อาการไข้หวัดใหญ่แบบไหนต้องนอนโรงพยาบาล

13 การดู
อาการรุนแรง: หายใจลำบาก/หายใจถี่, เจ็บหน้าอก, ปวดท้องรุนแรง, เวียนหัว/สับสน, ชัก, อาเจียนต่อเนื่อง, ภาวะขาดน้ำ, อาการแย่ลงแม้ไข้ลด กลุ่มเสี่ยง: เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, หญิงตั้งครรภ์, ผู้มีโรคประจำตัว (เช่น หอบหืด, เบาหวาน, โรคหัวใจ) หากมีไข้หวัดใหญ่ ควรรีบพบแพทย์ ภาวะแทรกซ้อน: ปอดบวม, สมองอักเสบ, กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ อาจจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าระวังและรักษา
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไข้หวัดใหญ่ ภัยเงียบที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต เมื่อไรควรไปโรงพยาบาล?

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบได้บ่อย แม้ส่วนใหญ่แล้วอาการจะไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 7-10 วัน แต่ก็มีบางกรณีที่อาการรุนแรงจนจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล การรู้จักสังเกตอาการและกลุ่มเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้

หลายคนอาจมองว่าไข้หวัดใหญ่เป็นเพียงโรคเล็กน้อย แค่พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานยาแก้ไข้ก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงแล้ว ไข้หวัดใหญ่สามารถพัฒนาไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น การรู้จักแยกแยะอาการที่บ่งบอกถึงความจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

อาการไข้หวัดใหญ่ที่ควรไปพบแพทย์โดยด่วน และอาจจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลได้แก่:

  • ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจรุนแรง: หายใจลำบาก หายใจถี่ หอบเหนื่อย รู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอก เสียงหายใจมีเสียงหวีด นี่เป็นสัญญาณเตือนว่าปอดอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง อาจนำไปสู่ภาวะปอดบวมได้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนในโรงพยาบาล

  • อาการทางระบบประสาท: เวียนหัว มึนงง สับสน ชัก นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเชื้อไวรัสอาจเข้าไปทำลายระบบประสาท อาจนำไปสู่ภาวะสมองอักเสบได้ ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายและอาจถึงแก่ชีวิตได้ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าระวังและให้การรักษาอย่างทันท่วงที

  • อาการทางระบบทางเดินอาหารรุนแรง: ปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียนอย่างต่อเนื่อง ท้องเสียรุนแรง ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ภาวะขาดน้ำสามารถทำให้ร่างกายอ่อนแอลง และอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ จำเป็นต้องได้รับการให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำในโรงพยาบาล

  • ไข้ไม่ลดลงแม้ได้รับการรักษาแล้ว: แม้ว่าจะได้รับการรักษาด้วยยาแก้ไข้แล้ว แต่ไข้ยังคงสูงอยู่ หรือแม้กระทั่งอาการอื่นๆ แย่ลง เช่น ไอมากขึ้น หายใจเหนื่อยมากขึ้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความรุนแรงของโรคและจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล

กลุ่มเสี่ยงที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่:

  • เด็กเล็ก: ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง จึงมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนสูง

  • ผู้สูงอายุ: ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงตามอายุ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนสูง

  • หญิงตั้งครรภ์: ระบบภูมิคุ้มกันอาจอ่อนแอลง และมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อทั้งแม่และทารกในครรภ์

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว: เช่น โรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคปอดเรื้อรัง เนื่องจากโรคประจำตัวจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากไข้หวัดใหญ่:

  • ปอดบวม: การติดเชื้อในปอด อาจทำให้หายใจลำบาก และอาจถึงแก่ชีวิตได้

  • สมองอักเสบ: การติดเชื้อในสมอง อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น เวียนหัว ปวดหัว ชัก และอาจถึงแก่ชีวิตได้

  • กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ: การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ อาจทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ และอาจถึงแก่ชีวิตได้

การรับรู้และเฝ้าระวังอาการไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งสำคัญ หากมีอาการรุนแรงดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด อย่ารอจนอาการรุนแรงเกินกว่าจะแก้ไขได้ การรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มโอกาสในการหายดีอย่างปลอดภัย

#อาการหนัก #โรงพยาบาล #ไข้หวัดใหญ่