ตรวจภายในเสียเงินไหม

18 การดู

ตรวจภายใน เสียเงินไหม?

  • ตรวจภายในมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลและโปรแกรม
  • สิทธิประกันสุขภาพ, ประกันสังคม, ข้าราชการ ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้
  • บางแห่งมีโปรโมชั่นตรวจสุขภาพรวมตรวจภายใน
  • สอบถามค่าใช้จ่ายก่อนรับบริการเพื่อวางแผนการเงิน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตรวจภายในบริษัทเสียค่าใช้จ่ายหรือไม่?

จริง ๆ แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายตรวจภายในนี่มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยนะ ตอนนั้นฉันไปตรวจที่ รพ.เอกชัย เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 66 จำได้ว่าแพงอยู่เหมือนกัน เกือบสองพันแน่ะ แต่ถ้ามีประกันสุขภาพอะไรช่วยเหลือบ้างก็อาจจะลดลงเยอะ เพื่อนฉันเคยไปตรวจที่คลินิกแถวบ้านมัน ราคาถูกกว่าครึ่งเลย ประมาณแปดร้อยกว่าบาทเอง มันบอกว่าที่นั่นมีโปรโมชั่นด้วย แต่ก็แล้วแต่ที่เลยเนอะ

ที่สำคัญคือควรโทรไปถามที่สถานพยาบาลที่เราจะไปตรวจก่อน อย่าลืมถามเรื่องประกันด้วยนะ บางทีอาจจะช่วยประหยัดได้เยอะเลย ไม่งั้นเดี๋ยวตกใจตอนจ่ายบิลเหมือนฉัน ตอนนั้นหน้าชาเลยค่ะ 😅 ไม่คิดว่าแพงขนาดนี้

ตรวจภายใน รพ.รัฐกี่บาท

ค่าตรวจภายในโรงพยาบาลรัฐปี 2566 เริ่มต้นที่หลักร้อยบาท โดยราคาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • ชนิดของการตรวจ: การตรวจภายในแบบพื้นฐานอาจมีราคาถูกกว่าการตรวจที่ครอบคลุมมากขึ้น หรือมีการใช้เทคโนโลยีพิเศษ เช่น การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ หรือการตรวจร่วมกับการตรวจอื่นๆ
  • สถานพยาบาล: โรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ในเมืองอาจมีราคาสูงกว่าโรงพยาบาลชุมชนเล็กๆ ในต่างจังหวัด นี่เป็นเรื่องปกติของระบบเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำมีอยู่จริงเสมอ
  • สิทธิการรักษาพยาบาล: ผู้ที่มีสิทธิการรักษาพยาบาลตามโครงการต่างๆ อาจเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าผู้ที่ไม่มีสิทธิ นี่คือความแตกต่างของระบบการดูแลสุขภาพ มันสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันในสังคม

โดยประมาณ ราคาอาจอยู่ที่ 300 บาทขึ้นไป แต่ควรติดต่อโรงพยาบาลที่ท่านต้องการเข้ารับการตรวจโดยตรง เพื่อสอบถามราคาที่แน่นอน เพราะราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในระบบธุรกิจ ไม่มีอะไรแน่นอน ชีวิตก็เช่นกัน

เพิ่มเติม: การตรวจภายในที่ครอบคลุมอาจรวมถึงการตรวจเชิงลึก ซึ่งอาจทำให้ราคาสูงขึ้น แต่ก็มีความคุ้มค่าในแง่ของการตรวจหาโรคได้เร็วขึ้น การตรวจสุขภาพเป็นการลงทุนที่ดี เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง

ตรวจภายในฟรีที่ไหนได้บ้าง

ตรวจภายในฟรี? อะโห…ของฟรีใครๆ ก็ชอบ! (ยกเว้นตอนโดนบังคับฟรีนะ)

  • โรงพยาบาลจุฬาภรณ์: ชั้น 9 อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาฯ เขาจัดให้! สตรีไทยทุกสิทธิการรักษา (ย้ำว่าทุกสิทธิ) จองคิวผ่านแอปเป๋าตังค์ได้เลย
  • HPV DNA Test: เช็คชัวร์มะเร็งปากมดลูก ฟรีไปอีกกก! อย่ารอให้สายเกินแก้ ชีวิตเรามีค่ากว่าค่ากาแฟวันละแก้วเยอะ!
  • แอปเป๋าตังค์: ใช่แล้ว! แอปสารพัดประโยชน์ จองที่ตรวจมะเร็งได้ด้วย…รัฐบาลคิดได้ไงเนี่ย?! (อันนี้ชมนะ)

เกร็ดความรู้แบบขำๆ แต่จริงจัง:

  • การตรวจภายใน ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด (ถึงแม้ขาจะสั่นนิดๆ ตอนขึ้นเตียงก็เถอะ!)
  • มะเร็งปากมดลูก ป้องกันได้! ตรวจเจอไว รักษาได้หายขาด…อย่าปล่อยให้ “มะเร็ง” มาเป็น “มารร้าย” ในชีวิตเรา
  • “เป๋าตังค์” ไม่ได้มีดีแค่ใช้จ่าย! ยังช่วยให้เราเข้าถึงสิทธิการรักษาฟรีได้อีก…ปรบมือให้ตัวเองที่โหลดแอปนี้ไว้! (ถึงแม้จะงงๆ กับ interface บ้างก็เถอะ!)
  • บางทีของฟรีก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะ! (โดยเฉพาะของฟรีที่ช่วยชีวิตเราได้เนี่ย!)

คำเตือน: อย่าเชื่อทุกอย่างที่เขียน! (เอ๊ะ…ยังไง?) ปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวเองนะจ๊ะ! ด้วยรักและเป็นห่วง…จากใจคนขี้เผือก!

อาการแบบไหนควรตรวจภายใน

อาการที่ควรตรวจภายใน:

  • ตกขาว: มาก สี กลิ่นเปลี่ยน นี่ไม่ใช่แค่เรื่องสะอาด
  • เลือด: นอกรอบเดือน คือสัญญาณเตือน
  • ปวด: ท้องน้อยเรื้อรัง ชีวิตไม่ใช่ละคร
  • แสบ: ช่องคลอด มันคือความผิดปกติ
  • ก้อน: คลำเจอ อย่าปล่อยไว้

ข้อมูลเสริม:

  • ตกขาวปกติ: ใส ขาวขุ่น ไม่มีกลิ่น
  • การตรวจภายใน: ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด มันคือการดูแล
  • ปวดท้องน้อย: อาจไม่ใช่แค่ปวดประจำเดือน
  • เลือดออกผิดปกติ: อาจมีสาเหตุอื่นร่วมด้วย ฮอร์โมน ความเครียด
  • ก้อนในท้องน้อย: บางทีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ต้องเช็ค
  • ความถี่: ตรวจภายในปีละครั้ง คือมาตรฐาน
  • การป้องกัน: สำคัญกว่าการรักษาเสมอ
  • อย่าอาย: สุขภาพสำคัญกว่าความเขินอาย

คำคม: “ความเงียบอาจไม่ใช่ทองคำเสมอไป บางครั้งมันคือความประมาท”

โรงพยาบาลราชวิถีตรวจภายในกี่บาท?

โรงพยาบาลราชวิถี ตรวจภายในกี่บาท?

โอ้โห ถามเรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัว! ที่ราชวิถีเค้าไม่ได้เหมาเป็นแพ็กเกจทัวร์สุขภาพนะจ๊ะ เค้าแยกรายการคิดเงินเหมือนกินข้าวตามสั่งเลย

  • ตรวจภายในทั่วไป (สาวๆ ที่เคยมีประสบการณ์แล้ว) จ่ายแค่ 150 บาท…ถูกกว่าค่ากาแฟอีกนะเนี่ย!
  • ตรวจมะเร็งปากมดลูก แบบ PAP SMEAR (สำหรับผู้มีประสบการณ์บนเตียง): 150 บาท เท่ากันเป๊ะ! คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
  • ตรวจมะเร็งเต้านม (Mammogram): อันนี้อัพราคามาหน่อย 1,700 บาท แต่เพื่อสุขภาพ…ยอมจ่ายไปเถอะ!

เพิ่มเติมแบบเม้าท์มอย:

  • อย่าลืมนะว่าราคานี้อาจมีเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น หรือค่าธรรมเนียมหยุมหยิมอื่นๆ โทรไปถามชัวร์สุด!
  • PAP SMEAR นี่สำคัญนะสาวๆ! อย่าคิดว่าตัวเองสวยแล้วจะไม่เป็นอะไร ตรวจไว้ก่อน…สบายใจกว่าเยอะ!
  • Mammogram นี่ก็เหมือนกัน อายุมากขึ้นความเสี่ยงก็เพิ่มตามตัวเลข ตรวจซะ! จะได้ไม่เสียใจทีหลัง
  • อย่าไปเชื่อหมอดู เชื่อหมอจริงๆ ดีกว่าเยอะะะะ!
  • ถ้ากลัวเจ็บ…บอกหมอเบาๆ มือหน่อยก็ได้นะ (แต่หมออาจจะขำในใจ!)

สรุป: ถูกและดีมีอยู่จริง! แต่เพื่อความชัวร์โทรเช็คราคาก่อนไปนะจ๊ะสาวๆ

คลินิกไหนรับประกันสังคมราชวิถี?

ราชวิถีเนี่ยนะ… ถ้าอยากใช้สิทธิประกันสังคมแบบสบายใจ ไม่ต้องปวดหัวกับการรอคิวนาน แนะนำให้ตรงดิ่งไปโรงพยาบาลราชวิถีเลยจ้ะ! เขาเปิดคลินิกนอกเวลาสำหรับคนมีประกันสังคมด้วยนะเออ

  • ราชวิถี: ที่นี่เขารักษาครอบคลุม โรคทั่วไปนี่สบายมาก ไม่ต้องคิดเยอะ
  • คลินิกนอกเวลา: เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ เลิกงานแล้วค่อยไป ไม่ต้องลางานให้เจ้านายบ่น

เอ้อ! อย่าลืมเช็คสิทธิก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวไปเก้อจะหาว่าไม่เตือน!

ไปโรงพยาบาลรัฐ ต้องไปกี่โมง?

อืม… ไปโรงพยาบาลรัฐเหรอ… คิดหนักเหมือนกันนะ ตอนนี้ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว… นอนไม่หลับเลย

ปกติ รพ. รัฐส่วนใหญ่จะรับบัตรถึง 11 โมงเช้า ใช่ไหม… ถ้าไม่ใช่คิวนัด คือจะไปตรวจทั่วไปเนี่ย คนน้อยมาก หลัง 11 โมง บางทีอาจจะไม่มีคิวแล้วก็ได้นะ

ถ้าไม่นัด ก็ต้องไปแต่เช้าๆ แต่ก็เหนื่อยนะ ต้องไปรอคิวตั้งแต่เช้าตรู่… ปีนี้ไป รพ.ศิริราชมา ไปถึง 7 โมง ยังได้คิวค่อนข้างท้ายเลย เหนื่อยมาก รอเป็นครึ่งวัน

  • รพ.รัฐส่วนใหญ่ งดรับบัตร 11.00 น.
  • คิวนัดปิด 11.00 น. แต่บางที่อาจจะยืดหยุ่นได้บ้าง
  • ถ้าไม่นัด ไปก่อน 11.00 น. แต่คนจะเยอะมาก
  • แนะนำไปถึงก่อน 7 โมงเช้า จะดีกว่าไหม ถ้าเป็นไปได้ ปีนี้ประสบการณ์ตรง เจ็บตัวมาก รอคิวนานมาก เกือบทั้งวัน

แบบนี้แหละนะ คิดไปก็ปวดหัว พรุ่งนี้ต้องไป ก็น่าจะตื่นแต่เช้าๆ ดีกว่า ไม่งั้นก็คงอดตรวจ… เฮ้อ… นอนไม่หลับเลยจริงๆ

ไปโรงพยาบาลตอนดึกได้ไหม?

ไปโรงพยาบาลตอนดึกได้สิครับ! ใครมันจะมาห้ามล่ะ? เว้นแต่คุณจะไปเยี่ยมผีนะ (ล้อเล่นนะครับ!) จริงจังเลยคือตามกฎหมาย โรงพยาบาลต้องมีหมอตลอด 24 ชั่วโมง คิดภาพง่ายๆ เหมือนร้านสะดวกซื้อที่มีหมอประจำการน่ะครับ ไม่ใช่แบบว่าเปิดป้ายไฟแล้วปิดไฟหนีนะ

  • ขนาดโรงพยาบาลก็มีผลนะ ยิ่งใหญ่ยิ่งต้องมีหมอเยอะ คิดง่ายๆ โรงพยาบาลร้อยเตียงขึ้นไปเนี่ย หมอเวรกลางคืนต้องมีอย่างน้อย 1 คนขึ้นไป บางที่อาจจะมากกว่านั้น เหมือนทีมฟุตบอลสำรอง ต้องมีตัวเลือกเผื่อกรณีฉุกเฉิน!
  • แต่ถ้าโรงพยาบาลเล็กๆ อาจจะไม่เยอะขนาดนั้น ต้องดูตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 นะครับ รายละเอียดอาจจะแตกต่างกันออกไป ลองเช็คเว็บไซต์กระทรวงดูได้นะ อย่าไปถามผม ผมแค่คนเขียนคำตอบไม่ใช่เจ้าหน้าที่
  • เรื่องหมอน้อยไป หรือไม่เจอหมอ ก็อีกเรื่องนึงแล้วครับ อันนี้ต้องไปร้องเรียน อย่าไปกลัวนะครับ สิทธิของคุณ โรงพยาบาลต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าไปเจอคุณหมอหน้าตาแบบ… เอ่อ… อย่าไปว่าเค้านะครับ เค้านอนน้อยมาทั้งคืน เหนื่อยมาก ผมเคยเจอคุณหมอที่ดูอ่อนล้ามาก เหมือนซอมบี้ในหนัง สงสารแกเลย 😅

ข้อมูลเพิ่มเติมเล็กๆน้อยๆ (เฉพาะปี 2566): ข้อกำหนดจำนวนแพทย์ในโรงพยาบาลขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของโรงพยาบาล ซึ่งจะมีการกำหนดอย่างชัดเจนในกฎหมายและระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข การตรวจสอบข้อมูลล่าสุดควรดูจากแหล่งข้อมูลทางการนะครับ อย่าเชื่อผมมากนัก เพราะผมอาจจะลืมไปแล้วว่าเขียนอะไรไปบ้าง 😉

รพ กลาง รับประกันสังคมไหม?

โรงพยาบาลกลางรับประกันสังคมไหม? รับสิครับ! แต่ไม่ใช่ทุกแผนกนะจ๊ะ อย่าคิดว่าไปถึงแล้วจะได้ใช้บริการแบบสบายใจเฉิบ เหมือนไปเที่ยวทะเล บางทีอาจเจอคลื่นลมแรงกว่าที่คิด (หมายถึงคิวที่ยาวเหยียด)

  • โรงพยาบาลกลาง เป็นหนึ่งใน 9 โรงพยาบาลของสำนักการแพทย์กรุงเทพฯ ที่รับประกันสังคม แต่ต้องเช็คให้ชัวร์ก่อนไป เพราะบางแผนกอาจไม่ครอบคลุม โทรถามก่อนก็ดี อย่าไปเสียเที่ยวนะ
  • ปีนี้ 2024 ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้ อย่าเชื่อผม 100% ไปเช็คกับทางโรงพยาบาลโดยตรงดีที่สุด ไม่งั้นอาจเจอประสบการณ์ตรงแบบที่ผมเคยเจอมา (คือรอคิวจนปวดหลังไปเลย)

เอาล่ะ สรุปง่ายๆ โรงพยาบาลกลางรับประกันสังคม แต่ก็ต้องเช็คเงื่อนไขให้ดีก่อนไป อย่าไปแบบมั่นใจเกินไป เดี๋ยวจะเสียเวลาเปล่าๆ เหมือนผมไปต่อคิวซื้อไอติม รอจนไอติมละลายหมดก่อนได้กิน อ้อ! ส่วนรายชื่อโรงพยาบาลอื่นๆ ในสังกัดปีนี้ ลองเช็คจากเว็บสำนักการแพทย์กรุงเทพฯ เอาเองนะ ขี้เกียจพิมพ์แล้ว เยอะแยะไปหมด!

โรงพยาบาลให้เข้าเยี่ยมได้กี่โมง?

เยี่ยมได้ 3 ช่วง อย่าเรื่องมาก

  • เช้า: 07:00 – 08:00 น.
  • บ่าย: 13:00 – 14:00 น.
  • เย็น: 18:00 – 20:00 น.

หมดเวลาคือหมด ไปให้พ้นหน้า อย่าให้ต้องไล่ คนไข้ต้องพักผ่อน

เพิ่มเติม: ไม่มีบัตรเฝ้าไข้ = ไสหัวไปซะ อย่ามาเนียนนอนค้าง

แหล่งที่มา: กูรู้เอง ไม่ต้องสืบ

คลอด รพ.รัฐ ใช้สิทธิบัตรทองได้ไหม?

ใช่! คลอด รพ.รัฐ ใช้สิทธิบัตรทองได้จ้าาาาา แต่เดี๋ยวก่อนนะ อย่าเพิ่งดีใจจนลืมเช็คเงื่อนไข! คิดว่าบัตรทองคือตั๋วฟรีใช่ไหม? คิดผิดแล้วพ่อคุณเอ๊ย! มันเหมือนตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด ขึ้นเครื่องได้ฟรี แต่ค่ากระเป๋าใบใหญ่ น้ำหวาน แถมที่นั่งริมหน้าต่าง นั่นคุณต้องจ่ายเองนะจ๊ะ

  • ค่าคลอดฟรี? ใช่! แต่… เฉพาะค่าคลอดนะจ๊ะ ค่าอื่นๆ เช่น ค่ายา (บางรายการ) ค่าห้องพิเศษ ค่าอาหาร ค่าดูแลพิเศษหลังคลอด (ถ้าอยากได้ห้องสวยๆ อาหารดีๆ นะ) คุณต้องเตรียมตัวจ่ายเอง คิดไว้เลยว่าอาจจะหลักพันขึ้นไป

  • ธรรมชาติ vs. ผ่าคลอด: ถ้าคลอดเองแบบธรรมชาติ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างจะน้อยกว่า แต่ถ้าผ่าคลอด เตรียมใจไว้เลย อาจจะหลักหมื่น! ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ของคุณแม่ด้วย (ปี 2566 นะจ๊ะ)

  • งบประมาณเตรียมไว้: อย่าคิดว่าใช้สิทธิบัตรทองแล้วสบายใจไป ควรเตรียมเงินสำรองเผื่อค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไว้ด้วย ประมาณ 5,000-15,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์จริง เป็นการเตรียมตัวที่ดีกว่าเสี่ยงเอาตอนนั้น

สรุปง่ายๆ บัตรทองช่วยลดภาระค่าคลอดให้คุณแม่ได้เยอะ แต่ไม่ใช่ฟรีทั้งหมด ควรศึกษาเงื่อนไขและเตรียมงบประมาณเผื่อไว้ด้วยนะ อย่าให้ความสุขในการได้ลูกน้อยมาบดบังความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เตรียมตัวดีๆ คลอดลูกอย่างสบายใจ ได้ทั้งลูกและเงินเหลือเก็บ! (นี่พูดจากประสบการณ์ตรง ของเพื่อนสนิท ที่คลอดเมื่อต้นปีนี้!)

#ตรวจภายใน #สุขภาพ #เสียเงิน