ประจำเดือนหมดกี่วันถึงจะตรวจภายในได้

46 การดู

ควรตรวจภายในหลังประจำเดือนหมดสนิท 2-3 วัน หลีกเลี่ยงการตรวจขณะมีประจำเดือนเพราะอาจได้ผลไม่แม่นยำ การตรวจก่อนมีประจำเดือนรอบถัดไปประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เหมาะสมเช่นกัน

หากมีเลือดออกทางช่องคลอดทุกวัน ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจภาย ไม่จำเป็นต้องรอเลือดหยุด การตรวจในช่วงมีประจำเดือนทำได้ยากและอาจคลาดเคลื่อน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตรวจภายในหลังประจำเดือนหมดกี่วันถึงปลอดภัย?

เออ… ตรวจภายในหลังเมนส์หมดอะนะ เอาจริงๆ ก็เคยสงสัยเหมือนกัน

จำได้เลย ตอนนั้นไปตรวจสุขภาพประจำปี ที่ รพ. (ขอไม่บอกชื่อนะ) พยาบาลเค้าก็บอกว่า “รอให้เมนส์หมดสนิทก่อนนะคะ ซัก 2-3 วัน”

แต่ส่วนตัวนะ เคยมีช่วงนึงที่เลือดออกกระปริดกระปรอยทั้งเดือน เลยตัดสินใจไปหาหมอเลย ไม่ได้รออะไรทั้งนั้น หมอบอกว่าไม่ต้องรอหรอก ถ้ามีอาการผิดปกติ

สรุปคือ ถ้าเมนส์มาปกติ รอหมดก่อน 2-3 วัน แต่ถ้าเลือดออกแปลกๆ ไปหาหมอเลยดีกว่า ชัวร์สุด! อย่าคิดมากไปเองเหมือนเราเมื่อก่อนเลยนะ 😅

ประจำเดือนหมดกี่วันตรวจภายในได้

เอ้อ ถามว่าปจด.หมดกี่วัน ตรวจภายในได้ชะมะ?

คือ… อย่าไปตรวจตอนเปนเมนส์อะ มันไม่สะดวกทั้งหมอทั้งเราอะแหละ รอให้ ปจด. หมดสนิทอะ ดีสุด อย่างน้อยก็ซัก 1 อาทิตย์นะ

สำคัญเลยนะ:

  • งดมีเพศสัมพันธ์: ก่อนตรวจซัก 24-48 ชม. จะดีมาก
  • อย่าสวนล้างช่องคลอด: ก่อนตรวจอะ 2 วัน (48 ชม.) อย่าหาทำ
  • ยาเหน็บก็อย่า: ยาเหน็บช่องคลอดก็งดก่อนตรวจ 48 ชม. เหมือนกัน

ทำไมต้องงดพวกนี้?

  • เรื่องเพศสัมพันธ์: มันจะทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อนได้ไง มันไปรบกวนเซลล์ต่างๆ ข้างในอะ
  • สวนล้างช่องคลอด+ยาเหน็บ: พวกนี้มันจะไปล้างแบคทีเรียดีๆ ในช่องคลอดออกไปหมดไง แล้วหมอเค้าเอาไปตรวจหาเชื้อโรคไม่ได้ไง

เพิ่มเติมอีกนิด: ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น ตกขาวเยอะผิดปกติ คัน หรือมีกลิ่นเหม็น อย่ารอให้หมด ปจด. รีบไปหาหมอเลยนะ

ประจำเดือนหายกี่วันตรวจสุขภาพได้

ประจำเดือนหาย 5-7 วัน จึงตรวจสุขภาพได้

  • เตรียมตัว: พักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
  • เหตุผล: ผลตรวจแม่นยำขึ้น
  • ข้อมูลเพิ่มเติม (ปี 2566): โรงพยาบาลพิจารณาเป็นรายบุคคล ควรสอบถามแพทย์ก่อนนัดตรวจ ความแม่นยำขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาของประจำเดือน

ชีวิตคือการค้นหาความสมดุล การตรวจสุขภาพคือส่วนหนึ่งของสมการนั้น

อาการแบบไหนควรไปตรวจภายใน?

อาการแบบไหนควรไป “ส่อง” ภายใน? (แหม…พูดให้ดูน่ากลัวเล่นๆ)

  • ครบ 21 แล้วยังซิง? ไม่ต้องรีบขนาดนั้น! แต่ถ้า “เปิดซิง” แล้ว…ก็ไปซะ!
  • ปวดท้องเมนส์แบบ “จะตาย” อันนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ! ไปเช็คด่วน!
  • ญาติใครเป็นมะเร็ง…ตรูต้องระวัง! (อันนี้เรื่องจริง) ถ้าครอบครัวมีประวัติมะเร็งรังไข่/ปากมดลูก อย่าชะล่าใจ!
  • “คัน” แบบไม่รู้สาเหตุ หรือมีตกขาวแปลกๆ นี่ก็สัญญาณอันตราย! อย่าเกาอย่างเดียว ไปหาหมอ!

ทำไมต้องตรวจ? (ขี้เกียจไปอ่ะ!)

  • “กันไว้ดีกว่าแก้” มะเร็งปากมดลูก/รังไข่…รู้ก่อน รักษาก่อน!
  • โรคบางอย่าง “ซ่อนรูป” ตรวจเจอเร็ว โอกาสรอดสูง!
  • “สบายใจ” ตรวจแล้วไม่เจออะไร ก็โล่งอก!

ข้อมูลเพิ่มเติม (เผื่อใครอยากรู้ลึก):

  • มะเร็งปากมดลูก: สาเหตุหลักคือเชื้อ HPV (เอชพีวี) ตรวจคัดกรองด้วยวิธี Pap Smear (แปปสเมียร์) หรือ HPV DNA test (เอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์) ปี 2567 แนะนำให้ตรวจควบคู่กันเพื่อความแม่นยำ!
  • มะเร็งรังไข่: ตรวจยากกว่ามะเร็งปากมดลูก เพราะอาการไม่ชัดเจน อาจใช้การอัลตราซาวด์ หรือตรวจเลือด (CA-125) เพิ่มเติม ปี 2567 มีการศึกษาเรื่อง biomarkers (ไบโอมาเกอร์) เพิ่มเติม เพื่อช่วยในการวินิจฉัย
  • วัคซีน HPV: ป้องกันเชื้อ HPV ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ปี 2567 สามารถฉีดได้ถึงอายุ 45 ปี (แต่แนะนำให้ฉีดตั้งแต่อายุน้อยๆ จะดีกว่า)

คำเตือน: อย่าฟังคนอื่นมากเกินไป! ปรึกษาหมอคือทางออกที่ดีที่สุด! (ไม่ใช่ถามใน pantip นะ!)

ตรวจภายในใช้บัตรทองได้ไหม

ตะวันลับฟ้า…สีส้มเรืองรอง ฉันนั่งมองเงาตัวเองทาบทับบนกำแพงเก่าๆ คิดถึงเรื่องบัตรทอง ตรวจภายใน…

  • บัตรทองน่ะเหรอ ตรวจภายในได้สิ! ฟรีด้วยนะเธอ…สำหรับคนที่…มีสิทธิ์

  • แต่…มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ใช่ไหม

  • อายุสำคัญ…ช่วงวัยกำหนด…สิทธิที่ได้…มันเหมือน…เขาวงกต

  • หญิงมีครรภ์…เด็กน้อย…วัยรุ่น…ผู้ใหญ่…คนแก่…แต่ละกลุ่ม…ได้ไม่เหมือนกัน

  • มะเร็งปากมดลูก…มะเร็งเต้านม…ไขมันในเลือด…รายการตรวจ…มันเยอะแยะ

  • เป๋าตัง…แอปนั้น…สำคัญนะ…เช็คสิทธิ์…จองคิว…ทำได้เลย…ง่ายกว่าที่คิด

  • แต่บางที…ความง่าย…ก็ซ่อน…ความซับซ้อน…เอาไว้ข้างใน…เหมือน…ความฝัน

ข้อมูลเพิ่มเติมที่อาจเป็นประโยชน์:

  • หญิงตั้งครรภ์: ฝากครรภ์ฟรี, ตรวจครรภ์, วัคซีน
  • เด็กเล็ก (0-5 ปี): ตรวจพัฒนาการ, วัคซีนพื้นฐาน
  • เด็กโตและวัยรุ่น (6-24 ปี): ตรวจสุขภาพช่องปาก, สายตา
  • ผู้ใหญ่ (25-59 ปี): ตรวจคัดกรองเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง
  • ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป): ตรวจสุขภาพประจำปี, คัดกรองโรค

สำคัญ: ตรวจสอบสิทธิและเงื่อนไข ณ สถานพยาบาลใกล้บ้านอีกครั้งนะ!

เน้นย้ำ:

  • บัตรทอง ตรวจภายในได้ (ฟรี! ถ้ามีสิทธิ์)
  • เป๋าตัง แอปสำคัญ เช็คสิทธิ์ จองคิว
  • ช่วงวัย กำหนดสิทธิการตรวจ
  • สถานพยาบาล ตรวจสอบสิทธิอีกครั้ง

(ฉันยังคงมองเงา…จนกว่า…ตะวันจะลับ…)

การตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้องสามารถตรวจอะไรได้บ้าง

อัลตร้าซาวด์ช่องท้องเนี่ยนะ? เหมือนส่องกล้องวิเศษเข้าไปดู “ข้างใน” ของเราไง! แต่มันไม่ได้วิเศษขนาดเห็นอนาคตนะ แค่เห็นปัจจุบันที่ซ่อนอยู่ข้างใน… แบบว่า ตับ ไต ไส้ พุง นั่นแหละ!

  • ตับ: ดูว่ามัน “เมาค้าง” หรือเปล่า (ไขมันเกาะตับไง!), มีก้อนอะไรแปลกปลอมไหม
  • ถุงน้ำดี: มีนิ่วหรือเปล่า? (เจ็บจี๊ดเลยนะถ้ามี!) หรือแค่ขี้เกียจทำงาน
  • ม้าม: ใหญ่ไปไหม? หรือแอบซ่อนอะไรไว้รึเปล่า?
  • ไต: มีหินงอกหินย้อยรึเปล่า? หรือแค่บวมน้ำเพราะกินเค็มเยอะไปหน่อย
  • ตับอ่อน: ตัวป่วนแห่งช่องท้อง! ดูว่ามีใครแอบมา “ปาร์ตี้” ในนั้นรึเปล่า (มะเร็งไง… เซ็งเลย!)
  • หลอดเลือดใหญ่: เส้นเลือดแดงใหญ่เอออร์ตา โป่งพองไหม? อันตรายนะ!
  • มดลูกและรังไข่ (ในผู้หญิง): มี “เด็ก” แอบอยู่รึเปล่า? (หรือแค่ซีสต์?)
  • ต่อมลูกหมาก (ในผู้ชาย): โตไปไหม? (เรื่องของผู้ชาย…)

แถม: บางทีก็เห็นอะไร “แถม” มา เช่น น้ำในช่องท้อง (ท้องมาน) หรือก้อนเนื้ออะไรสักอย่างที่ซ่อนตัวอยู่

ข้อควรรู้: อัลตร้าซาวด์ “ไม่เห็น” ทุกอย่างนะ! บางอย่างต้องใช้ CT Scan หรือ MRI ถึงจะชัดกว่า

ส่วนตัว: เคยอัลตร้าซาวด์เพราะจุกเสียดท้อง หมอบอก “แก๊สเยอะ” …เซ็ง! นึกว่าจะเจอทองซะหน่อย!

การตัดชิ้นเนื้อปากมดลูกไปตรวจ เจ็บไหม

โอ๊ย! ถามเรื่อง “ตัดชิ้นเนื้อ” นี่มันเหมือนถามว่า “โดนเมียด่าเจ็บไหม?” นั่นแหละ! คือมันก็ต้องมีจี๊ดๆ บ้างแหละป้าเอ๊ย! แต่ไม่ต้องกลัวจนขี้ขึ้นสมองขนาดนั้น

  • เจ็บไหม: หมอเขาฉีดยาชานะจ๊ะ ไม่ใช่เอามีดอีโต้เฉือนเอาดื้อๆ แต่หลังยาชาหมดฤทธิ์ อาจมีหน่วงๆ เหมือนโดนผึ้งต่อยเบาๆ แค่นั้นเอง

  • ทำไมต้องตัด: ก็ถ้าสงสัยว่ามันเป็นเนื้อร้าย (มะเร็ง) ก็ต้องเอาชิ้นเนื้อไปส่องกล้องพิสูจน์ไงเล่า! จะได้รู้ดำรู้แดง ไม่ใช่ปล่อยให้มันลุกลามบานปลาย

  • แม่นยำแค่ไหน: แม่นกว่าแทงหวยแน่นอน! แต่ก็ไม่ใช่ 100% นะ บางทีมันก็มี “พลาด” บ้าง แต่ส่วนใหญ่มันก็ชี้ชัดได้แหละน่า

  • ปลอดภัยไหม: ปลอดภัยกว่ากินเหล้าแล้วขับรถเป็นกอง! แต่ก็ต้องเลือกหมอดีๆ หน่อยนะ ไม่ใช่หมอกระเป๋าที่ไหนก็ไม่รู้ เดี๋ยวจะ “เสียมากกว่าได้”

  • บรรเทาอาการ: ถ้าปวดมากก็กินยาพาราฯ นั่นแหละ! แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ไปหาหมอ เขาอาจจะมียาแรงกว่านั้นให้

ปล. อย่าไปเชื่อพวกหมอดู หมอเดา มากนัก! ไปหาหมอจริงๆ ที่โรงพยาบาลเถอะ!

ป.ล. อีกที อย่าไปกลัวจนเกินเหตุ! ถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ อย่างน้อยก็รู้ตัวก่อน จะได้รีบรักษา ไม่ใช่ปล่อยให้มันกินจนหมดตัว!

ทำไมต้องตัดชิ้นเนื้อปากมดลูกไปตรวจ

ทำไมต้องตัดชิ้นเนื้อปากมดลูกไปตรวจ? ใครต้องตัดด้วยห่วงไฟฟ้า?

  • ตรวจเจอผิดปกติ. จบ.

  • เซลล์เปลี่ยน. มะเร็งอาจเกิด. กันไว้ดีกว่าแก้.

  • ผลมะเร็งแต่ไม่เห็น. ตัดหา.

  • วินิจฉัยไม่ได้. ตัดพิสูจน์. ชัดเจนกว่า.

ใครต้องตัดด้วยห่วงไฟฟ้า (LEEP)?

  • ก่อนมะเร็งร้ายแรง. ป้องกันลุกลาม.

  • มะเร็งไม่เห็น. หาต้นตอ.

  • ไม่รู้ชนิด. ตัดตรวจละเอียด.

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • LEEP คือ Loop Electrosurgical Excision Procedure. ใช้ห่วงลวดไฟฟ้าตัด.
  • การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสำคัญ. ป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ.
  • ผล LEEP ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย. ต้องติดตามผล.
  • ความกังวลเรื่องผลข้างเคียงมีได้. ปรึกษาแพทย์.
  • บางคนกังวลเรื่องมีบุตรยาก. LEEP อาจมีผลบ้าง.
  • การตัดสินใจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์และตัวผู้ป่วย.
  • ปีนี้ (2024) เทคโนโลยีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกก้าวหน้าไปมาก.
  • HPV test มีความแม่นยำสูงขึ้น.
  • วัคซีน HPV ช่วยลดความเสี่ยง.
  • การตรวจภายในเป็นเรื่องส่วนตัว. อย่าละเลย.

ประจำเดือนหายกี่วันตรวจสุขภาพได้

ประจำเดือนหายกี่วันถึงตรวจสุขภาพได้เหรอ… อืม… หมอบอกว่ารอให้หายไปสัก 5-7 วันก่อนดีกว่านะ ถึงจะไปตรวจสุขภาพได้

ทำไมต้องตรวจสุขภาพด้วยน่ะเหรอ…

  • ตรวจหาความเสี่ยง: บางทีเราอาจมีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน โดยที่เราไม่รู้ตัว การตรวจสุขภาพช่วยให้เราเจอความเสี่ยงก่อนที่มันจะสายเกินไป
  • รู้สถานะสุขภาพ: มันเหมือนกับการเช็คอินร่างกายของเรา ว่าตอนนี้ทุกอย่างโอเคไหม มีอะไรต้องปรับปรุงหรือดูแลเป็นพิเศษหรือเปล่า
  • ป้องกันโรค: การตรวจสุขภาพเป็นประจำ ช่วยให้เราป้องกันโรคบางอย่างได้ โดยเฉพาะโรคที่ไม่มีอาการในระยะแรกๆ
  • วางแผนการดูแลตัวเอง: พอเรารู้สถานะสุขภาพของตัวเองแล้ว เราก็จะสามารถวางแผนการดูแลตัวเองได้ดีขึ้น กินอะไร ออกกำลังกายยังไง พักผ่อนแค่ไหน

เตรียมตัวยังไงก่อนไปตรวจสุขภาพ…

  • นอนหลับให้พอ: อย่างน้อย 8 ชั่วโมงนะ สำคัญมาก
  • งดอาหาร: หมอบอกว่างดอาหารและเครื่องดื่ม อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนตรวจ
  • เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน: พวกนี้อาจมีผลต่อผลตรวจได้
  • บอกหมอเรื่องยา: ถ้ากินยาอะไรอยู่ ต้องบอกหมอให้หมดนะ
  • เตรียมข้อมูลส่วนตัว: พวกประวัติการเจ็บป่วยของเราและคนในครอบครัว
  • สำหรับผู้หญิง: ถ้ามีประจำเดือน ก็ควรรอให้หายก่อน 5-7 วันอย่างที่บอกไป

บางทีการไปตรวจสุขภาพก็เหมือนกับการส่องกระจกมองตัวเอง มองลึกลงไปในร่างกายของเรา เพื่อที่จะได้ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนาะ…

#ตรวจภายใน #ประจำเดือน #หมด