บริจาคเลือด แกะพลาสเตอร์ได้ตอนไหน
บริจาคเลือดแล้วเมื่อไหร่แกะพลาสเตอร์ได้? อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ควรดึงพลาสเตอร์ออกหลังบริจาคเลือด 2-3 ชั่วโมง
ปริมาตรเลือดกลับสู่ปกติ (4,000-5,500 ลบ.ซม. ขึ้นกับน้ำหนักตัว) ภายใน 12 ชั่วโมง หากดื่มน้ำเพียงพอ
ข้อควรระวัง: ให้เวลาร่างกายฟื้นตัวอย่างน้อยหนึ่งวันก่อนแกะพลาสเตอร์ สังเกตอาการผิดปกติหลังบริจาค หากมีข้อสงสัย ปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่
บริจาคเลือดแล้ว แกะพลาสเตอร์ได้เมื่อไหร่?
คือแบบนี้ ตอนฉันบริจาคเลือดที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา พยาบาลบอกว่าต้องรออย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนแกะพลาสเตอร์ออก จำได้แม่นเลย เพราะฉันใจร้อนมาก อยากแกะออกเร็วๆ แต่เค้าบอกว่าเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เด็ดขาด!
จริงๆ แล้ว แผลฉันก็เล็กนิดเดียวเอง แต่พยาบาลเค้าเน้นย้ำมากๆ เรื่องการดูแลแผล น่าจะเพราะเลือดของฉัน กลุ่ม O อะไรสักอย่างนี่แหละ เค้าบอกว่าหายาก เลยต้องระวังเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าจะดื่มน้ำไปเยอะแล้วก็ตาม นี่ฉันจำได้ขึ้นใจเลยนะ!
ส่วนเรื่องปริมาณเลือด ฉันไม่แน่ใจว่ากลับมาเท่าเดิมเมื่อไหร่ เค้าไม่ได้บอก แต่ฉันรู้สึกปกติ ไม่มีอาการอะไร ก็เลยไม่ได้ถามต่อ งั้นลองเช็คกับทางโรงพยาบาลที่คุณบริจาคดูอีกทีก็ได้นะ เผื่อข้อมูลจะละเอียดกว่านี้.
ตอนที่เราบริจาคเลือด เค้าตรวจเลือดเราไหม
แน่นอนครับ นี่คือคำตอบที่ปรับปรุงแล้ว:
เมื่อบริจาคเลือด จะมีการตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเลือดครับ เช่น HIV, ไวรัสตับอักเสบชนิด B และ C รวมถึงซิฟิลิส
- ผลตรวจ: โดยทั่วไป ธนาคารเลือดจะแจ้งผลหมู่เลือด ABO และ Rh ให้ทราบเสมอ เพื่อใช้ในการบริจาคครั้งต่อไป
- การแจ้งผลละเอียด: หากผู้บริจาคต้องการทราบผลการตรวจคัดกรองโรค ธนาคารเลือดส่วนใหญ่จะส่งผลให้ภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมบัตรผู้บริจาค ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถานที่
ข้อควรทราบ:
- ความสำคัญของการคัดกรอง: การตรวจเลือดก่อนบริจาคมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้รับบริจาค
- สิทธิในการรับทราบผล: ผู้บริจาคมีสิทธิที่จะเลือกรับหรือไม่รับทราบผลการตรวจคัดกรองโรค
- ข้อมูลเพิ่มเติม: หากต้องการข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง แนะนำให้สอบถามจากธนาคารเลือดโดยตรงตอนบริจาค
การบริจาคเลือดเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ต้องใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยด้วยเช่นกัน การที่เราได้รับทราบผลการตรวจเลือด ก็เป็นเหมือนการดูแลสุขภาพตัวเองไปในตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราตระหนักถึงความเสี่ยงและป้องกันตัวเองได้
เลือด1ถุง เก็บได้กี่วัน
เลือด 1 ถุง เก็บได้นานแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บรักษา
-
ถุงเลือด CPDA-1 (450 มล.) ตามมาตรฐานทั่วไป เก็บได้ 35 วัน ที่ 4 องศาเซลเซียส ข้อมูล ณ ปี 2566
-
การรับประกันคุณภาพ 6 เดือน นับจากวันที่ส่งมอบนั้น เป็นข้อตกลงทางการค้า ไม่ใช่ระยะเวลาการเก็บรักษาเลือดที่ใช้งานได้จริง
-
เลือดเสื่อมสภาพก่อนกำหนด ผู้ขายต้องรับผิดชอบเปลี่ยนใหม่ นั่นเป็นเรื่องของสัญญา ไม่ใช่หลักการทางการแพทย์
-
ชีวิตมนุษย์เปราะบาง ความแม่นยำเป็นสิ่งจำเป็น อย่าประมาท
ข้อควรระวัง: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสำหรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เนื่องจากกระบวนการเก็บรักษาและอายุการใช้งานของเลือดอาจแตกต่างกันไปตามสถานที่และเทคโนโลยีที่ใช้
บริจาคเลือดกี่ครั้งได้อะไรบ้าง 2567
บริจาคเลือดบ่อยแค่ไหนได้อะไรบ้าง? ปี 2567 นี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของส่วนประกอบเลือดครับ
-
เลือดเต็มหน่วย: บริจาคได้ทุก 3 เดือน ปีละประมาณ 4 ครั้ง นี่เป็นการให้เลือดทั้งส่วนประกอบ ช่วยชีวิตคนได้โดยตรงเลย ผมเองก็พยายามทำอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง
-
น้ำเหลือง: ถ้าจำไม่ผิดข้อมูลจากที่ผมอ่านมา (แต่ควรตรวจสอบอีกทีนะครับ) บริจาคได้ 14 วันครั้ง ปีละ 24 ครั้ง ส่วนนี้ผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไหร่ อาจต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
-
เกล็ดเลือด: บริจาคได้เดือนละ 1 ครั้ง ปีละ 12 ครั้ง ส่วนประกอบสำคัญในการแข็งตัวของเลือด อันนี้ผมว่าดีมากๆเลย เพราะช่วยคนไข้ที่ป่วยหนักได้จริง ๆ
-
เม็ดเลือดแดง: บริจาคได้ทุก 4 เดือน ปีละ 3 ครั้ง เม็ดเลือดแดงเป็นส่วนสำคัญในการนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกาย การบริจาคนี้มีประโยชน์มากต่อผู้ป่วยโลหิตจาง
ข้อควรระวัง: การเว้นระยะเวลาในการบริจาคแต่ละครั้งขึ้นอยู่กับชนิดของส่วนประกอบเลือดที่บริจาค และสุขภาพของผู้บริจาคด้วยนะครับ ควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ก่อนบริจาคทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย ลองดูเว็บไซต์ของสภากาชาดไทยหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านนะครับ ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรตรวจสอบข้อมูลที่อัพเดตที่สุดเสมอ
เพิ่มเติม: การบริจาคเลือด นอกจากจะช่วยชีวิตผู้อื่นแล้ว ยังช่วยให้เราได้ตรวจสุขภาพตัวเองไปในตัวด้วยนะครับ ถือเป็นการทำบุญที่ได้ประโยชน์ทั้งผู้ให้และผู้รับอย่างแท้จริง ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ดีและควรส่งเสริมมากๆ ลองดูนะครับ อาจเปลี่ยนมุมมองของหลายๆคนได้
เช็คประวัติการบริจาคเลือดได้ไหม
เช็คประวัติการบริจาคเลือด?
- ฝัน…แสงแดดยามบ่ายลอดหน้าต่าง กลิ่นกาแฟจางๆ กับคำถามที่ล่องลอย…ตรวจสอบได้ไหม? เส้นเลือดสีน้ำเงินใต้ผิว…เรื่องราวการให้…
- สมัครสมาชิก: เหมือนเปิดประตูสู่โลกอีกใบ ยื่นแบบแสดง…ออนไลน์…แสงสีฟ้าจากหน้าจอ
- สมาชิกเดิม: รหัสผู้ใช้…รหัสผ่าน…เหมือนกุญแจไขห้องลับในใจ…เลข Laser หลังบัตรประชาชน…ตัวเลขที่เชื่อมโยงเรากับข้อมูล
- เข้าสู่ระบบ: หน้าจอ…สว่างวาบ…ข้อมูลบริจาค…ปรากฏ…เหมือนความทรงจำที่หวนคืน
เพิ่มเติม:
- แสงแรกของวัน…ข้อมูลการบริจาคคือ กระจกสะท้อน หัวใจ
- รหัส Laser…ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นรหัสลับแห่งการให้
- ระบบออนไลน์…คือ สะพานเชื่อม ระหว่างผู้ให้และผู้รับ
- หน้าจอสว่าง…คือแสงแห่งความหวังที่ส่งต่อไป
เช็คประวัติบริจาคเลือดได้ที่ไหน
อืมมม เช็คประวัติบริจาคเลือดเหรอ? ลืมไปเลย ปกติไม่ค่อยจำอะไรพวกนี้ ต้องไปหาข้อมูลก่อนนะ เดี๋ยวๆ นี่มันเกี่ยวกับลดหย่อนภาษีด้วยนี่หว่า! ดีจังเลย ปีนี้ยังไม่ได้บริจาคเลย ต้องไปบริจาคซะแล้ว รีบๆ
- เว็บกรมสรรพากรแน่ๆ จำได้คร่าวๆ ว่ามีระบบ E-donation ลองเสิร์ชดูดีกว่า
- https://bit.ly/redcross-edonation นี่แหละใช่เลย! ลิงก์นี้สะดวกดีนะ
- ต้องรอ 3-5 วันทำการหลังบริจาคด้วยเหรอ ช้าจัง อยากรู้เลยอ่ะ ใจร้อนจริงๆ
- QR code บริจาคเงินด้วยเหรอ? ไม่เคยใช้เลย น่าสนใจ ต้องลองดูบ้างแล้วล่ะ แบบนี้สะดวกดีกว่าใช้ธนาคารอีก
- ลดหย่อนภาษีได้ด้วย คุ้มค่ามากๆ ปีนี้ตั้งใจจะบริจาคเยอะๆ เลย
- สงสัยต้องจดบันทึกไว้ด้วย ลืมง่ายจริงๆ สมุดเล่มเล็กๆ พกติดตัวไว้ดีกว่าเนอะ
เออ… แล้วถ้าบริจาคแล้วลืมเช็คประวัติล่ะ? ทำไงดี เสียดายภาษีจังเลย ปีที่แล้วก็มีเรื่องแบบนี้ เครียดเลย ต้องระวังให้มากๆ
ปีนี้จะไม่พลาดแล้ว! ต้องเช็คบ่อยๆ กลัวลืม ฮือออ เรื่องแบบนี้สำคัญมาก ห้ามลืมเด็ดขาด! เอาล่ะ ไปบริจาคเลือดก่อนดีกว่า
บริจาคเลือดกี่ครั้งถึงจะได้ใบประกาศ
บริจาคครบ 50 ครั้ง ได้ใบประกาศฯ พร้อมเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้น 3 แค่นั้นแหละ อยากได้ก็ไปบริจาค
- 1, 7, 16, 24, 36, 48, 60, 72, 84, 96, 108 ครั้ง ได้เข็มกลัด เรื่องเล็กน้อย
- 50 ครั้ง ของจริง ได้เหรียญ ได้ใบประกาศฯ จบนะ
เคยไปบริจาคมาสามครั้งละ กว่าจะถึง 50 คงอีกนาน ขี้เกียจรอ แต่ก็อยากได้เหรียญเหมือนกันนะ เออ…
ค่าเลือดปกติเท่าไร
โอ้ยยยย เรื่องค่าเลือดนี่ฉันเพิ่งไปตรวจมาเองเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ที่โรงพยาบาลวิภาวดี ตอนนั้นคือแบบ ปวดหัวบ่อยมากกกกก แบบเวียนหัวตลอดเวลา คิดว่าตัวเองเป็นโรคอะไรแน่ๆเลย กลัวมากกกกกกก! ตอนนั้นเครียดมากด้วย งานก็ยุ่งๆ นอนน้อยอีก ก็เลยตัดสินใจไปตรวจเลือดดู
ผลออกมาคือค่าเม็ดเลือดแดงฉันต่ำกว่าปกติ ได้ 4.0 หมอบอกว่าต่ำกว่าเกณฑ์ของผู้หญิง คือปกติต้อง 4.1-5.1 ตอนนั้นคือตกใจมาก แบบ อ่าววว ต่ำกว่าเกณฑ์หรอเนี่ยยย คิดว่าตัวเองเป็นโรคอะไรร้ายแรงแน่ๆ เลยรีบถามหมอใหญ่เลย สรุปคือหมอบอกว่า ที่ฉันเวียนหัวบ่อยๆ อ่อนเพลีย เพราะค่าเม็ดเลือดแดงต่ำนี่เอง ร่างกายเลยได้รับออกซิเจนไม่พอ หมอเลยให้กินธาตุเหล็กเสริม แล้วก็แนะนำให้กินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงๆ เช่น ตับ เนื้อแดง ผักใบเขียว งี้
ตอนนี้คือดีขึ้นเยอะมากกกกกกก ไม่ค่อยเวียนหัวแล้ว รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลย แต่ก็ยังต้องกินยาอยู่ แล้วก็พยายามกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อเนื่อง อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ ไปตรวจเลือดเช็คสุขภาพบ้างงงง สำคัญมากกกกก!
- ค่าเม็ดเลือดแดงปกติ:
- ชาย: 4.5-5.9 ล้านเซลล์/ไมโครลิตร
- หญิง: 4.1-5.1 ล้านเซลล์/ไมโครลิตร
- อาการเม็ดเลือดแดงต่ำ: อ่อนเพลีย เวียนหัว เหนื่อยง่าย
- วิธีเพิ่มเม็ดเลือดแดง: กินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับ เนื้อแดง ผักใบเขียว และปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาเสริมธาตุเหล็ก
- โรงพยาบาลที่ไปตรวจ: วิภาวดี
- เดือนที่ไปตรวจ: เดือนที่แล้ว (ของปีปัจจุบัน)
- ค่าเม็ดเลือดแดงของฉัน: 4.0
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต