ปากเปื่อยหาหมออะไร

ปากเปื่อย! โอ๊ยตาย! ใครเคยเป็นบ้างยกมือขึ้น! บอกเลยว่าทรมานกว่าที่คิดมากกกกกก กินอะไรก็แสบ กินอะไรก็เจ็บ แถมยังดูไม่น่ามองอีกต่างหาก คือแบบ… ชีวิตพังเลยอ่ะตอนนั้น (จริงจังนะ!)

จำได้เลย ตอนนั้นเป็นปากเปื่อยหนักมาก เป็นแผลเป็นเม็ดๆ เล็กๆ เต็มปากไปหมด กินข้าวแกงก็ลำบาก ดื่มน้ำเย็นก็แสบ แม้แต่น้ำลายตัวเองยังรู้สึกว่ามันกัดแผล จะบ้าตายอยู่แล้ว! ตอนแรกก็คิดว่าเดี๋ยวก็หายเอง ทายยาแก้ปวดทั่วไป แต่มันดันไม่หายซะนี่สิ ยิ่งทิ้งไว้นานยิ่งแย่ลง นี่ขนาดทายาแล้วนะ ถึงกับเริ่มคิดว่า… เอ๊ะ หรือเราแพ้ยา? หรือจะเป็นโรคร้ายแรง?! (คิดมากไปไหมเนี่ย 555)

สุดท้ายทนไม่ไหว รีบไปหาหมอฟันเลยค่ะ บอกเลยว่าไม่ควรปล่อยไว้นะคะ เพราะหมอฟันนี่แหละที่เชี่ยวชาญเรื่องในปากของเราโดยตรง เขาจะตรวจดูว่ามันเกิดจากอะไร อาจเป็นแค่แผลในปากธรรมดา หรือบางทีอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ อย่างพวกโรคภูมิแพ้ หรือแม้แต่โรคเลือดอะไรแบบนั้น (คือหมอบอกมาเองนะ ไม่ได้คิดเองเออเองนะ!) ซึ่งถ้าปล่อยไว้นาน มันอาจจะลามไปใหญ่ หรือแย่ลงกว่าเดิมก็ได้ ยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ด้วยแล้ว ยิ่งอันตราย เพราะพวกเขาอาจจะไม่สามารถบอกเราได้ว่าเจ็บตรงไหน แค่ร้องไห้ๆๆๆ ก็รู้แล้วว่ามีอะไรผิดปกติ ใช่ไหมคะ?

หมอตรวจเสร็จ ก็ให้ยามา พร้อมทั้งคำแนะนำการดูแลตัวเอง อย่างเช่น ห้ามกินของร้อน ของเผ็ด งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ต้องบ้วนปากด้วยน้ำเกลือบ่อยๆ อะไรแบบนี้ บอกเลยว่า ช่วงนั้นคือระมัดระวังสุดๆ กลัวจะหายช้า แต่พอทำตามที่หมอบอก อาการก็ดีขึ้นเร็วมาก คือแบบ โล่งใจสุดๆ ไปเลย หายเร็วกว่าที่คิดไว้เยอะเลยด้วยซ้ำ!

สรุปง่ายๆ เลยนะคะ ถ้าเป็นปากเปื่อย อย่ามัวแต่รอ รีบไปหาหมอฟันดีที่สุดค่ะ อย่าปล่อยให้มันเป็นนาน เพราะบางทีอาจจะไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ อย่างที่คิดก็ได้นะ เชื่อหมอ! (และเชื่อประสบการณ์ตรงของฉันด้วย!) ไปหาหมอ แล้วชีวิตจะได้กลับมาปกติ ได้กินของอร่อยๆ ได้ยิ้มได้อย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว!