อาการอาเจียนสีเหลืองขมๆ อันตรายไหม

อาเจียนสีเหลืองขมๆ: สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

อาการอาเจียนเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย สาเหตุอาจมาจากหลายปัจจัย ตั้งแต่การกินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ท้องเสีย จนถึงโรคภัยไข้เจ็บ แต่หากอาเจียนออกมาเป็นสีเหลืองขมๆ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าที่คิด

สีเหลืองขมของอาเจียนนั้น เกิดจากการไหลย้อนของน้ำดี น้ำดีเป็นสารสีเหลืองเขียวที่ผลิตโดยตับ มีหน้าที่สำคัญในการย่อยไขมัน ปกติแล้วน้ำดีจะถูกปล่อยลงสู่ลำไส้เล็กเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร แต่ในบางกรณี อาจเกิดการไหลย้อนกลับขึ้นไปยังกระเพาะอาหารและทำให้มีอาการอาเจียนเป็นสีเหลืองขม ซึ่งมักมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้ ความรู้สึกแสบร้อนกลางอก และในบางครั้งอาจมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวร่วมด้วย

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอาเจียนสีเหลืองขม นั้นมีความหลากหลาย และความรุนแรงก็แตกต่างกันไป อาจเกิดจากสาเหตุที่ไม่รุนแรง เช่น:

• การกินอาหารไม่ย่อย: การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด หรืออาหารที่ไม่สะอาด อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักเกินไป จนเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน และหากมีการไหลย้อนของน้ำดี ก็จะทำให้มีอาการอาเจียนเป็นสีเหลืองขมได้
• โรคกรดไหลย้อน: กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร อาจทำให้เกิดการอักเสบ และอาจกระตุ้นให้เกิดการไหลย้อนของน้ำดีได้เช่นกัน
• การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร: เชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย อาจทำให้เกิดการอักเสบในกระเพาะอาหารและลำไส้ ส่งผลให้อาเจียนเป็นสีเหลืองขม
• การอุดตันของท่อน้ำดี: หากมีการอุดตันของท่อน้ำดี เช่น จากนิ่วในถุงน้ำดี หรือเนื้องอก น้ำดีจะไม่สามารถไหลลงสู่ลำไส้ได้อย่างปกติ อาจทำให้เกิดอาการอาเจียนสีเหลืองขม พร้อมกับอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และดีซ่าน (ตาเหลือง ตัวเหลือง)

แต่ในบางกรณี อาการอาเจียนสีเหลืองขม อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น :

• ตับอักเสบ: การอักเสบของตับ อาจทำให้เกิดการผิดปกติในการทำงานของตับ และส่งผลให้มีอาการอาเจียนสีเหลืองขม
• มะเร็งตับอ่อน: เนื้องอกในตับอ่อนอาจกดทับท่อน้ำดี ทำให้เกิดการอุดตัน และอาการอาเจียนสีเหลืองขม
• โรคตับแข็ง: การแข็งตัวของเนื้อตับ อาจทำให้ตับไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ และเกิดการไหลย้อนของน้ำดีได้

เมื่อใดควรไปพบแพทย์?

แม้ว่าอาการอาเจียนสีเหลืองขม อาจเกิดจากสาเหตุที่ไม่รุนแรง แต่หากอาการรุนแรง หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรง มีไข้สูง ตัวเหลือง ตาเหลือง อุจจาระสีซีด หรืออาเจียนเป็นเลือด ควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง การชะล่าใจอาจทำให้โรคมีความรุนแรงมากขึ้น และยากต่อการรักษา

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เสมอ