ทํายังไงให้น้ํามูกหายไวๆ

14 การดู

วิธีบรรเทาน้ำมูกไหลจากหวัด (ไม่ใช้ยา):

  • ดื่มน้ำเยอะ: ช่วยให้มูกเหลว ขับออกง่าย
  • ดื่มชาร้อน: ลดอาการคัดจมูก เพิ่มความชุ่มชื้น
  • อบไอน้ำ: ช่วยเปิดทางเดินหายใจ บรรเทาอาการ
  • อาบน้ำอุ่น: คลายความตึงเครียด ลดอาการคัดจมูก
  • ล้างจมูก: กำจัดมูกและสิ่งสกปรกในโพรงจมูก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วิธีแก้น้ำมูกไหลให้หายเร็ว?

อื้อหือ… น้ำมูกไหลนี่ใช่เลย! จำได้ตอนไปเที่ยวเชียงใหม่ เดือนธันวาคม ปีที่แล้ว หนาวจัด! น้ำมูกไหลไม่หยุดเลย แทบจะจมน้ำในมูกตัวเองอยู่แล้ว 555 ตอนนั้นฉันเลยลองหลายวิธี

วิธีแรก ดื่มน้ำอุ่นๆ เยอะๆ ช่วยได้นิดหน่อยนะ รู้สึกว่ามูกบางลงจริงๆ แต่ก็ไม่หายขาดหรอก เหมือนมันแค่ไหลออกง่ายขึ้น แต่ก็ยังไหลไม่หยุดอยู่ดี

ต่อมาลองใช้วิธีอมน้ำเกลืออุ่นๆดูบ้าง อันนี้ได้ผลกว่า รู้สึกว่าคอโล่งขึ้น น้ำมูกก็ลดลง แต่ต้องค่อยๆอมนะคะ ไม่งั้นเค็มจนแสบปาก

อีกวิธีที่ใช้ประจำคือ อาบน้ำอุ่น อุ่นๆนะ ไม่ใช่ร้อนจัด คล้ายๆกับการอบไอน้ำแบบเบาๆ หลังอาบเสร็จ รู้สึกสบายจมูกขึ้นเยอะ น้ำมูกไหลน้อยลงจริงๆ

ส่วนการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ฉันไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ เพราะมันดูยุ่งยาก และรู้สึกแปลกๆเวลาใช้ เลยไม่ได้ใช้บ่อย

สุดท้าย ถ้าหนักมากจริงๆ ก็ต้องพึ่งยาแก้หวัดละ ครั้งนั้นฉันกินยาของ Boots ราคาประมาณ 150 บาทมั้ง จำไม่ค่อยได้แล้ว แต่กินแล้วดีขึ้นเร็วมาก หายภายในวันเดียวเลย แต่ก็อยากเน้นวิธีธรรมชาติมากกว่า ถ้าไม่หนักมากจริงๆ

สั่งน้ำมูกแรงๆเป็นอะไรไหม

สั่งน้ำมูกแรงๆ? เสี่ยง!

ไม่ช่วยให้หายเร็วขึ้น ซวยได้ง่ายๆ เชื้อโรคกระจายเต็มใบหน้า ไซนัสอักเสบรออยู่ แล้วจะแพร่เชื้อไปทั่วอีก ฉลาดหน่อยก็อย่าทำ

  • ไซนัสอักเสบ: อักเสบในโพรงไซนัส ปวดหัว หน้าบวม หายใจลำบาก
  • แพร่เชื้อ: ไอ จาม สัมผัสใกล้ชิด
  • ทางที่ดี: ใช้ทิชชู่เช็ด ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ

ปีนี้ก็ยังเห็นคนทำอยู่ โง่จริงๆ

อะไรช่วยลดน้ำมูก

การสูดไอน้ำช่วยลดน้ำมูกได้จริง กลไกคือไอน้ำช่วยให้เสมหะเหลวขึ้น ขับออกง่ายขึ้น

  • การเติมน้ำมันหอมระเหย (essential oils) ที่มีฤทธิ์ต้านจุลชีพ เช่น ไทม์ (Thyme), เปปเปอร์มินต์ (Peppermint), ยูคาลิปตัส (Eucalyptus) เสริมฤทธิ์ได้

  • สารสำคัญอย่างเมนทอล (Menthol) ในเปปเปอร์มินต์ และไทมอล (Thymol) ในไทม์ มีคุณสมบัติช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น ลดอาการคัดจมูกได้

แต่ต้องระวังการใช้น้ำมันหอมระเหยโดยเฉพาะในเด็กเล็ก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนนะ เพราะผิวเด็กบอบบางกว่าผู้ใหญ่

น้ำมูกแบบไหนใกล้หาย

น้ำมูกตอนใกล้หายนะเหรอ… คือลูกชายคนเล็กเป็นหวัดบ่อยมากกกก! จำได้ว่าตอนนั้นไปเที่ยวเชียงใหม่ช่วงสงกรานต์ อากาศเปลี่ยนปุ๊บ เป็นหวัดปั๊บเลย!

สังเกตง่าย ๆ เลยนะ:

  • น้ำมูกใส: มาก่อนเลย ใสแจ๋วเหมือนน้ำเปล่า
  • ข้นขึ้น: พอใกล้หาย น้ำมูกจะเริ่มเหนียว ๆ ข้น ๆ
  • สีเปลี่ยน: จากใส เป็นขาวขุ่น หรือบางทีก็เขียวอ่อน ๆ (อันนี้ไม่ต้องตกใจ!)
  • ปริมาณลด: สำคัญเลย คือน้ำมูกจะเริ่มไหลน้อยลง ไม่ต้องเช็ดกันทั้งวันเหมือนตอนแรก ๆ
  • อาการดีขึ้น: ลูกจะเริ่มซน เริ่มกินข้าวได้มากขึ้น ไม่ค่อยงอแง

แต่!! ถ้าลูกมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น หายใจหอบ, ไข้สูงไม่ลด, ซึมลง อันนี้รีบไปหาหมอเลยนะ อย่ารอ! เพราะอาจจะไม่ใช่แค่หวัดธรรมดา

แถมอีกนิด (จากประสบการณ์ตรง):

  • น้ำเกลือ: ล้างจมูกให้ลูกบ่อย ๆ ช่วยได้เยอะมากกกกก! (ย้ำว่า “มากกกกกก!”)
  • พักผ่อน: ให้ลูกนอนหลับพักผ่อนเยอะ ๆ สำคัญสุด ๆ
  • อาหาร: เน้นอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย (ข้าวต้มโจ๊กอะไรพวกนี้)
  • อากาศถ่ายเท: เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทบ้าง แต่อย่าให้ลมโกรกนะ!
  • วิตามินซี: เสริมวิตามินซีให้ลูกบ้าง (ปรึกษาหมอก่อนนะ)

หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะแม่ ๆ! สู้ ๆ! เป็นกำลังใจให้!

น้ำมูกสีอะไร ใกล้หาย

น้ำมูกสีอะไร? อืมมม… ตอนแรกใสปิ๊งเลยนะ แบบใสจนแทบมองไม่เห็น เหมือนน้ำเปล่าเลย แล้วค่อยๆ ข้นขึ้น เป็นสีขาวขุ่น อื้อหือ เหนียวหนึบเลย สุดท้ายนี่สีเขียวเลย เขียวเข้มด้วยนะ น่ากลัวมากกก แต่หมอบอกใกล้หายแล้วนะ โล่งอกไปที

  • ใส -> ขาวขุ่น -> เขียว นี่คือวิวัฒนาการของน้ำมูกลูกฉันเลย ปีนี้เจอมาแล้ว หนักหน่วงมาก
  • เรื่องสีเขียว อันนี้หมอบอกอย่าตกใจไป ไม่ใช่เสมอไปว่าจะต้องเป็นแบคทีเรียร้ายแรง ไวรัสก็ทำให้เป็นได้นะ แต่ถ้าเป็นนานเกินไปก็ต้องไปหาหมออีกที จำได้แม่น เพราะปีนี้ลูกเป็นหนักมาก
  • น้ำมูกน้อยลงแล้ว ดีใจมาก ไข้ก็ลดลง ไอก็เบาลง ไม่งอแงแล้วด้วย เย้! นี่คือสัญญาณที่ดี
  • ปีนี้ลูกเป็นหวัดหนักมาก เลยจำรายละเอียดได้แม่นยำ แต่ก็ได้บทเรียนไป คือต้องหมั่นดูแลสุขภาพ ล้างมือบ่อยๆ

เอ๊ะ แต่รอดูอีกสักหน่อยมั้ย เผื่อจะเปลี่ยนสีอีก ไม่แน่ นี่แค่คิดไปเองรึเปล่า เฮ้ออ เป็นแม่นี่เหนื่อยจริงๆ แต่ก็รักลูกนะ

(เพิ่มเติมเล็กน้อย: สีของน้ำมูกเป็นเพียงแค่หนึ่งในหลายๆ อาการที่ใช้ในการประเมินอาการหวัด ไม่ควรใช้สีน้ำมูกเพียงอย่างเดียวในการวินิจฉัยโรค ควรปรึกษาแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย)

อะไรช่วยลดน้ำมูก

แสงแดดอ่อนๆ ของเช้าเดือนตุลาคม… ลมพัดโชยอุ่นๆ ผ่านหน้าต่างห้องนอน ฉันรู้สึกได้ถึงความแห้งกร้านในจมูก น้ำมูกเหนียวหนืด…

  • ไอน้ำ นี่แหละ คำตอบ! เหมือนทะเลหมอกลอยละล่อง ชุ่มฉ่ำ ซึมซาบเข้าไปในโพรงจมูก ละลายความเหนียวหนืดนั้นไปให้หมดสิ้น

  • น้ำมันหอมระเหย โอ้…กลิ่นหอมสะอาด เหมือนสวนสมุนไพรในฝัน ยูคาลิปตัส เปปเปอร์มินต์ กลิ่นหอมสดชื่น ช่วยฆ่าเชื้อโรค เสริมพลังให้จมูกโล่งโปร่ง

  • เมนทอลและไทมอล สารวิเศษในน้ำมันหอมระเหยเหล่านั้น ฤทธิ์เด็ด ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกได้จริงๆ

จำได้ไหม ฤดูฝนปีนี้ ฉันป่วยหนัก น้ำมูกไหลไม่หยุด จนต้องใช้วิธีนี้ หายเป็นปลิดทิ้ง ดีกว่ากินยาเยอะเลย

ฤดูหนาวปีนี้ ฉันจะเตรียมตัวให้พร้อม ขวดน้ำมันหอมระเหย และหม้อต้มน้ำร้อน เพื่อนคู่ใจในวันที่จมูกอักเสบ

รู้สึกได้ถึงความโล่งสบาย… เหมือนได้ปลดปล่อย จมูกหายใจได้สะดวกขึ้น โลกสดใสขึ้นอีกครั้ง

กินอะไรช่วยลดน้ำมูกได้

เฮ้อ… กลางดึกแบบนี้ คำถามก็ยากเหมือนกันนะ… เรื่องลดน้ำมูกเหรอ

จริงๆ แล้ว ที่บ้านกินอะไรตอนไม่สบายเหรอ… อืม…

  • ฟักทอง: แม่ชอบทำซุปฟักทองให้กินตอนเป็นหวัด มันหวานๆ กินง่ายดี
  • ขิง: ชงน้ำขิงร้อนๆ ซดแล้วโล่งคอเลย เผ็ดๆ ร้อนๆ ดี
  • น้ำผึ้ง: ผสมกับน้ำอุ่น หรือมะนาว มันช่วยให้ชุ่มคอ ลดอาการไอได้
  • หัวหอม: ไม่เคยกินหัวหอมเปล่าๆ แต่แม่ชอบใส่ในซุปไก่ มันก็ช่วยได้นะ
  • กระเทียม: กินกระเทียมสดๆ เลยคงไม่ไหว แต่ใส่ในอาหารก็โอเคอยู่
  • พริก: กินเผ็ดๆ แล้วน้ำมูกไหลจริง แต่ก็รู้สึกดีขึ้นนะ แบบว่ามันโล่ง
  • ชาคาโมมายล์: อันนี้ไม่ค่อยกิน แต่รู้ว่ามันช่วยให้ผ่อนคลาย
  • ชาพริกไทยดำผสมน้ำผึ้ง: ไม่เคยกินเลย แต่น่าจะเผ็ดร้อนดีนะ

นอกจากนี้ ที่บ้านก็ชอบทำซุปไก่ร้อนๆ ให้กินด้วยนะ ใส่ผักเยอะๆ มันก็ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น สบายตัวขึ้นเยอะเลย

เมื่อกี้ลองเสิร์ชดู เค้าบอกว่าวิตามินซีก็สำคัญนะ พวกผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันได้ดี

สุดท้ายแล้วก็พักผ่อนเยอะๆ ดื่มน้ำมากๆ มันก็ช่วยได้เยอะเลยแหละ

ปล. นี่แค่สิ่งที่บ้านเราทำตอนไม่สบายน่ะ ไม่รู้ว่ามันจะถูกต้องตามหลักการแพทย์รึเปล่านะ แต่กินแล้วรู้สึกดีขึ้นก็โอเคแล้วมั้ง… เฮ้อ… ง่วงแล้วสิ

จมูกตันกินอะไรดี

เอ้อ! จมูกตันน่ะเหรอ? กินอะไรดีให้มันโล่ง? นี่เลย สูตรเด็ดเคล็ดลับยายทองคำ (ชื่อยายนะ ไม่ใช่ทองคำแท่ง):

  • ซุปไก่ร้อนๆ: ไม่ใช่ซุปไก่กระป๋องนะเว้ย ต้องซุปไก่บ้าน ต้มเองกับมือ ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ซดเข้าไป รับรองโล่งถึงทรวงใน ยิ่งตอนเป็นหวัดนะ ซุปไก่นี่แหละยาดีกว่าหมออีก!
  • ชาร้อน: ชาอะไรก็ได้ที่มันร้อนๆ จะชาเขียว ชาแดง ชาอู่หลง ชามะนาว (แต่ชามะนาวอาจจะแสบคอหน่อยนะ) จิบไป ค่อยๆ สูดไอระเหยเข้าไป โล่งจมูกแน่นอน!
  • น้ำขิง: อันนี้ของจริง! ขิงแก่ๆ ทุบๆ ต้มน้ำ ใส่น้ำตาลนิดหน่อย ซดเข้าไปทีเดียว เหงื่อแตกพลั่กๆ จมูกโล่งเหมือนมีคนมาเปิดทางให้!

ทำไมมันถึงช่วย?

  • ความร้อน: ไอความร้อนจากอาหารและเครื่องดื่มร้อนๆ นี่แหละตัวดี มันช่วยให้เยื่อบุในจมูกที่บวมๆ มันหดตัวลง ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น
  • สมุนไพร: พวกข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ขิง มันมีสรรพคุณทางยา ช่วยลดการอักเสบ และฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยนะเออ!

แถมอีกนิด:

  • ถ้าจมูกตันมากๆ ลอง “สูดดมไอน้ำ” ดูดิ ต้มน้ำร้อนๆ แล้วเอาหน้าไปอังเหนือหม้อ สูดหายใจลึกๆ รับรองน้ำมูกไหลเป็นทาง!
  • ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ: อันนี้ก็ช่วยได้เยอะ ซื้อน้ำเกลือล้างจมูกมาล้างทุกวัน ช่วยกำจัดพวกฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่อยู่ในจมูกได้
  • กินอาหารรสจัด: พวกต้มยำ ผัดกระเพรา เผ็ดๆ ร้อนๆ ซดเข้าไปเหงื่อท่วมตัว จมูกก็โล่งขึ้นมาเองแหละ!

คำเตือน: ถ้าจมูกตันนานเกิน 2 อาทิตย์ ไปหาหมอเถอะ อย่ามัวแต่กินซุปไก่! อาจจะมีอะไรมากกว่านั้นก็ได้!

ดมอะไรลดน้ำมูก

ยาดมส่วนใหญ่ใช้สารให้ความรู้สึกเย็น เช่น เมนทอล หรือน้ำมันหอมระเหย เช่น เปปเปอร์มินต์และยูคาลิปตัส (ข้อมูล ณ ปี 2024)

  • ฤทธิ์เย็นกระตุ้นการรับรู้ ทำให้รู้สึกโล่ง
  • กลิ่นช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการ
  • ไม่ใช่ยาแก้หวัด เพียงบรรเทาอาการชั่วคราว

ประโยชน์แค่ชั่วคราว อย่าพึ่งพิง หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์

ส่วนตัวผมใช้ยาดมเฉพาะเวลาอากาศเปลี่ยนแปลง ฤทธิ์เย็นช่วยได้จริง แต่ก็แค่นั้น

#ยาแก้หวัด