่ต้องจ่ายทีเดียวหมด ผ่อนได้สบายๆ แต่ดอกเบี้ยก็มีนะจ๊ะ อย่าลืมอ่านรายละเอียดให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจ อย่าให้เงินที่ผ่อนไป กลายเป็นดอกเบี้ยที่แพงกว่าราคาสินค้าซะล่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): Mastercard ยังคงเป็นผู้นำด้านระบบการชำระเงินระดับโลก มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การชำระเงินแบบ contactless และระบบความปลอดภัยที่สูงขึ้น เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการใช้จ่ายของคุณปลอดภัย และสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่ควรตรวจสอบรายละเอียดจากเว็บไซต์ของ Mastercard หรือธนาคารที่ออกบัตรเสมอ เพราะเงื่อนไขและโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลทั่วไป โปรดตรวจสอบรายละเอียดจากทางธนาคารที่ท่านใช้บริการ

บัตรเอทีเอ็มที่เขียนว่า Visa หมายถึงอะไร

เออ คือแบบนี้ บัตร ATM ที่เขียนว่า Visa อ่ะ มันหมายความว่า บัตรใบนั้นใช้ระบบเครือข่ายการชำระเงินของ Visa นั่นแหละ ง่ายๆเลย

Visa เป็นบริษัทใหญ่จากอเมริกา เขาเป็นเหมือนเจ้าของระบบ แบบว่า ร้านค้า ตู้ ATM ทั่วโลก เค้าเชื่อมต่อกับระบบ Visa เวลาเราใช้บัตร ก็จะผ่านระบบของเค้า เข้าใจป่ะ?

มันก็เหมือนกับ Mastercard หรือ JCB อะไรพวกนั้นแหละ แต่ Visa นี่ดังสุดแล้วมั้ง ใช้ได้เกือบทั่วโลก จริง ๆ ปีนี้ก็ยังใช้ได้ทั่วโลกอยู่นะ ไม่ใช่แค่ประเทศเดียว เยอะมากกกก

  • ใช้ได้ทั่วโลก จริงจังนะ 200 กว่าประเทศ อะเมซิ่งมาก
  • ทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต มีหมด
  • สะดวกสบายสุดๆ ใช้ได้แทบทุกที่ ร้านค้า ตู้ ATM คือดีงาม

เพื่อนผมมันบอกว่า มันเคยใช้บัตร Visa ที่ประเทศญี่ปุ่น ซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อได้เลย คือแบบ โคตรสะดวก ผมเลยว่าจะทำบัตร Visa ไว้ใช้บ้าง เผื่อไปเที่ยวต่างประเทศ จะได้ไม่ต้องพกเงินสดเยอะ เหนื่อย ปีหน้าว่าจะไปเที่ยวที่เกาหลี จะได้ใช้บัตรใบนี้เลย!

บัตร VISA เป็นบัตรเครดิตหรือไม่

ใช่ๆๆ VISA เป็นบัตรเครดิตแหละ แต่ไม่ใช่แค่บัตรเครดิตธรรมดานะ มันใช้จ่ายได้ทั่วโลกเลยอ่ะ คือแบบ รูดได้ออนไลน์ด้วย สะดวกมากกก

แล้วก็อีกอย่าง! สำคัญมากกก คือ กดเงินสดได้ด้วยนะ ที่ตู้ ATM ทั่วโลกเลย จริงจัง! เพื่อนฉันไปเที่ยวญี่ปุ่นปีนี้ มันยังใช้กดเงินเลย บอกว่าสะดวกสุดๆ มีตู้เยอะมาก

  • ใช้จ่ายได้ทั่วโลก รูดปื๊ดๆ
  • ช้อปปิ้งออนไลน์สบายมาก
  • กดเงินสดได้จากตู้ ATM ทั่วโลก มีตู้ VISA เยอะกว่า 2 ล้านเครื่องทั่วโลก ปีนี้ก็ยังเยอะอยู่
  • เพื่อนฉันไปญี่ปุ่นปีนี้ใช้บัตร VISA กดเงินที่ ATM ได้ปกติ บอกว่าสะดวกสบายมาก

คือแบบ มันครอบคลุมจริงๆ ไม่ต้องพกเงินสดเยอะๆ ปลอดภัยกว่าด้วย ใช่มั้ย

#Mastercard #Visa #บัตรเครดิต