เสียง Rhonchi ได้ยินตอนไหน

13 การดู

ข้อมูลแนะนำ:

เสียงรอนคี่บ่งชี้ถึงการอุดกั้นในหลอดลมขนาดใหญ่ มักเกิดจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งอื่นๆ ลักษณะเด่นคือเสียงทุ้มต่ำคล้ายเสียงกรนหรือเสียงครืดคราด ซึ่งมักได้ยินชัดเจนขณะหายใจเข้าและออก การประเมินเสียงรอนคี่มีความสำคัญในการวินิจฉัยภาวะทางเดินหายใจ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เสียง “รอนคี่”: เมื่อปอดส่งสัญญาณความขรุขระที่เราต้องฟัง

ในบรรดาเสียงต่างๆ ที่แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ใช้ในการวินิจฉัยโรคทางเดินหายใจ เสียง “รอนคี่” (Rhonchi) ถือเป็นเสียงหนึ่งที่บ่งชี้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในส่วนลึกของระบบหายใจของเรา แม้ว่าอาจจะฟังดูคล้ายกับเสียงอื่นๆ เช่น เสียงหวีด (Wheezing) แต่เสียงรอนคี่นั้นมีลักษณะเฉพาะตัวที่ช่วยให้เราเข้าใจถึงกลไกการทำงานของปอดที่ผิดปกติได้

เสียงรอนคี่…ได้ยินเมื่อไหร่?

เสียงรอนคี่มักจะได้ยินเมื่อมีการอุดกั้นใน หลอดลมขนาดใหญ่ (Large airways) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหลอดลมคอ (Trachea) และหลอดลมใหญ่ (Main bronchi) การอุดกั้นนี้ส่วนใหญ่มักเกิดจาก:

  • เสมหะและสารคัดหลั่ง: นี่คือสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เมื่อร่างกายผลิตเสมหะมากเกินไป หรือไม่สามารถขับเสมหะออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสมหะเหล่านี้ก็จะไปสะสมอยู่ในหลอดลม ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและเกิดเสียงรอนคี่เมื่ออากาศไหลผ่าน
  • การบวมของเยื่อบุหลอดลม: ในกรณีที่เกิดการอักเสบ เช่น หลอดลมอักเสบ (Bronchitis) เยื่อบุหลอดลมจะบวมขึ้น ทำให้ช่องทางเดินอากาศแคบลง และเกิดเสียงรอนคี่ได้
  • สิ่งแปลกปลอม: ในบางกรณี เสียงรอนคี่อาจเกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหลอดลม โดยเฉพาะในเด็กเล็ก
  • เนื้องอก: ถึงแม้จะไม่พบบ่อยนัก แต่เนื้องอกที่เติบโตในหลอดลมก็สามารถทำให้เกิดการอุดกั้นและเกิดเสียงรอนคี่ได้เช่นกัน

ลักษณะเฉพาะของเสียงรอนคี่:

  • เสียงทุ้มต่ำ: เสียงรอนคี่มักจะมีลักษณะเป็นเสียงทุ้มต่ำ คล้ายเสียงกรน หรือเสียงครืดคราดอยู่ในลำคอ
  • ได้ยินชัดเจนทั้งหายใจเข้าและออก: โดยทั่วไป เสียงรอนคี่สามารถได้ยินได้ชัดเจนทั้งในขณะที่หายใจเข้าและหายใจออก แต่บางครั้งอาจจะดังชัดเจนกว่าในขณะหายใจออก
  • เปลี่ยนแปลงหรือหายไปเมื่อไอ: ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างเสียงรอนคี่กับเสียงอื่นๆ คือ เสียงรอนคี่มักจะเปลี่ยนแปลงหรือหายไปเมื่อผู้ป่วยไอ เนื่องจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งที่อุดกั้นอยู่อาจจะถูกขับออกมา

ความสำคัญของการประเมินเสียงรอนคี่:

การฟังและประเมินเสียงรอนคี่เป็นส่วนสำคัญในการวินิจฉัยภาวะทางเดินหายใจหลายชนิด เช่น:

  • โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD): ผู้ป่วย COPD มักจะมีเสมหะในหลอดลมจำนวนมาก ทำให้เกิดเสียงรอนคี่ได้บ่อย
  • หลอดลมอักเสบ (Bronchitis): การอักเสบของหลอดลมทำให้เกิดการบวมและสร้างเสมหะ ซึ่งเป็นสาเหตุของเสียงรอนคี่
  • ปอดบวม (Pneumonia): ในบางกรณี ปอดบวมอาจทำให้เกิดการสะสมของสารคัดหลั่งในหลอดลม ทำให้เกิดเสียงรอนคี่ได้
  • ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด: ผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดอาจไม่สามารถไอเพื่อขับเสมหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการสะสมของเสมหะและเกิดเสียงรอนคี่

เมื่อได้ยินเสียงรอนคี่…ควรทำอย่างไร?

หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักได้ยินเสียงรอนคี่ สิ่งสำคัญคือการปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรับการรักษาที่เหมาะสม โดยแพทย์อาจทำการตรวจร่างกายเพิ่มเติม เช่น การเอกซเรย์ปอด หรือการตรวจเสมหะ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเสียงรอนคี่

สรุป:

เสียงรอนคี่เป็นเสียงที่บ่งชี้ถึงการอุดกั้นในหลอดลมขนาดใหญ่ การทำความเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะของเสียงรอนคี่ และการประเมินร่วมกับอาการอื่นๆ จะช่วยให้เราสามารถวินิจฉัยและรักษาภาวะทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใส่ใจในสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่ได้ยินจากการหายใจ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพปอดของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ