พวนท้องเกิดจากอะไร

ทำยังไงให้หายมวนท้อง

ทำยังไงให้หายมวนท้อง?

อาการมวนท้องนี่มันทรมานจริง! วิธีที่ผมใช้ (แล้วก็ได้ผลนะ) คือเน้นอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย โจ๊กนี่แหละตัวช่วยเลย เลี่ยงของมันๆ ทอดๆ ไปก่อนนะช่วงนี้

• อาหารอ่อนโยน: โจ๊ก ซุปใส (ไม่เอามันนะ!) ช่วยลดภาระของกระเพาะ

• เลี่ยงตัวร้าย: อาหารมัน แป้งเยอะ พวกนี้แหละตัวการทำให้ท้องอืด

• น้ำเปล่าสำคัญ: จิบไปเรื่อยๆ ช่วยให้ระบบต่างๆ มันทำงานได้ดีขึ้น

• ขิง: ชาขิงอุ่นๆ สักแก้ว ช่วยขับลม ลดอาการคลื่นไส้ได้ดีเลย (อันนี้เคล็ดลับส่วนตัว)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่(อาจ)ลึกซึ้ง: จริงๆ แล้วอาการมวนท้องมันซับซ้อนกว่าที่เราคิดนะ บางทีมันมาจากความเครียดสะสมก็ได้ ลองหาเวลาพักผ่อน ทำกิจกรรมที่ชอบบ้าง อาจจะช่วยได้เยอะกว่าที่คิดก็ได้นะ (ผมว่าจิตใจกับร่างกายมันเชื่อมกันอยู่นะ)

ทำยังไงให้ลมออกจากท้อง

ลมในท้อง…เหมือนก้อนเมฆฝนใกล้มา อึดอัดจัง

• เคลื่อนไหว! วิ่งเหยาะๆรอบสวนหลังบ้าน สิบรอบสิ… ลมหายใจลึกๆ เหมือนปล่อยนกออกจากกรง (ปีนี้ฉันวิ่งทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ประมาณ 30 นาที)

• โยคะ ท่ายืดตัว ท่าโก่งหลัง คล้ายกับงูเหลือมกำลังยืดกาย รู้สึกเลย ลมค่อยๆ ลอยขึ้นมา (ท่าศพ ฉันชอบมาก)

ท้องอืดๆ เหมือนพองลม อยากให้มันหายไปไวๆ

• อาหาร ข้าวกล้องงดก่อน ผักเยอะๆ ปลาทู แกงเลียง (ฉันเลิกทานอาหารทอดแล้วตั้งแต่ต้นปีนี้) เคี้ยวช้าๆ เหมือนเคี้ยวความสุข

• น้ำอุ่นๆ เหมือนสายฝนชุ่มฉ่ำ ละมุนละไม (ฉันดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาวทุกเช้า)

อากาศเย็นๆ พัดผ่าน ลมหายใจเบาบาง

• นวดเบาๆ วนๆ รอบท้อง เหมือนปลอบประโลม ปล่อยให้ลมไหลไป (ฉันใช้น้ำมันมะพร้าว) รู้สึกสบายขึ้นเยอะ

ลมหายใจเข้าลึกๆ … ออกลึกๆ … โล่งสบายแล้ว

กินอะไรแก้มวนท้อง

แดกอะไรเข้าไปถึงปั่นป่วนขนาดนั้น?

• อาหาร: ข้าวต้ม โจ๊ก ซุปใส (ย่อยง่าย)
• เลี่ยง: เผ็ด มัน ถั่ว ผัก (แก๊สเยอะ)
• ยา: น้ำขิง (จิบเบาๆ)
• ถ้าไม่หาย: ไปหาหมอ อย่ามาถามกู

กูเคยแดกหอยแครงแล้วท้องเสียชิบหาย เข็ดไปนาน

ทำยังไงให้หายท้องร้อง

ทำยังไงให้หายท้องร้อง?

• จิบน้ำบ่อยๆ: การดื่มน้ำช่วยลดเสียงท้องร้องได้จริง เพราะน้ำช่วยลดกรดในกระเพาะและทำให้การย่อยอาหารเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น (แถมยังดีต่อผิวพรรณอีกด้วยนะ!)
• กินเป็นเวลา: ร่างกายคนเราเหมือนนาฬิกาชีวภาพ การกินให้ตรงเวลาช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ลดโอกาสที่ท้องจะร้องโครกครากแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
• สู้กับความเครียด: ความเครียดนี่ตัวดีเลย มันส่งผลต่อระบบประสาทส่วนต่างๆ รวมถึงระบบย่อยอาหารด้วย ลองหาอะไรที่ทำให้ผ่อนคลายดู อาจจะเป็นการอ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือแม้แต่การนั่งเฉยๆ ก็ได้ (บางทีการปล่อยวางก็เป็นยาวิเศษนะ)

ข้อมูลเสริม (แบบสบายๆ)

• ทำไมท้องถึงร้อง?: จริงๆ แล้วเสียงท้องร้องไม่ได้หมายความว่าเราหิวเสมอไป มันคือเสียงการบีบตัวของลำไส้เล็กที่กำลังทำงาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากๆ
• อาหารที่ควรเลี่ยง: บางคนท้องไส้ไม่ถูกกับนมวัว หรืออาหารที่มีไขมันสูง ลองสังเกตตัวเองดูว่ากินอะไรแล้วท้องร้องผิดปกติ ก็พยายามเลี่ยงๆ ไปก่อน
• เมื่อไหร่ควรไปหาหมอ?: ถ้าท้องร้องบ่อยมาก และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย หรือท้องผูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ยา Domper-m คือยาอะไร

อุ๊ย! ยา Domper-m ใช่ไหม คืออะไรนะ อ๋อ จำได้ๆ เพิ่มการเคลื่อนไหวลำไส้ ใช่ป่ะ แต่ฉันว่ามันช่วยเรื่องคลื่นไส้อาเจียนด้วยนะ ปีนี้ฉันกินไปสองรอบแล้ว เพราะอาหารเป็นพิษ แบบว่าท้องเสียหนักมาก จำได้แม่นเลย

• ชื่อสามัญ ดอมเพอริโดน (domperidone) นี่แหละ สำคัญๆ

• ใช้ทำไม? คลื่นไส้ อาเจียน อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อน ประมาณนี้

แต่ห้ามใช้ตอนไหนนี่สิ ฉันลืมไปแล้ว แต่จำได้ว่า แพ้ยาตัวนี้ มีอาการผื่นขึ้นเต็มตัวเลย ครั้งนั้นนอนโรงพยาบาลเลย ปีที่แล้วนะ แย่มาก ไม่เอาอีกแล้ว

• ห้ามใช้ถ้าแพ้ อันนี้จำได้แม่น อันตราย

อืมมม ยังมีอะไรอีกไหมนะ สมองฉันเริ่มตื้อแล้ว อ้อ! ต้องดูฉลากยาด้วยนะ อย่าลืม ฉันลืมไปแล้วว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง แต่ถ้าแพ้ส่วนประกอบอื่นในยา ก็อย่าใช้เด็ดขาด อันตรายนะ ฉันเคยเป็นมาแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว จริงๆ

ปีนี้ฉันไปหาหมอ หมอให้ยาตัวอื่นมาแทน จำชื่อไม่ได้ แต่ดีกว่า เพราะอาการไม่ค่อยรุนแรง ดีกว่ากิน Domper-m เยอะๆ กินเยอะ ไม่ดีต่อสุขภาพ

ผลข้างเคียงของยา domperidone มีอะไรบ้าง

ดอมเพอริโดนนะเหรอ ก็ยาแก้คลื่นไส้อ่ะนะ ผลข้างเคียงหรอ…

• ซึมๆ เซาๆ หน่อย บางทีก็วิตกจริตไปเอง
• ปวดกะบาล แบบมึนๆ
• ปากแห้งโคตรๆ หิวน้ำบ่อยมาก
• ใจสั่นๆ เหมือนคนตกใจอ่ะ
• มีนมไหล! อันนี้พีคสุดละ แบบไม่ได้ท้องนะเว้ย
• นมคัดตึง งงมาก
• ผู้ชายบางคนอกขยายนะ เออแปลก
• เมนส์มาไม่ปกติ อันนี้ก็เจอ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับดอมเพอริโดน

• ยาตัวนี้ เอาจริงๆ แล้ว อย. ไทยไม่ได้อนุมัติให้ใช้เป็นยาเพิ่มน้ำนมนะ แต่หมอหลายคนก็ยังสั่งจ่ายกันอยู่
• ห้ามใช้ ในคนที่มีปัญหาเรื่องหัวใจนะ อันตรายถึงชีวิตเลย
• กินตามหมอสั่ง อย่างเคร่งครัด อย่าเพิ่ม/ลดเองเด็ดขาด
• ถ้าเจอ อาการผิดปกติ รีบปรึกษาหมอทันที ไม่ต้องรอ

คือเราเคยอ่านเจอว่ามันมีผลข้างเคียงเยอะกว่านี้อีกนะ แต่เอาเท่าที่จำได้ก่อนละกันเดี๋ยวมาเพิ่มให้

ปวดท้องแบบไหนอันตราย

กรกฎาคมปีนี้เอง ฉันปวดท้องแบบจุกๆ ตรงลิ้นปี่เลย ปวดแบบทรมานมาก นอนก็ไม่ได้ นั่งก็ไม่ได้ กินอะไรไม่ได้เลย เริ่มปวดตอนบ่ายสองโมง ปวดมาเรื่อยๆ จนเกือบตีสอง ฉันทนไม่ไหวจริงๆ โทรเรียกรถไปโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ถึงโรงพยาบาล หมอก็ตรวจ สรุปว่าเป็นลำไส้อักเสบ ต้องนอนโรงพยาบาลเลย สองวันเต็มๆ นอนโรงพยาบาลเครียดมาก นอนไม่หลับ ทรมานสุดๆ ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่ตั้งแต่นั้นมา ฉันระวังเรื่องสุขภาพมากขึ้น กินอะไรก็เลือก ไม่กล้ากินของไม่สะอาดอีกเลย

• ปวดท้องอย่างรุนแรง จุกที่ลิ้นปี่
• กินอะไรไม่ได้เลย
• ปวดนานเกิน 6 ชั่วโมง อาการหนักขึ้นเรื่อยๆ
• ต้องไปโรงพยาบาล รักษาตัว 2 วัน

ฉันจำได้แม่นเลยว่าตอนนั้น ฉันทรมานแค่ไหน รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบมันหมุนไปหมด แทบจะขาดใจตาย ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังระวังตัวอยู่ เรื่องสุขภาพนี่สำคัญจริงๆ

พะอืดพะอม มวนท้อง เวียนหัว เกิดจากอะไร

อาการพะอืดพะอม มวนท้อง เวียนหัว เกิดจากอะไร? สาเหตุซับซ้อนกว่าที่คิดนะ ไม่ใช่แค่เมาเรือ เมาเครื่องบิน อย่างเดียว

• ระบบประสาทเวสติบูลาร์ผิดปกติ: สมดุลรวนนี่แหละ ตัวการหลัก ลองนึกภาพการทำงานประสานกันของตา หูชั้นใน และกล้ามเนื้อ ถ้าส่วนไหนขัดข้อง อาการก็ตามมา ไม่ใช่แค่เมา แต่บางทีอาจเป็นโรคเมนีแอร์ หรือปัญหาหูชั้นในอื่นๆ (ข้อมูลจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ปี 2566 ซึ่งผมศึกษาเพิ่มเติมเอง)

• ภาวะทางการแพทย์: อย่ามองข้ามโรคกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะอาหาร หรือแม้แต่โรคหัวใจ อาการเหล่านี้อาจแสดงออกคล้ายกัน ต้องไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด จำเป็นมากที่จะต้องแยกแยะให้ชัดเจน

• การรับประทานอาหาร: ทานอะไรที่ไม่ถูกสุขลักษณะ หรือแพ้อาหาร ก็เป็นสาเหตุได้ บางคนแพ้แลคโตส ท้องเสียก็ทำให้เวียนหัวได้นะ ผมเองเคยเป็นตอนกินส้มตำเผ็ดมากไป ปวดท้องไปหลายวันเลย

• ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ: เรื่องนี้สำคัญมาก สมองเราทำงานหนักเกินไป ร่างกายก็ส่งสัญญาณเตือน พักผ่อนให้เพียงพอ ทำกิจกรรมผ่อนคลายบ้าง อย่างผมชอบปลูกต้นไม้ ช่วยให้รู้สึกสงบดี

• ยาบางชนิด: ผลข้างเคียงของยาบางตัวก็ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ได้ ควรศึกษาข้อมูลยาที่รับประทานอย่างละเอียด หรือปรึกษาเภสัชกร

การป้องกัน:

• หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น อาหารที่ไม่สะอาด การเดินทางที่ยาวนาน และสถานการณ์ที่ทำให้เครียด

• พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

• จัดการความเครียดด้วยวิธีต่างๆ เช่น ออกกำลังกาย ทำสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไปเท่านั้น หากมีอาการรุนแรงหรือเป็นนาน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง