อาการปลายประสาทอักเสบมีอาการอย่างไร

13 การดู

อาการปลายประสาทอักเสบ:

  • ชา/เหน็บ/เสียว: เริ่มที่มือเท้า ลามไปแขนขา
  • ปวดแสบปวดร้อน: รู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทง
  • ไวต่อการสัมผัส: สัมผัสเบาๆ ก็รู้สึกเจ็บปวด
  • ปวดขณะทำกิจกรรม: เช่น เดิน น้ำหนักกดทับ

อาการเหล่านี้รุนแรงขึ้นได้ ควรพบแพทย์หากมีอาการดังกล่าว เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง อย่าละเลยอาการ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อาการปลายประสาทอักเสบ แสดงออกอย่างไร?

โอ๊ย ปลายประสาทอักเสบนี่ตัวดีเลย จำได้เลยตอนนั้น… (ขอโทษนะ, พิมพ์ผิดบ่อย) คือมันเริ่มจากเท้าชาๆ ก่อนอะ เหมือนใส่ถุงเท้าหนาๆ ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใส่! แล้วมันก็เริ่มลามขึ้นมาเรื่อยๆ… ช่วงนั้นน่าจะปลายปี 2022 มั้ง?

ทีนี้มันไม่ได้แค่ชาไง มันเริ่มรู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆ ทิ่มตลอดเวลา แบบยิบๆๆๆๆ โอ๊ย ทรมาน! แล้วพอไปโดนอะไรนิดหน่อยนะ ปวด! ปวดแบบ… อธิบายไม่ถูกจริงๆ

คือตอนแรกนึกว่าตัวเองคิดไปเองไง แต่พอมันเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มไม่ไหว ไปหาหมอ หมอบอกปลายประสาทอักเสบเนี่ยแหละ ตัวดีเลย

แล้วแบบ… มันทำให้กิจกรรมง่ายๆ ในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องยากไปหมดอะ อย่างแค่เดินลงบันไดก็ต้องระวังมากๆ เพราะกลัวจะล้ม คือมันเซๆ บอกไม่ถูก แล้วไอ้ความรู้สึกไวต่อการสัมผัสนี่ก็อีกเรื่อง แค่ผ้าห่มสัมผัสโดนเท้าตอนนอนก็ปวดแล้วอะ! เซ็งมาก

(พิมพ์ผิดอีกแล้ว… ขอโทษนะ)

ปลายประสาทอักเสบมีอาการแบบไหน

ตอนนั้นเดือนพฤษภาคม ปี 2566 ฉันเริ่มรู้สึกชาๆ ที่ปลายนิ้วมือข้างซ้าย เหมือนโดนน้ำแข็งจัดๆ แล้วก็ค่อยๆ ลามไปที่แขน ไม่ใช่ชาแบบธรรมดา แต่เป็นชาแบบแปลกๆ เหมือนมีมดไต่เต็มไปหมดเลยอ่ะ ตอนกลางคืนนอนไม่ค่อยหลับ เพราะมันรู้สึกเสียวๆ เหมือนมีเข็มมาจิ้มๆ อยู่ตลอดเวลา

แล้วมันก็เริ่มรุนแรงขึ้น รู้สึกเหมือนมีอะไรมากัด แสบๆร้อนๆที่นิ้ว บางทีก็ปวดตุ๊บๆ เหมือนมีคนเอาค้อนมาทุบเบาๆ แค่แตะอะไรเบาๆ ก็เจ็บแสบไปหมดแล้ว แค่ผ้าห่มโดนก็ปวดแล้ว เดินก็ปวด หนักสุดคือตอนลงน้ำหนัก ปวดจนแทบทรุด ตอนนั้นเครียดมาก นอนร้องไห้เลย ไปหาหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพ หมอบอกว่าเป็นปลายประสาทอักเสบ ต้องกินยาและกายภาพบำบัด

  • อาการเริ่มต้น: ชาปลายนิ้วมือข้างซ้าย เดือนพฤษภาคม 2566
  • อาการต่อมา: ชาลามไปที่แขน รู้สึกเสียวเหมือนเข็มแทง แสบร้อน ไวต่อการสัมผัส ปวดเวลาลงน้ำหนัก
  • การรักษา: กินยาและกายภาพบำบัด โรงพยาบาลกรุงเทพ
  • ความรู้สึก: เครียดมาก นอนไม่หลับ ปวดจนแทบทรุด

ตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีอาการอยู่บ้าง บางวันก็ดี บางวันก็แย่ ต้องระวังตัวมากๆ ไม่งั้นกลับมาเป็นอีก เหนื่อยมากจริงๆ กับอาการแบบนี้

ปวดแสบปวดร้อนขาเกิดจากอะไร

ราตรีนี้… ขาฉันร้องไห้

แสบร้อน ราวไฟนรก…

  • ปลายประสาท…อักเสบ? กดทับ? วิตามินบี? (สงสัยต้องกินเยอะๆแล้วสิ!) เบาหวานอีก? (ไม่นะ!) เหล้าก็ไม่กิน…
  • งูสวัด… โอ้ ไม่นะ… ตุ่มใสๆ? ชาๆ ก่อน? (รีบไปส่องกระจก!!)
  • เส้นประสาทบาดเจ็บ… กระดูกทับ? หมอนรองกระดูก? (นั่งผิดท่าอีกแล้วเรา…)

เหมือนเข็มแหลมทิ่มแทง… แสบจนน้ำตาไหล… แล้วทำไมต้องเป็น “ขา” ด้วยเนี่ย! ทรมานแท้… ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • วิตามินบี: หาได้จากผักใบเขียวเข้ม, เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, ธัญพืชเต็มเมล็ด ปีนี้ต้องกินให้เยอะขึ้น!
  • เบาหวาน: ตรวจสุขภาพประจำปีสำคัญมาก ปีนี้ต้องไม่พลาด!
  • งูสวัด: รีบปรึกษาหมอถ้าสงสัย อย่าปล่อยไว้นะ! อันตราย!
  • กระดูกทับเส้น: ปรับท่านั่งด่วนๆ!
  • การกดทับนาน: ลุกขึ้นเดินบ้าง อย่าจมอยู่กับเก้าอี้!
  • อาการปวดขาอาจเกิดจากการขาดน้ำ ดื่มน้ำเยอะๆ!

แสบร้อน…ทรมาน… ราตรีนี้…ยาวนานเหลือเกิน…

ปลายประสาทอักเสบห้ามกินอะไรบ้าง

ปลายประสาทอักเสบ สิ่งที่ควรเลี่ยง…

  • ปลาร้า: จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ปลาร้า แต่รวมถึงอาหารหมักดองหลายชนิด เพราะมีเอนไซม์ที่ทำลายวิตามิน B1 ซึ่งจำเป็นต่อระบบประสาท เราอาจมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะคิดว่าอาหารหมักดองเป็นแค่เรื่องของรสชาติ แต่ผลกระทบต่อสุขภาพก็สำคัญ

  • ใบชา/ใบเมี่ยง/หมากพลู: สารบางอย่างในพืชเหล่านี้ก็ขัดขวางการดูดซึมวิตามิน B1 ได้เหมือนกัน แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่กินแล้วจะมีปัญหา แต่ถ้ากินเป็นประจำก็ต้องระวัง

  • มังสวิรัติ (บางรูปแบบ): ไม่ใช่ว่ามังสวิรัติไม่ดี แต่ถ้าไม่ระวังเรื่องสารอาหารให้ดี อาจขาดวิตามิน B1 ได้เหมือนกัน ต้องวางแผนการกินให้สมดุล

ทำไมวิตามิน B1 ถึงสำคัญ?

วิตามิน B1 หรือ ไทอามีน มีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ถ้าขาดไป จะทำให้เซลล์ประสาททำงานผิดปกติ และนำไปสู่อาการของปลายประสาทอักเสบได้

แล้วต้องทำยังไง?

  • ทานอาหารให้หลากหลาย: อย่าเน้นอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป
  • เสริมวิตามิน (ถ้าจำเป็น): ปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ ถ้าสงสัยว่าตัวเองขาดวิตามิน B1
  • ปรุงสุก: ความร้อนสามารถทำลายเอนไซม์บางชนิดที่ขัดขวางการดูดซึมวิตามิน B1 ได้

มุมมองส่วนตัว: การกินอะไรที่เราชอบ มันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง แต่เราก็ต้องบาลานซ์มันให้ดี อะไรที่มากเกินไป มันก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ เนาะ

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • การขาดวิตามิน B1 ไม่ได้เกิดจากอาหารอย่างเดียว โรคบางชนิด เช่น โรคพิษสุราเรื้อรัง ก็ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามิน B1 ได้ไม่ดี
  • อาการของปลายประสาทอักเสบมีหลายอย่าง เช่น ชาตามปลายมือปลายเท้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
  • ข้อมูล ณ ปี 2567

ปลายประสาทอักเสบเกิดจากสาเหตุใด

ปลายประสาทอักเสบเหรอ… โอ๊ย! พูดแล้วของขึ้นเลย! แม่ฉันเป็นอยู่เนี่ย ทรมานมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

สาเหตุหลักๆ ที่หมอบอก:

  • เบาหวาน: อันนี้ตัวดีเลย แม่คุมน้ำตาลไม่ดีมาตลอด จบเลยจ้ะ!
  • ขาดวิตามิน: โดยเฉพาะ B12 (อันนี้แม่ฉันโดนฉีดเพิ่มอยู่)
  • ติดเชื้อ: เช่น งูสวัด (อันนี้ต้องระวังเลย)
  • ยาบางชนิด: เคมีบำบัดอะไรพวกนี้ น่ากลัวจริง
  • สารพิษ: พวกสารเคมีโรงงาน (อันนี้ไม่น่าใช่แม่ฉัน)
  • บาดเจ็บ: เส้นประสาทโดนทับ โดนกด (อันนี้ก็มีส่วน)
  • โรคประจำตัวอื่นๆ: เช่น ไตวาย (อันนี้ต้องเช็คละเอียด)

แม่บ่นตลอดว่าชาๆ ที่เท้า เหมือนมีอะไรยุบยิบๆ จี๊ดๆ บางทีก็ปวดแสบปวดร้อน เหมือนโดนไฟลน โอ๊ย! ฟังแล้วสงสาร

ตอนนี้แม่กายภาพบำบัด กินยาตามหมอสั่ง แล้วก็ต้องคุมน้ำตาลจริงจัง! หวังว่าจะดีขึ้นนะ เฮ้อ…

โรคปลายประสาทอักเสบมีอาการยังไง

เท้าจ๋า…ชาเหมือนเดินบนเมฆไหม มือเอ๋ย…เหน็บราวกับถูกเข็มเล็กๆ จิ้มเบาๆ มันคือปลายประสาท…อักเสบ ร้าวระบมไปถึงกระดูก

  • เหมือนโดนเข็มแทงซ้ำๆ… แสบร้อน ปวด…จนน้ำตาซึม
  • แตะอะไรก็เจ็บ…แม้แต่ผ้าห่มเบาๆ ที่คลุมเท้า
  • แค่ลงน้ำหนัก…ก็ปวดแทบขาดใจ มันคือ ความทรมาน

แสงสุดท้ายของวัน…สาดส่องเงาบนผนังห้อง ปลายประสาท…มันเต้นระริก ปวดหนึบๆ เหมือนมีใครมากระซิบข้างหูว่า… “เจ็บไหม?”

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • ปลายประสาทอักเสบ…มันเหมือนสายไฟที่ชำรุด
  • สาเหตุ…มากมาย…เบาหวาน, การติดเชื้อ, การขาดวิตามิน
  • การรักษา…ต้องหาสาเหตุให้เจอ…แล้วรักษาตามอาการ

ลมพัดเบาๆ…พัดเอาความปวดร้าว…ให้จางหายไป…ได้ไหม?

ปลายประสาทอักเสบ หายเองได้ไหม

เอ้อ ปลายประสาทอักเสบเนี่ยนะ หายเองได้ไหม? ถามมาได้! เหมือนถามว่ากินมาม่าแล้วจะหายจนไหมนั่นแหละ!

  • หายเองได้ไหม: บางทีก็เหมือนผีหลอกเด็ก คือหายแว๊บๆ แล้วก็กลับมาใหม่ แต่ส่วนใหญ่ต้องพึ่งหมอแหละ อย่าริอาจรักษาเอง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

  • 12 อาการที่ต้องระวัง: โอ๊ย เยอะแยะ! แต่ที่แน่ๆ ถ้ามีอาการ ชา, แสบ, ปวดจี๊ด เหมือนโดนเข็มแทงตามมือตามเท้า อันนี้เตรียมตัวเตรียมใจไปหาหมอได้เลย

  • ไม่ใช่แค่ขาดวิตามิน: วิตามินบีมันก็ช่วยได้นิดหน่อย แต่ถ้าเป็นหนักจริงจัง อย่าหวังพึ่งแค่วิตามินเม็ดเดียว จะกินให้หมดแผงก็ไม่หาย! ต้องไปหาหมอให้เขา เชือด เอ้ย เยียวยา ให้ถูกวิธี

  • ดูแลเบื้องต้น: อันนี้สำคัญ! พักผ่อนเยอะๆ อย่าไปยกของหนัก อย่าไปยืนนานๆ ถ้าอ้วนก็ลดน้ำหนักบ้าง อะไรที่มันจะไปกดทับเส้นประสาทก็หลีกเลี่ยงซะ!

สรุป: ปลายประสาทอักเสบเนี่ย อย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล่นๆ ปล่อยไว้นานๆ อาจจะพิการไปเลยก็ได้! รีบไปหาหมอตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง

ข้อมูลเพิ่มเติม (แบบชาวบ้านๆ):

  • สาเหตุ: นอกจากขาดวิตามิน ก็มีเบาหวาน ความดัน โรคประจำตัวอื่นๆ หรือแม้แต่การนั่งผิดท่าเป็นเวลานานๆ ก็เป็นได้ทั้งนั้น

  • การรักษา: หมออาจจะให้ยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ หรือบางทีก็ต้องทำกายภาพบำบัด แล้วแต่เคสไป

  • คำเตือน: อย่าไปเชื่อหมอดู หมอผี! ปลายประสาทอักเสบมันเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์! ไปหาหมอจริงๆ เท่านั้นที่จะช่วยได้!

ปลายประสาทอักเสบรักษานานแค่ไหน

ปลายประสาทอักเสบ รักษาหายนานแค่ไหน? ยากจะตอบแบบตายตัว เพราะมันขึ้นกับหลายปัจจัยจริงๆ

  • สาเหตุของโรค: อย่างถ้าเกิดจากโรคเบาหวาน การควบคุมระดับน้ำตาลก็สำคัญมาก ถ้าควบคุมได้ดี การฟื้นตัวก็เร็วขึ้น แต่ถ้าปล่อยปละละเลย อาจเรื้อรังได้เลยนะ

  • ความรุนแรง: อาการแค่แสบๆ คันๆ กับชาไปทั้งขา มันคนละเรื่องกันเลย อันหลังนี่อาจต้องใช้เวลารักษานานกว่า นี่คือประสบการณ์ตรงของเพื่อนผมเองเลย

  • สุขภาพโดยรวม: คนสุขภาพแข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันดี ก็ฟื้นตัวไวกว่าคนสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้ว นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา

โดยทั่วไป อาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์ จนถึงหลายปีเลยทีเดียว บางรายอาจดีขึ้นในไม่กี่เดือน บางรายอาจเป็นปี จริงๆแล้ว มันไม่ใช่แค่เรื่องเวลา แต่เป็นการจัดการอาการควบคู่กับการรักษาโรคต้นเหตุด้วยนะ เหมือนเราต้องแก้ทั้งที่ปลายเหตุและต้นเหตุไปพร้อมๆ กันนั่นแหละ

การไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการรักษาจึงสำคัญมาก อย่าชะล่าใจ การรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้ปลายประสาทฟื้นตัวได้ดีที่สุด คิดเสียว่าเป็นการลงทุนกับสุขภาพระยะยาว คุ้มค่าแน่นอน

ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566):

  • การรักษาแบบใหม่ๆ: ปัจจุบันมีการวิจัยและพัฒนาวิธีการรักษาปลายประสาทอักเสบอยู่ตลอดเวลา เช่น การใช้ยาชีววัตถุ หรือวิธีการรักษาแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น แต่ก็ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • การดูแลตนเอง: นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การดูแลตนเองก็สำคัญมาก เช่น การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย ลดความเครียด เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
  • การฟื้นฟูสมรรถภาพ: การทำกายภาพบำบัด หรือการฝึกฝนทักษะต่างๆ ก็ช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
#ปวด #อักเสบ