เบาหวานเปียกกับแห้งต่างกันอย่างไร

16 การดู
เบาหวานเปียกและเบาหวานแห้งเป็นชื่อเรียกที่ไม่เป็นทางการและไม่ได้ใช้ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ความแตกต่างที่มักพูดถึงคือ เบาหวานเปียกหมายถึงผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวมากหรือมีอาการบวม ส่วนเบาหวานแห้งหมายถึงผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวน้อยหรือผอม อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้ไม่ได้บ่งชี้ชนิดของเบาหวาน และการวินิจฉัยที่ถูกต้องควรทำโดยแพทย์ผ่านการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เบาหวาน เปียก กับ แห้ง: เข้าใจความเข้าใจผิดและสิ่งที่ควรทำ

คำว่า เบาหวานเปียก และ เบาหวานแห้ง เป็นศัพท์ที่พบได้ทั่วไปในภาษาชาวบ้าน แต่ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น ไม่มีนิยามหรือการวินิจฉัยโรคที่เรียกว่าเบาหวานเปียกหรือเบาหวานแห้งอย่างเป็นทางการ การใช้คำเหล่านี้มักเป็นไปเพื่ออธิบายลักษณะทางกายภาพของผู้ป่วยเบาหวานบางราย ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคเบาหวานได้

โดยทั่วไปแล้ว เบาหวานเปียก มักถูกนำมาใช้อธิบายผู้ป่วยเบาหวานที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือมีอาการบวมน้ำตามร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจากการที่ร่างกายกักเก็บน้ำไว้มากกว่าปกติ หรืออาจเป็นผลมาจากการทำงานของไตที่ไม่สมบูรณ์อันเนื่องมาจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานเอง ในขณะที่ เบาหวานแห้ง มักถูกนำมาใช้อธิบายผู้ป่วยเบาหวานที่มีน้ำหนักตัวน้อย ผอม หรือมีอาการขาดน้ำ

ความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้น

การใช้คำว่า เปียก และ แห้ง อาจทำให้เข้าใจผิดว่าอาการบวมน้ำหรือน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลงเป็นตัวบ่งชี้ชนิดของเบาหวาน ซึ่งไม่เป็นความจริง โรคเบาหวานมีหลายชนิด เช่น เบาหวานชนิดที่ 1 เบาหวานชนิดที่ 2 เบาหวานขณะตั้งครรภ์ และเบาหวานที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ แต่ละชนิดมีกลไกการเกิดโรคที่แตกต่างกัน และการรักษาที่แตกต่างกันไป การวินิจฉัยชนิดของเบาหวานต้องอาศัยการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับน้ำตาล และการประเมินปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับลักษณะภายนอก เช่น น้ำหนักตัว อาจทำให้ละเลยอาการอื่นๆ ที่สำคัญของโรคเบาหวาน เช่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำมาก หิวบ่อย ตาพร่ามัว ชาตามปลายมือปลายเท้า แผลหายยาก หรือติดเชื้อบ่อย อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนที่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโรคเบาหวาน

สิ่งที่ควรทำเมื่อสงสัยว่าเป็นเบาหวาน

หากคุณสงสัยว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดอาจเป็นเบาหวาน สิ่งที่ควรทำคือ:

  1. ปรึกษาแพทย์: พบแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพและตรวจเลือดเพื่อวัดระดับน้ำตาลในเลือด
  2. แจ้งอาการ: บอกอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับแพทย์อย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง
  3. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยา หรือการเข้ารับการตรวจติดตามผล

สรุป

เบาหวานเปียก และ เบาหวานแห้ง เป็นเพียงคำที่ใช้กันทั่วไปในภาษาชาวบ้านเพื่ออธิบายลักษณะทางกายภาพของผู้ป่วยเบาหวานบางราย ไม่ใช่ชื่อเรียกทางการแพทย์ และไม่ได้บ่งชี้ชนิดของเบาหวาน การวินิจฉัยที่ถูกต้องและเหมาะสมต้องอาศัยการตรวจเลือดและประเมินโดยแพทย์ หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสม