อาการปวดแสบปวดร้อน เป็นยังไง

เมื่อไฟลามผิว: ไขความลับอาการปวดแสบปวดร้อน

อาการปวดแสบปวดร้อน ไม่ใช่แค่คำบรรยายธรรมดาๆ มันคือความรู้สึกที่เผาไหม้ คล้ายมีไฟลามอยู่บนผิวหนัง บางครั้งอาจรุนแรงจนทรมาน จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่มันเกิดจากอะไร และเราจะรับมือกับมันอย่างไร?

ความรู้สึกแสบร้อนนี้ ไม่ได้เกิดจากเปลวไฟจริงๆ แต่เกิดจากการระคายเคืองของปลายประสาทรับความรู้สึกที่อยู่ใต้ผิวหนัง เหมือนสายไฟฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวด แสบร้อน และอาจมีอาการคันร่วมด้วย ความรุนแรงของอาการ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งสาเหตุของการระคายเคือง ความไวของแต่ละบุคคล และระยะเวลาที่สัมผัสกับสิ่งกระตุ้นนั้น

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน มีหลากหลาย อาทิ:

• การสัมผัสสารเคมี: สารเคมีต่างๆ เช่น กรด ด่าง สารละลายทำความสะอาด หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์บางชนิด สามารถทำให้ผิวหนังระคายเคืองและเกิดอาการแสบร้อนได้ ความรุนแรงขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นของสารเคมีนั้นๆ

• การถูกแสงแดดเผา: การได้รับแสงแดดเป็นเวลานานโดยปราศจากการป้องกัน จะทำให้ผิวหนังไหม้ เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน แดง บวม และอาจมีผื่นขึ้นได้

• โรคผิวหนัง: โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนัง สามารถทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนได้ โดยเฉพาะในระยะที่อาการกำเริบ

• การติดเชื้อ: การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือไวรัส ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนได้ เช่น การติดเชื้อที่แผล หรือโรคงูสวัด

• การแพ้: การแพ้สารสัมผัสต่างๆ เช่น เครื่องสำอาง โลชั่น หรือเครื่องประดับ สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งมักมาพร้อมกับอาการปวดแสบปวดร้อน คัน และผื่นแดง

• อาการทางระบบประสาท: บางครั้ง อาการปวดแสบปวดร้อนอาจเกิดจากปัญหาทางระบบประสาท เช่น โรคประสาทส่วนปลาย หรือภาวะเส้นประสาทอักเสบ

การดูแลรักษาเบื้องต้น:

หากเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน ควรทำความสะอาดบริเวณที่เกิดอาการด้วยน้ำสะอาด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารกระตุ้นที่อาจทำให้เกิดอาการ การประคบเย็น อาจช่วยลดอาการบวมและปวดได้ ควรทายาที่มีส่วนผสมของสารระงับอาการปวด และควรปรึกษาแพทย์ หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ มีหนอง หรือมีแผลลุกลาม

อาการปวดแสบปวดร้อน อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพ การสังเกตอาการ และการปรึกษาแพทย์ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง และช่วยให้คุณกลับมามีสุขภาพผิวที่ดีได้อีกครั้ง