บัตรเครดิตวีซ่ากับมาสเตอร์การ์ดต่างกันยังไง

29 การดู

วีซ่าและมาสเตอร์การ์ดแทบไม่ต่างกัน ทั้งสองใช้ชำระเงินต่างประเทศได้เหมือนกัน ความแตกต่างอยู่ที่สิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น และร้านค้าที่ร่วมรายการของแต่ละธนาคารผู้ออกบัตร การเลือกบัตรจึงควรพิจารณาจากไลฟ์สไตล์และสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด

  • สรุป: วีซ่า/มาสเตอร์การ์ดคล้ายกัน
  • จุดต่าง: สิทธิประโยชน์/โปรโมชั่นธนาคาร
  • คำแนะนำ: เลือกที่ตรงไลฟ์สไตล์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

บัตรเครดิตวีซ่า กับมาสเตอร์การ์ด แตกต่างกันอย่างไร?

เอาจริงๆ นะ ตอนแรกที่ได้ยินคำถาม “วีซ่า กับ มาสเตอร์การ์ด ต่างกันยังไง” นี่แบบ…เอิ่ม ก็ไม่รู้จะตอบอะไรดีอ่ะ เพราะเคยใช้ทั้งสองอย่าง แล้วรู้สึกว่ามันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ

คือเข้าใจฟีลป่ะ? เหมือนถามว่าเป๊ปซี่กับโค้กต่างกันยังไง บางคนก็บอกต่าง แต่เราก็ว่ามันก็แค่น้ำอัดลมสีดำๆ ซ่าๆ เหมือนกันป่ะวะ 555+

แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งด่วนสรุป เพราะเคยเจอเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกว่า “เออ มันก็มีอะไรนิดๆ หน่อยๆ ที่ไม่เหมือนกันแฮะ” จำได้ว่าตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงสงกรานต์ปี 2018 (จำวันที่เป๊ะๆ ไม่ได้ แต่รู้ว่าไปกินราเม็งอร่อยๆ แถวชินจูกุมา) ตอนนั้นจะกดเงินสดจากตู้ ATM ปรากฏว่าบัตรวีซ่าดันกดไม่ได้เฉยเลย! แต่บัตรมาสเตอร์การ์ดกลับกดได้สบายๆ งงมาก ตอนนั้นคิดในใจ “เอาแล้วไง! เกือบอดกินของอร่อยซะแล้ว”

(แอบกระซิบว่าตอนนั้นแลกเงินเยนไปไม่พอไง 555+)

แต่พอกลับมาเมืองไทยก็ลองหาข้อมูลดู ถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดเนี่ย มันคือ “เครือข่ายการชำระเงิน” ไม่ใช่ผู้ออกบัตรโดยตรง (อันนี้เพิ่งรู้จริงๆ นะเนี่ย) หน้าที่ของเค้าคือเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างร้านค้ากับธนาคารผู้ออกบัตรให้เรา

ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมบัตรวีซ่าถึงกดเงินที่ตู้ ATM ในญี่ปุ่นไม่ได้ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะระบบของธนาคารนั้นๆ หรืออาจจะมีค่าธรรมเนียมอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้รึเปล่า? (เดาเอานะ)

สรุปคือ…ถ้าถามว่าวีซ่ากับมาสเตอร์การ์ดต่างกันยังไง สำหรับเรามันก็เหมือน “ฝาแฝด” ที่อาจจะมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมก็คือใช้งานได้เหมือนกันแหละ ขึ้นอยู่กับว่าใครชอบแบบไหนมากกว่ากันแค่นั้นเอง!

บัตร Mastercard กับบัตร VISA ต่างกันอย่างไร

Mastercard และ Visa แตกต่างกันอย่างไร? หลักๆ คือ โปรโมชั่น และธนาคารผู้ให้บริการ แต่ความแตกต่างลึกกว่านั้น มันเป็นเรื่องของกลยุทธ์ทางธุรกิจและตลาด

  • เครือข่ายการชำระเงิน: ทั้งคู่เป็นเครือข่ายการชำระเงินระดับโลก แต่มีวิธีการดำเนินงานและความร่วมมือกับธนาคารต่างๆ แตกต่างกัน บางธนาคารอาจเน้นความร่วมมือกับ Visa มากกว่า บางแห่งอาจเลือก Mastercard ส่งผลต่อการเข้าถึงโปรโมชั่นและบริการเสริมต่างๆ

  • โปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์: นี่คือสิ่งที่ผู้บริโภคสัมผัสได้โดยตรง แต่ละแบรนด์มีกลยุทธ์โปรโมชั่นที่แตกต่างกัน บางปี Visa อาจเน้นโปรแกรมสะสมคะแนน ในขณะที่ Mastercard อาจเน้นส่วนลด นี่ขึ้นอยู่กับแผนการตลาดของแต่ละปี จึงไม่มีความแตกต่างที่ตายตัว

  • ธนาคารผู้ให้บริการ: Visa ไม่ใช่ธนาคาร มันเป็นเพียงเครือข่ายการชำระเงิน ธนาคารต่างๆ ทั่วโลกเป็นผู้จัดการบัตร Visa เช่นเดียวกับ Mastercard การเลือกบัตรจึงเกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือของธนาคารที่ออกบัตรนั้นๆ มากกว่าตัวเครือข่ายเอง ตัวอย่างเช่น ธนาคารกรุงเทพอาจมีโปรแกรมสะสมแต้มที่น่าสนใจกว่ากับ Mastercard ในขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์เน้นความร่วมมือกับ Visa มากกว่า (ข้อมูล ณ ปี 2566)

  • ค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยน: แม้จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ก็อาจมีค่าธรรมเนียมหรืออัตราแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับธนาคารผู้ให้บริการและประเภทบัตร

โดยสรุป ความแตกต่างไม่ได้อยู่ที่ตัวเครือข่าย แต่มาจากธนาคารผู้ให้บริการและกลยุทธ์ทางการตลาดเป็นหลัก เปรียบเสมือนการเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เดียวกันแต่คนละร้าน คุณภาพสินค้าอาจใกล้เคียงกัน แต่โปรโมชั่นและบริการอาจแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การเลือกจึงควรพิจารณาความต้องการและความเหมาะสมเป็นสำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่แบรนด์ แต่ต้องดูเงื่อนไขของแต่ละธนาคารประกอบด้วย

บัตร Visa กับ Mastercard ต่างกันยังไง

Visa กับ Mastercard ต่างกันยังไง? เอ่อ…เหมือนถามว่าเป๊ปซี่กับโค้กต่างกันไงนั่นแหละ!

  • โปรโมชั่น: อันนี้ตัวใครตัวมัน แบงก์แต่ละที่แข่งกันออกโปรโมชั่นยั่วๆ จ้า ไม่มีใครยอมใคร
  • ผู้ออกบัตร: Visa กับ Mastercard เค้าไม่ได้ออกบัตรเองนะจ๊ะ เค้าเป็นแค่เครือข่าย แบงก์ต่างๆ ในไทยแลนด์แดนสยามนี่แหละที่ออกบัตรให้เรา
  • ประวัติ: Visa แก่กว่า Mastercard 8 ปี…เหมือนพี่ชายที่คอยแอบมองน้องทำการบ้าน ประมาณนั้น

เกร็ดความรู้: รู้หรือไม่? จริงๆ แล้วบัตรเครดิตที่เราใช้ๆ กันเนี่ย มันก็คือ “หนี้” ดีๆ นี่เอง! ใช้เงินอนาคต อย่าใช้เพลินนะจ๊ะ เดี๋ยวจะร้องไม่ออก

บัตร Visa ใช้ทําอะไรได้บ้าง

วีซ่า…ไอ้บัตรพลาสติกนี่นะ? ตอนไปญี่ปุ่นเมื่อต้นปี (มกราคม 2567) รูดปรื๊ดๆ ซื้อขนมที่ Donki มาเพียบ! คือมันใช้ได้แทบทุกที่จริงๆ นะ ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อยันร้านอาหารหรูๆ แต่ตอนกดเงินสดที่ตู้ ATM นี่แอบเสียค่าธรรมเนียมเยอะอยู่เหมือนกัน เซ็งเลย!

  • รูดปรื๊ดซื้อของ: ทั่วโลก ร้านไหนมีป้าย Visa คือจบ!
  • จ่ายค่าบริการ: โรงแรม, ตั๋วเครื่องบิน, Netflix สบายๆ
  • กดเงินสด: ตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ Visa, แต่ระวังค่าธรรมเนียมนะ!
  • Online shopping: สั่งของจากเว็บต่างประเทศก็สะดวก
  • แตะจ่าย: ถ้าบัตรมี NFC ก็แตะจ่ายได้เลย เร็วดี

บัตร Visa ใช้อะไรได้บ้าง

Visa? แค่แตะ จ่าย จบ.

  • ทั่วโลกยอมรับ. 200+ ประเทศ, 30 ล้านร้านค้า.
  • รูด, จ่าย, กดเงิน. ATM ก็ได้. หาโลโก้ Visa.
  • จ่ายออนไลน์ ซื้อของต่างประเทศ ได้หมด. (ระวังค่าธรรมเนียม)
  • บางทีมีโปร. ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม. เช็คดีๆ.
  • แต้มสะสม แลกของ. ถ้าใช้ถูกวิธี คุ้ม.
  • Visa คือเครือข่าย. ธนาคารออกบัตร.

ข้อมูลเพิ่ม:

Visa ไม่ใช่ธนาคาร. คือระบบประมวลผล. ธนาคารผูกกับ Visa ออกบัตรให้เราใช้. ค่าธรรมเนียมขึ้นกับธนาคาร, ไม่ใช่ Visa. ปี 2024 บางธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียมรูดต่างประเทศแล้ว. (เช็คก่อนใช้). ส่วนตัวใช้ KBank Visa Platinum สะสมแต้ม The 1 ได้ด้วย.

บัตร Visa สามารถใช้จ่ายอะไรได้บ้าง

Visa นี่รู้อยู่แล้วว่าใช้ได้เยอะอ่ะนะ แต่แบบ… เยอะแค่ไหน? อ่ะนึกก่อน

  • ห้าง – อันนี้แน่นอนอยู่ละ ทุกห้างในไทยมั้ง? ยกเว้นตลาดนัด (บางที่ก็รับโอนนะ!)
  • ร้านอาหาร – ตั้งแต่สตรีทฟู้ด (บางร้าน) ยันร้านหรูๆ บนรูฟท็อป
  • โรงแรม – จ่ายค่าห้อง ค่าอาหารในโรงแรม สปา บลาๆ
  • สายการบิน – จองตั๋ว จ่ายค่าโหลดกระเป๋า เพิ่มน้ำหนักกระเป๋า
  • ปั๊มน้ำมัน – เติมน้ำมัน ซื้อของในมินิมาร์ท (แต่บางทีจ่ายสดได้ส่วนลดเยอะกว่านะ)
  • ออนไลน์ – Shopee Lazada Netflix Spotify …เยอะเกิ๊น
  • สิทธิพิเศษ – อันนี้ชอบสุดละ ส่วนลดนู่นนี่นั่น คุ้มครองซื้อของออนไลน์ด้วยนะ! เออ จริงดิ? ต้องไปอ่านรายละเอียดดู

แล้ว Visa กับ Mastercard นี่อันไหนฮิตกว่ากันนะ? ช่างเหอะ มีทั้งคู่ก็ดี

  • เช่ารถ – ลดได้ด้วยเหรอ? ต้องลองไปดูเงื่อนไขหน่อยละ
  • Visa มี Contactless ด้วยนะ แตะจ่ายได้เลย ง่ายดี

ต้องไปเช็คโปรบัตรเครดิต Visa ประจำปี 2567 หน่อยละ เผื่อมีอะไรน่าสนใจเพิ่ม

ข้อมูลเพิ่มเติม (อาจจะ):

  • Visa PayWave สะดวกมาก (แต่ระวังโดนแอบสแกนนะ)
  • บางบัตร Visa มีประกันเดินทางให้ด้วย (ต้องอ่านเงื่อนไขดีๆ)
  • ค่าธรรมเนียมรายปี? (บางบัตรก็ฟรีนะ)
  • คะแนนสะสม แลกอะไรได้บ้าง? (อันนี้สำคัญมาก!)
  • ดอกเบี้ย? (จ่ายเต็มตลอด ไม่เคยสนดอกเบี้ย!)

คำถาม:

  • Visa Debit ใช้จ่ายออนไลน์ได้ไหม? (น่าจะได้นะ)
  • ถ้าบัตรหาย ต้องทำไง? (โทร Call Center ด่วน!)

เออ แล้วตกลงตอบคำถามครบยังวะเนี่ย? ช่างมันเหอะ…

Mastercard เป็นบัตรอะไร

อืม… มาสเตอร์การ์ดเหรอ… มันก็คือบัตรเครดิตนะ ที่ธนาคารออกให้ ใช้จ่ายก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลัง แบบว่า… กู้เงินเค้ามาใช้ไง แล้วก็ต้องจ่ายคืนตามกำหนด หรือจะผ่อนก็ได้ แต่ดอกเบี้ยก็… คิดแล้วก็ปวดหัว ปีนี้ดอกเบี้ยขึ้นอีกด้วยสิ แย่จัง

คิดหนักเนอะ ตอนแรกก็แค่คิดว่าสะดวกดี ใช้จ่ายง่าย แต่พอคิดไปคิดมา มันก็เหมือนกับ… เรากำลังสร้างหนี้ให้ตัวเอง ทุกครั้งที่รูดบัตร มันก็เหมือนกับว่า เรากำลังยืมเงินเค้ามาใช้ แล้วก็ต้องมาจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ย มันเป็นภาระนะ จริง ๆ

  • ใช้จ่ายง่าย สะดวกสบาย
  • ต้องจ่ายคืนตามกำหนด
  • มีดอกเบี้ยหากผ่อนชำระ
  • อาจสร้างภาระทางการเงินได้ถ้าใช้ไม่ระวัง

เห้อ… บางทีก็รู้สึกว่า ใช้เงินสดดีกว่า เห็นเงินออกไปจากกระเป๋าชัดเจน แต่ก็… มันไม่สะดวกเท่า เฮ้อ… คิดอะไรมากมายเนี่ย คืนนี้ นอนไม่หลับอีกแล้วแน่เลย

#บัตรเครดิต #มาสเตอร์การ์ด #วีซ่า