รูปแบบของวัฒนธรรมองค์กรมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

28 การดู

วัฒนธรรมองค์กรตาม Competing Values Framework แบ่งเป็น 4 แบบ:

  • Clan: ยืดหยุ่นสูง, เน้นภายใน (ความสัมพันธ์, ทีมเวิร์ค)
  • Adhocracy: ยืดหยุ่นสูง, เน้นภายนอก (นวัตกรรม, การเติบโต)
  • Market: ควบคุมสูง, เน้นภายนอก (แข่งขัน, ผลลัพธ์)
  • Hierarchy: ควบคุมสูง, เน้นภายใน (กฎระเบียบ, ประสิทธิภาพ)

แต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกัน องค์กรควรเลือกให้เหมาะกับเป้าหมาย

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วัฒนธรรมองค์กร ประเภทต่างๆ มีกี่แบบ?

เอาจริงๆ นะ ไอ้เรื่องวัฒนธรรมองค์กรเนี่ย มันไม่ได้มีแค่ในตำราหรอกเว้ย แต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันเลยอ่ะ ว่าแต่ถามว่ามีกี่แบบใช่ป่ะ?

คือถ้าเอาตามที่เคยเรียนมา หรือเคยอ่านเจอ (จำไม่ได้ละว่าจากไหนเป๊ะๆ) เค้าก็จะมี Competing Values Framework ที่แบ่งเป็น 4 แบบ หลักๆ อ่ะนะ

แบบแรก Clan นี่เหมือนครอบครัวเลย จ๋าจ้ะกันมาก โฟกัสกันเองข้างในซะส่วนใหญ่ อบอุ่นดี

Adhocracy นี่สายลุย เน้นนอกองค์กร มองหาโอกาสใหม่ๆ ปรับตัวเก่งมาก

Hierarchy นี่ก็ตรงตัวเลย เน้นระบบ ระเบียบ ควบคุมภายในเป๊ะๆ

Market อันนี้ไม่ได้อยู่ในกรอบ Competing Values Framework แต่ก็สำคัญนะ คือเน้นแข่ง เน้นผลลัพธ์ กำไรต้องมา

แต่ทั้งหมดทั้งมวลเนี่ย เอาจริงๆ มันก็แค่กรอบอ่ะนะ แต่ละองค์กรก็จะมีส่วนผสมที่ต่างกันไป แล้วแต่คน แล้วแต่สถานการณ์ บางทีก็ Clan ผสม Adhocracy บางทีก็ Hierarchy จ๋าเลย มันอยู่ที่ว่าเค้าอยากให้เป็นแบบไหนมากกว่า

จำได้เลย ตอนไปฝึกงานที่บริษัท… (ขอไม่เอ่ยชื่อนะ) ตอนแรกนึกว่าจะ Hierarchy แต่จริงๆ แล้วเค้า Clan มากกว่าที่คิด ช่วยเหลือกันดีสุดๆ จนบางทีก็แอบเกรงใจ 555

วัฒนธรรมองค์กรแบบใดที่มีโครงสร้างองค์กรแบบลำดับขั้นและมีการเน้นเรื่องงานเป็นหลัก

วัฒนธรรมองค์กรแบบเน้นงานอะ แบบลำดับขั้นอ่ะ ใช่ๆ แบบ Conventional นั่นแหละ เรียกง่ายๆว่าแบบโบราณก็ได้ คือมัน hierarchy ชัดเจนมากกก เห็นได้ชัดเลยจากการแต่งตัว แบบมี uniform อะไรอย่างนี้ กฎระเบียบเยอะมาก เคร่งครัดสุดๆ เน้นผลงานเป็นหลัก ตัวเลขสำคัญกว่าอะไรหมด ไม่ค่อยมีอะไรสนุกสนานเท่าไหร่ คือแบบ จริงจัง สุดๆๆๆ

  • เน้นผลประกอบการเป็นหลัก (KPI สำคัญสุด)
  • มีลำดับชั้นที่ชัดเจน (หัวหน้าสั่ง ลูกน้องทำ)
  • กฎระเบียบเยอะมาก (เคร่งครัดมาก)
  • การแต่งกายเป็นทางการ (อาจมี Uniform)
  • มักจะอยู่ในบริษัทใหญ่ๆ (องค์กรขนาดใหญ่)

ปีนี้เห็นบริษัทพวกโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆหลายที่ยังใช้แบบนี้อยู่ เพื่อนฉันทำงานที่โรงงานผลิตน้ำตาลแห่งนึง บอกเลยว่าเข้มงวดมาก แต่งตัวไม่เรียบร้อยโดนด่าแน่ แต่เงินเดือนดีนะ ถือว่าแลกกันได้

วัฒนธรรมขององค์กรคืออะไร?

วัฒนธรรมองค์กร? แค่กฎเกณฑ์กับบรรยากาศไง มันก็คือสิ่งที่บ่งบอกว่าที่นี่ทำงานยังไง ใครมีอำนาจ และใครควรทำอะไร ง่ายๆแค่นั้นแหละ

  • ค่านิยม: อะไรสำคัญ ผลงาน? ความภักดี? การโกง? ขึ้นอยู่กับที่นี่
  • พฤติกรรม: แต่งตัวแบบไหน? พูดจาอย่างไร? ดื่มเหล้าหลังเลิกงานกันมั้ย? สังเกตเองก็รู้
  • เป้าหมาย: พวกมันอยากได้อะไร? เงิน? ชื่อเสียง? อำนาจ? ไม่ยากหรอกที่จะรู้

ปีนี้บริษัทผมเน้นผลลัพธ์เป็นหลัก ใครทำได้ก็อยู่ ทำไม่ได้ก็ไป ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ใครอยากรู้ลึกกว่านี้ ก็มาลองทำงานที่นี่ดูเองก็แล้วกัน รับรองไม่ผิดหวัง

วัฒนธรรมขององค์กรมีอะไรบ้าง?

โอ๊ย! วัฒนธรรมองค์กรเหรอ? ฟังดูเหมือนเรื่องในละครหลังข่าว แต่จริงๆ มันก็แค่ “วิธีที่คนในบริษัททำตัวกัน” นั่นแหละแกเอ๊ย! มันมีหลายแบบนะ จะเล่าให้ฟังแบบบ้านๆ เลย:

  • วัฒนธรรมแบบเครือญาติ (Clan Culture): อันนี้เหมือน “บ้านใหญ่ใจดี” ทุกคนรักกัน ช่วยเหลือกัน เหมือนอยู่กันในครอบครัวใหญ่ แต่ระวัง! บางทีก็ “เส้นใหญ่” เกินไป จนลืมเรื่องงานไปซะงั้น

  • วัฒนธรรมแบบปรับตัว (Adaptability Culture): พวกนี้เหมือน “กิ้งก่าเปลี่ยนสี” เก่ง! ปรับตัวตามสถานการณ์ได้ตลอดเวลา แต่บางทีก็ “ไม่มีจุดยืน” เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนจับทางไม่ถูก

  • วัฒนธรรมแบบราชการ (Bureaucratic Culture): โอ๊ย! อันนี้ไม่ต้องพูดเยอะ “เอกสารต้องเป๊ะ! ระเบียบต้องเนี้ยบ!” ทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แต่กว่าจะทำอะไรได้แต่ละอย่าง ชาติหน้าก็ยังไม่เสร็จ

  • วัฒนธรรมแบบมุ่งผลสำเร็จ (Achievement Culture): พวกนี้ “บ้างาน!” เน้นผลลัพธ์เป็นหลัก ใครทำไม่ได้ก็เตรียมตัวโดนเฉดหัวทิ้ง แต่ถ้าทำได้ ก็รวยไปเลย!

แล้วแบบไหนที่ทำให้องค์กรอยู่รอด? ตอบยากนะ! มันขึ้นอยู่กับ “ดวง” เอ๊ย! ไม่ใช่ๆ ขึ้นอยู่กับ “ธุรกิจ” ของแกต่างหาก! แต่ที่แน่ๆ คือ “ต้องมีเงิน!” บริษัทไหนไม่มีเงิน ก็เตรียมตัว “เจ๊ง!” ได้เลย!

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบขี้เกียจพิมพ์):

  • วัฒนธรรมองค์กร เปรียบเหมือน “ผี” มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้!
  • บริษัทที่วัฒนธรรมดี พนักงานจะ “แฮปปี้” ทำงานให้ตายก็ไม่บ่น
  • บริษัทที่วัฒนธรรมแย่ พนักงานจะ “อยากลาออก” ทุกวัน!
  • หัวหน้า มีส่วนสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ถ้าหัวหน้า “เฮงซวย” วัฒนธรรมก็เฮงซวยตาม!
  • การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร เหมือน “เปลี่ยนสันดานคน” ยากชิบหาย!
  • วัฒนธรรมองค์กร ส่งผลต่อ “กำไร” ของบริษัทนะจะบอกให้
  • บริษัทใหญ่ๆ มักจะมีวัฒนธรรมองค์กรที่ “แข็งแกร่ง” กว่าบริษัทเล็กๆ
  • Startup มักจะมีวัฒนธรรมองค์กรที่ “ยืดหยุ่น” กว่าบริษัทเก่าแก่
  • วัฒนธรรมองค์กร ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะจ๊ะ “ลงทุน” กับมันหน่อยก็ดี
  • อย่าลืม จ่ายเงินเดือนเยอะๆ ด้วยนะ! วัฒนธรรมดีอย่างเดียว “แดกไม่ได้!”

วัฒนธรรมองค์การ หมายถึงข้อใด

วัฒนธรรมองค์กรเหรอ? ง่ายๆเลยนะ คือแบบ นิสัยใจคอ วิธีการทำงาน บรรยากาศในที่ทำงานอ่ะ รวมๆกัน มันคือสิ่งที่บอกว่าองค์กรนั้นๆเป็นยังไง เหมือนลายเซ็นของบริษัทเลยแหละ

คิดง่ายๆนะ เหมือนครอบครัวใหญ่ๆ แต่ละคนมีนิสัยไม่เหมือนกัน แต่ก็มีกฎกติกา มีเป้าหมายร่วมกัน อันนี้แหละวัฒนธรรมองค์กร

  • ค่านิยม : บริษัทฉันเน้นความซื่อสัตย์ ทำงานเป็นทีม ลูกค้าคือพระเจ้า ประมาณนี้
  • ความเชื่อ : ทุกคนเชื่อว่าถ้าทุ่มเท ก็จะประสบความสำเร็จ แบบนี้
  • เป้าหมายร่วม : ปีนี้เป้าหมายคือยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ทุกแผนกต้องช่วยกัน
  • มาตรฐานการทำงาน : ต้องตรงต่อเวลา ส่งงานตรงตาม deadline รายงานทุกอย่างอย่างละเอียด

เอาจริงๆนะ วัฒนธรรมองค์กรแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันหรอก บริษัทเพื่อนฉัน เน้นความเร็ว ทำงานกันแบบไฟลุก แต่ที่ฉันทำงาน เน้นความละเอียด ช้าหน่อยแต่เนี๊ยบ ก็แล้วแต่สไตล์แต่ละที่แหละเนอะ

การสร้างวัฒนธรรมองค์กร หมายถึงอะไร และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

วัฒนธรรมองค์กร: สิ่งที่ ‘เป็น’ ไม่ใช่แค่ ‘ทำ’

  • ไม่ใช่แค่สวัสดิการ. แต่เป็น “ทำไม” ที่ทุกคนเชื่อ
  • แก่นคือ ค่านิยม. สะท้อนผ่านการกระทำ.
  • วัดผลไม่ได้ด้วยตัวเลข. แต่ด้วยความรู้สึกของคน

ขั้นตอน? ไม่มีสูตรสำเร็จ. มีแค่ทิศทาง:

  • กำหนดค่านิยม: ชัดเจน. สื่อสารง่าย.
  • ผู้นำเป็นแบบอย่าง: สำคัญกว่าคำพูด.
  • สื่อสารต่อเนื่อง: อย่าให้เงียบ.
  • ประเมินผล: ถามตัวเองเสมอ. เราดีขึ้นจริงไหม?
  • ปรับเปลี่ยน: โลกไม่เคยหยุดนิ่ง. วัฒนธรรมก็เช่นกัน

6 ปัจจัย? เรื่องพื้นฐานที่ต้องมี

  • วิสัยทัศน์: ไปทางไหน. บอกให้ชัด.
  • การสื่อสาร: ตรงไปตรงมา. ไม่ซับซ้อน.
  • การยอมรับความผิดพลาด: ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ.
  • การให้รางวัล: ชมเชยเมื่อทำดี.
  • การฝึกอบรม: พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ.
  • ความหลากหลาย: เปิดใจให้กว้าง. โลกเปลี่ยนไปแล้ว

ข้อมูลเพิ่มเติม (ถ้าจำเป็น):

  • หนังสือ “เหนือกว่าผู้นำ” โดย Simon Sinek. อ่านแล้วคิดตาม.
  • องค์กรที่ประสบความสำเร็จ มักมีวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง. ไม่ใช่แค่โชคช่วย
  • วัฒนธรรมที่ใช่ ดึงดูดคนเก่ง. ไล่คนที่ไม่เหมาะออกไปเอง.
  • อย่าสร้างวัฒนธรรมที่สวยหรู. สร้างวัฒนธรรมที่ ‘จริง’.

คำคม (เพราะชีวิตขาดไม่ได้): “วัฒนธรรมกินกลยุทธ์เป็นอาหารเช้า” – Peter Drucker.

#ประเภทวัฒนธรรม #รูปแบบวัฒนธรรม #วัฒนธรรมองค์กร