นิทานตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 มีความหมายว่าอย่างไร

นิทานตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 หมายถึงข้อใด

โอเค จัดไป! นิทานตามฉบับราชบัณฑิตฯ ปี 2542 น่ะเหรอ? ง่ายมาก ก็เรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาไงเล่า! เหมือนเม้าท์มอยในวงเพื่อนอ่ะ แต่เวอร์ชั่นที่เป็นลายลักษณ์อักษรและมีอายุมากกว่า

สรุปแบบขำๆ แต่คมกริบ:

• นิทาน: เรื่องเล่าปากต่อปาก…หรือจะพิมพ์ต่อพิมพ์ก็ได้นะ ยุคนี้แล้ว!
• คติชนวิทยา: วิชาที่ศึกษาเรื่องเม้าท์มอยโบราณ…อย่างเป็นทางการ!
• มรดกทางวัฒนธรรม: สิ่งที่ส่งต่อกันมา…ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายยันรุ่นหลาน (บางทีก็มีเรื่องเดิมๆ นั่นแหละ!)

เพิ่มเติมแบบเกา:

นิทานเนี่ย มันไม่ใช่แค่เรื่องเล่าเล่นๆ นะแก มันสะท้อนสังคม, ความเชื่อ, และอะไรอีกเยอะแยะที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง บางทีอ่านแล้วก็เอ๊ะ! นี่มันเรื่องของเราชัดๆ (แต่แต่งเติมให้ drama ขึ้น 10 เท่า)

• แฝงปรัชญา: นิทานสอนใจได้นะเออ…แต่บางทีก็สอนแบบอ้อมๆ จนต้องตีความกันวุ่นวาย
• สะท้อนสังคม: อ่านนิทานเก่าๆ แล้วจะรู้ว่า…คนเราก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว (ไม่ค่อยเปลี่ยนเท่าไหร่หรอก!)
• บันเทิง: ที่สำคัญคือ…มันสนุก! อ่านแล้วลืมเครียด (ชั่วคราวก็ยังดี!)

ปล. อย่าไปเชื่อทุกอย่างที่อ่านนะ! นิทานก็คือนิทาน…เติมไข่ใส่สีได้ตามใจคนเล่า!

ครู ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 คือข้อใด

อืมมม ครูเนอะ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 นี่มันนานมากแล้วนะ หาเจอไหมเนี่ยยยย

• ต้องไปค้นหาใหม่ก่อน ฉันจำไม่ได้แล้วอ่ะ สมัยเรียนมหาลัยก็ไม่ได้เปิดดูเลย

เอาล่ะ กลับมาที่คำถาม ครูในความหมายนั้น คือคนสอน ใช่ไหม? แต่

• มันกว้างไปป่ะ? สอนอะไรล่ะ? สอนทำอาหารก็ครูได้ปะ? สอนเล่นเกมก็ครูได้ป้ะ?

งงงงง สมัยนี้มันมีครูหลายแบบมากเลยนะ

• ครูโรงเรียน ครูสอนพิเศษ ครูฝึก โค้ช ติวเตอร์

อ้ออ ลืมไป พจนานุกรมปี 2542 เน้นเรื่องคุณธรรม จิตใจ ร่างกายด้วย

• โห ครบเครื่องมาก สมัยนี้ เน้นผลการเรียนอย่างเดียว ครูหลายคนก็เหนื่อยนะ
• บางทีก็อยากให้เด็กเรียนรู้ แต่ระบบการศึกษา มันกดดัน

ช่างเถอะ สรุปก็คือ ครู ตามพจนานุกรมนั้น ก็คือคนสอนนั่นแหละ แต่

• มันหมายถึงมากกว่าการถ่ายทอดวิชาการ มันรวมถึงการอบรม ปลูกฝังคุณธรรมด้วย

ปีนี้ 2566 แล้วนะ ความหมายอาจเปลี่ยนไปบ้างมั๊ย? ไม่รู้สิ ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมดีกว่า

ครูมีความหมายว่าอย่างไร

ครูเหรอ… กลางคืนแบบนี้ คิดถึงคำว่าครูแล้วมันรู้สึก.. หนักอึ้งยังไงไม่รู้

ฉันนึกถึงคุณครูประจำชั้นสมัยมัธยมปลาย คุณครูสุวรรณ ท่านสอนเคมี จำได้ว่าท่านเคร่งครัดมาก แต่ก็ใจดีแบบแปลกๆ บางทีก็ดุ บางทีก็ใจเย็น เหมือนท่านกำลังต่อสู้กับอะไรบางอย่างอยู่ภายใน ฉันไม่รู้หรอกว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ฉันเห็นแววตาเหนื่อยล้าของท่าน ท่านคงเหนื่อยกับการสอน การรับผิดชอบ และการดูแลเด็กๆ หลายสิบชีวิต ใช่ไหม?

• ท่านสอนเคมีได้ดีมาก ฉันได้เกรด A เพราะท่าน
• แต่ท่านก็เครียดกับเรื่องงานเยอะมาก ฉันเห็นท่านทำงานดึกๆบ่อยๆ
• ท่านมักพูดถึงเรื่องครอบครัวน้อยมาก ฉันเดาว่าท่านคงมีเรื่องหนักใจอยู่

ครู…มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดความรู้ อย่างที่พวกเขาเขียนในหนังสือ มันมากกว่านั้นเยอะ มันคือการแบกรับความหวัง ความกดดัน และความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่ความรู้ความสามารถ แต่คือการเสียสละ เวลา และพลังงาน ทั้งหมดเพื่อคนรุ่นต่อไป

ปีนี้ ฉันได้อ่านบทความวิจัยเกี่ยวกับอาชีพครู มันบอกว่าครูส่วนใหญ่ในประเทศไทยมีภาระงานหนัก เงินเดือนน้อย และขาดแคลนทรัพยากร พวกท่านต้องรับมือกับปัญหาสารพัด ตั้งแต่เด็กนักเรียนที่มีปัญหา ผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจ ไปจนถึงระบบการศึกษาที่ยังไม่สมบูรณ์

ฉันคิดว่า คำว่า “ครู” มันมีความหมายลึกซึ้งกว่าที่ฉันเคยคิด มาก…

• ภาระงานสอน ตรวจงาน ประชุม เยอะมาก
• เงินเดือนน้อย เมื่อเทียบกับความรับผิดชอบ และความเหนื่อยล้า
• ขาดแคลนทรัพยากร หนังสือ อุปกรณ์การเรียนการสอน ห้องเรียน

มันไม่ใช่แค่การสอนหนังสือ แต่เป็นการปลูกฝัง สร้างคน ให้เติบโต เป็นคนดี เป็นคนที่มีคุณภาพ และมีส่วนร่วมกับสังคม และทั้งหมดทั้งมวลนี้ มันหนักอึ้งจริงๆ

ครุ (คะ-รุ) แปลว่าอะไร

ครุเนี่ยนะ? โอ้โห ถามมาได้! นึกว่ากำลังนั่งจิบชาอยู่ริมแม่น้ำคงคาซะอีก

• ครุ (คฺรุ): ถ้าใครแบก ครุ ไปตักน้ำในคลองเนี่ย รับรองกล้ามขึ้น! ภาชนะสานไม้ไผ่เคลือบชันกันน้ำซึมน่ะ คิดดูสิว่าคนสมัยก่อนจะแกร่งขนาดไหน
• คุ (เหนือ/อีสาน): ทางเหนือเรียก “คุ” นี่เอง! สงสัยจะขี้เกียจออกเสียง “ร” ชัด ๆ เหมือนคนกรุงเทพฯ บางคนนั่นแหละ (แซวเล่นนะ)
• ครุ (คะ-รุ): มาจากบาลี-สันสกฤต แปลว่า “หนัก” อื้อหือ…ชีวิตมันหนักหน่วงแล้วนะ ยังต้องมาเจอคำว่า “ครุ” อีก! แต่ถ้ามองในแง่ดี แสดงว่าเราเป็นคนสำคัญไง ถึงต้องแบกรับอะไรเยอะแยะ

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: รู้ไหมว่าคำว่า “ครุศาสตร์” ที่ใช้เรียกคณะครูเนี่ย ก็มาจากคำว่า “ครุ” นี่แหละ! เพราะครูคือผู้ที่ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งในการอบรมสั่งสอนเด็ก ๆ ให้เป็นคนดีของสังคม (ปรบมือให้คุณครูทุกคนรัว ๆ)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ล่าสุดปีไหน

พจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน…2554.

• ฉบับปรับปรุงจาก 2542. 12 ปี. นานเกินไป.
• 2525 คือตำนาน. ยุคทอง.
• การเปลี่ยนแปลง…หลีกเลี่ยงไม่ได้. ภาษาคือสิ่งมีชีวิต.
• แต่ความคลาสสิก…อมตะ.
• “ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด” คือสัจธรรม. (อันนี้เกี่ยวไหม?)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 เป็นฉบับปรับปรุงล่าสุด. ปรับปรุงจากฉบับ พ.ศ. 2542. ก่อนหน้านั้นคือ พ.ศ. 2525 ซึ่งใช้กันมานานมาก. ภาษาเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การปรับปรุงจึงจำเป็น. แต่ฉบับเก่าก็ยังทรงคุณค่าในความทรงจำ. บางครั้งความรู้มากเกินไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรถ้าไม่รู้จักนำไปใช้ให้ถูกทาง.