เจาะเลือด เก็บได้กี่วัน

การเก็บรักษาตัวอย่างเลือดหลังการเจาะ: ความสำคัญของเวลาและอุณหภูมิเพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำ

การตรวจเลือดเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่สำคัญอย่างยิ่งในการวินิจฉัยโรคต่างๆ ตั้งแต่การติดเชื้อเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงโรคเรื้อรังที่ร้ายแรง ความแม่นยำของผลการตรวจวิเคราะห์นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือการจัดเก็บรักษาตัวอย่างเลือดหลังจากการเจาะ ความรู้เกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์การตรวจที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพสูงสุด

โดยทั่วไปแล้ว เลือดที่เจาะเพื่อตรวจวิเคราะห์ควรนำส่งห้องปฏิบัติการโดยเร็วที่สุด ภายในช่วงเวลา 2-4 ชั่วโมงหลังจากการเจาะ นี่เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีในตัวอย่างเลือด ซึ่งอาจส่งผลให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อนหรือไม่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น การทิ้งเลือดไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลานานอาจทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตกตัว ส่งผลกระทบต่อการตรวจนับเม็ดเลือด หรือทำให้เกิดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ส่งผลต่อความถูกต้องของการตรวจหาเชื้อโรค

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถนำส่งตัวอย่างเลือดไปยังห้องปฏิบัติการได้ทันทีภายใน 2-4 ชั่วโมง การแช่เย็นตัวอย่างเลือดที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การแช่เย็นจะช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมี และช่วยยืดอายุการเก็บรักษาตัวอย่างเลือดได้ แต่ถึงกระนั้น ระยะเวลาในการเก็บรักษาตัวอย่างเลือดที่แช่เย็นก็ยังคงจำกัด และมีความแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับชนิดของการตรวจวิเคราะห์ที่ต้องการ

การตรวจวิเคราะห์บางชนิดมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและเวลาอย่างมาก ตัวอย่างเช่น การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด หากเก็บรักษาตัวอย่างเลือดไว้นานเกินไปโดยไม่ได้แช่เย็น ระดับน้ำตาลในเลือดอาจลดลง ส่งผลให้ผลการตรวจไม่ถูกต้อง ในขณะที่การตรวจวิเคราะห์อื่นๆ อาจมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของเวลาและอุณหภูมิได้มากกว่า เช่น การตรวจหาแอนติบอดีบางชนิด

ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการหรือแพทย์ผู้สั่งตรวจเกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษาตัวอย่างเลือดที่ถูกต้อง รวมถึงระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละชนิดของการตรวจวิเคราะห์ การสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างผู้ป่วย เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่าง และห้องปฏิบัติการมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของผลการตรวจวิเคราะห์ อย่าลังเลที่จะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจว่าตัวอย่างเลือดของคุณได้รับการจัดเก็บและส่งตรวจอย่างถูกต้อง และผลการตรวจที่คุณได้รับมีความถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยและการรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะผลการตรวจที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่การรักษาที่ไม่เหมาะสม และส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณในที่สุด