ดูยังไงว่าบวมน้ำ

บวมน้ำ: สัญญาณเตือนภัยสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

อาการบวมน้ำ หรือที่เรียกกันว่า “ตัวบวม” เป็นภาวะที่ร่างกายกักเก็บน้ำไว้มากเกินไป ทำให้เกิดอาการบวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณขา เท้า มือ และใบหน้า ถึงแม้ว่าบางครั้งอาการบวมน้ำอาจเกิดขึ้นชั่วคราวและไม่เป็นอันตราย เช่น หลังจากยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน การเดินทางด้วยเครื่องบิน หรือในช่วงมีประจำเดือน แต่ในบางกรณี อาการบวมน้ำอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ดังนั้น การรู้จักสังเกตและเข้าใจอาการบวมน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญ

วิธีสังเกตอาการบวมน้ำเบื้องต้นสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการกดนิ้วลงบนบริเวณผิวหนังที่สงสัยว่าบวม เช่น หลังเท้า ข้อเท้า หรือหน้าแข้ง เป็นเวลาประมาณ 5 วินาที แล้วปล่อยนิ้ว หากมีรอยบุ๋มปรากฏขึ้นและคงอยู่เป็นเวลาสักครู่ แสดงว่าอาจมีภาวะบวมน้ำ ซึ่งเรียกว่า “Pitting edema” ความลึกและระยะเวลาที่รอยบุ๋มคงอยู่อาจบ่งบอกถึงความรุนแรงของอาการบวมน้ำได้ ยิ่งรอยบุ๋มลึกและหายช้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งบ่งบอกว่ามีภาวะบวมน้ำมากขึ้นเท่านั้น

นอกจากการกดนิ้วแล้ว ยังมีสัญญาณอื่นๆ ที่อาจบ่งบอกถึงอาการบวมน้ำได้ เช่น

• ผิวหนังบริเวณที่บวมตึง เเละมันวาวกว่าปกติ
• รู้สึกหนักๆ ที่ขาหรือเท้า
• รู้สึกว่าเสื้อผ้า รองเท้า หรือเครื่องประดับคับกว่าปกติ
• มีอาการปวดหรือตึงบริเวณที่บวม
• น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทราบสาเหตุ

อาการบวมน้ำอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่อาการเล็กน้อย เช่น การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง การขาดการเคลื่อนไหว ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ไปจนถึงภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน และภาวะขาดโปรตีน ดังนั้น หากคุณมีอาการบวมน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก หรือมีอาการบวมที่ใบหน้าและริมฝีปาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง อย่าปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรง เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้.