จอประสาทตาบวม เกิดจาก อะไร

25 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำ:

จอประสาทตาบวมน้ำอาจเกิดจากความผิดปกติของเซลล์จอตา ทำให้สารน้ำรั่วซึมสะสมใต้จอตา กลุ่มผู้ที่มีบุคลิกภาพเคร่งเครียด จริงจังกับชีวิต (Type A) อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะเครียดส่งผลต่อการทำงานของเซลล์จอประสาทตาได้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

จอประสาทตาบวมน้ำ (Macular Edema)

จอประสาทตาบวมน้ำเป็นภาวะที่ของเหลวเกาะบริเวณจอประสาทตาชั้นกลาง (Macula) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความสำคัญต่อการมองเห็นที่ชัดเจนและรายละเอียด เมื่อของเหลวสะสมมากขึ้น ทำให้จอประสาทตาบวมและมองเห็นภาพได้ไม่ชัด

สาเหตุของจอประสาทตาบวมน้ำ

จอประสาทตาบวมน้ำสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น

  • โรคเบาหวาน: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของจอประสาทตาบวมน้ำ เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเรื้อรังอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อหลอดเลือดในจอประสาทตา
  • ภาวะความดันโลหิตสูง: ความดันโลหิตสูงเรื้อรังสามารถส่งผลกระทบต่อหลอดเลือดในจอประสาทตา ทำให้เกิดอาการบวมได้
  • ภาวะเลือดออกในลูกตา: เลือดที่รั่วไหลเข้าไปในจอประสาทตาอาจกระตุ้นให้เกิดอาการบวม
  • การอุดตันหลอดเลือดดำในจอประสาทตา: ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดดำที่นำเลือดออกจากตาถูกอุดตัน ทำให้เลือดคั่งและทำให้เกิดจอประสาทตาบวม
  • โรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย: ในผู้สูงอายุ จุดศูนย์กลางของจอประสาทตา (Macula) อาจเสื่อมลง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้
  • ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดตา: บางครั้งอาจเกิดจอประสาทตาบวมน้ำหลังจากการผ่าตัดตา
  • การอักเสบของตา: ภาวะอักเสบบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการบวมของจอประสาทตา

กลุ่มเสี่ยงของจอประสาทตาบวมน้ำ

บุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดจอประสาทตาบวมน้ำ ได้แก่

  • ผู้ที่มีโรคเบาหวาน
  • ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
  • ผู้ที่สูบบุหรี่
  • ผู้สูงอายุ
  • ผู้ที่เคยมีประวัติการผ่าตัดตา
  • ผู้ที่ใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์

การวินิจฉัยจอประสาทตาบวมน้ำ

แพทย์จะตรวจตาเพื่อวินิจฉัยจอประสาทตาบวมน้ำ โดยการตรวจอาจรวมถึง

  • การทดสอบการมองเห็น
  • การตรวจโดยใช้กล้องขยาย
  • การถ่ายภาพจอประสาทตา
  • การตรวจอัลตราซาวนด์ตา

การรักษาจอประสาทตาบวมน้ำ

การรักษาจอประสาทตาบวมน้ำจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของภาวะดังกล่าว การรักษาอาจรวมถึง

  • การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • ยาลดความดันโลหิตในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
  • ยาต้านการอักเสบในผู้ที่มีภาวะอักเสบ
  • การรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อปิดหลอดเลือดที่ผิดปกติ
  • การฉีดยาเข้าตาเพื่อลดอาการบวม
  • การผ่าตัดในบางกรณี

การป้องกันจอประสาทตาบวมน้ำ

แม้ว่าบางสาเหตุของจอประสาทตาบวมน้ำ เช่น อายุและกรรมพันธุ์ ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ก็มีมาตรการบางอย่างที่สามารถช่วยป้องกันภาวะนี้ได้ เช่น

  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีหากเป็นโรคเบาหวาน
  • ควบคุมความดันโลหิตให้ดีหากมีความดันโลหิตสูง
  • เลิกสูบบุหรี่
  • ปกป้องดวงตาจากแสงแดดโดยการสวมแว่นตากันแดด
  • ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำโดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยง