การให้ adrenaline เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะ anaphylaxis ต้องทำอย่างไร

24 การดู

การใช้ยาอะดรีนาลิน 1:1000 รักษาอาการอะนาไฟแล็กซีส ฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณต้นขาส่วนนอกด้านข้างที่ไม่ใช่บริเวณที่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน หากไม่ทราบตำแหน่ง ให้ฉีดข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ สำหรับอาการไม่รุนแรงอาจพิจารณาฉีดใต้ผิวหนัง ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดหลังการฉีดและรีบไปพบแพทย์ทันที

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อะดรีนาลิน: เส้นชีวิตในยามวิกฤตของ Anaphylaxis

Anaphylaxis หรือภาวะแพ้รุนแรง เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่ต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและรวดเร็ว อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ หัวใจสำคัญในการจัดการ Anaphylaxis คือการใช้ยาอะดรีนาลิน (Adrenaline) โดยเฉพาะอย่างยิ่งอะดรีนาลินเข้มข้น 1:1000 บทความนี้จะอธิบายวิธีการใช้ยาอะดรีนาลินอย่างถูกวิธีและปลอดภัยที่สุดในสถานการณ์ฉุกเฉินของ Anaphylaxis

การเตรียมตัวก่อนฉีดอะดรีนาลิน:

ก่อนอื่น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ป่วยมีอาการ Anaphylaxis จริงๆ อาการสำคัญที่บ่งชี้ถึง Anaphylaxis ได้แก่ หายใจลำบาก บวมที่ใบหน้า ลิ้น หรือลำคอ คลื่นไส้ อาเจียน ความดันโลหิตตก หมดสติ และผื่นคันทั่วร่างกาย หากสงสัยว่าผู้ป่วยมีอาการ Anaphylaxis ควรรีบโทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินทันที (เช่น โทร 1669) การแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะการรักษาอย่างทันท่วงทีจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต

วิธีการฉีดอะดรีนาลิน 1:1000:

  • ตำแหน่งการฉีด: อะดรีนาลิน 1:1000 ควรฉีดเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular injection) ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือ บริเวณต้นขาส่วนด้านนอก (Lateral thigh) เลือกบริเวณที่ไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน หากไม่ทราบตำแหน่งที่แน่นอน สามารถฉีดได้ที่ต้นขาข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ การฉีดเข้ากล้ามเนื้อจะช่วยให้ยาถูกดูดซึมได้เร็วกว่าการฉีดใต้ผิวหนัง
  • วิธีการฉีด: ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือหนีบผิวหนังบริเวณที่จะฉีด จากนั้นใช้เข็มฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้ออย่างมั่นคงและรวดเร็ว ฉีดอะดรีนาลินให้หมดเข็ม หลังจากฉีดเสร็จแล้ว ควรนวดบริเวณที่ฉีดยาเบาๆ เพื่อช่วยให้ยาซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างทั่วถึง
  • สำหรับอาการไม่รุนแรง: ในกรณีที่มีอาการ Anaphylaxis ที่ไม่รุนแรงมากนัก แพทย์อาจพิจารณาให้ฉีดอะดรีนาลินใต้ผิวหนัง (Subcutaneous injection) แต่การฉีดเข้ากล้ามเนื้อยังคงเป็นวิธีการที่แนะนำมากที่สุดในสถานการณ์ฉุกเฉิน

หลังการฉีดอะดรีนาลิน:

  • สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด: หลังจากฉีดอะดรีนาลินแล้ว ควรสังเกตอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด อาการอาจดีขึ้นภายในไม่กี่นาที แต่ก็ควรเฝ้าระวังอาการที่อาจกลับมาเป็นซ้ำ
  • รีบไปพบแพทย์ทันที: แม้ว่าอาการจะดีขึ้นหลังจากฉีดอะดรีนาลินแล้ว ก็ควรนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที เพื่อรับการรักษาและดูแลอย่างต่อเนื่อง แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัย ให้การรักษาเพิ่มเติม และหาสาเหตุของการแพ้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก

ข้อควรระวัง:

  • อะดรีนาลินเป็นยาที่มีฤทธิ์แรง ควรใช้เฉพาะในกรณีที่มีอาการ Anaphylaxis เท่านั้น
  • หากคุณไม่เคยได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการฉีดอะดรีนาลิน ควรขอคำแนะนำจากแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ก่อน
  • เก็บยาอะดรีนาลินไว้ในที่ที่ปลอดภัยและเย็น ห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยง

การรู้วิธีการใช้อะดรีนาลินอย่างถูกวิธีและรวดเร็วสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยที่เป็น Anaphylaxis ได้ การเตรียมตัวล่วงหน้าและการปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่าลังเลที่จะโทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินหากสงสัยว่ามีผู้ป่วยเป็น Anaphylaxis

หมายเหตุ: บทความนี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ควรใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ