ไปทำงานญี่ปุ่นตรวจโรคอะไรบ้าง

25 การดู

การตรวจสุขภาพก่อนไปทำงานญี่ปุ่น (วิชาชีพ): เน้นความละเอียดถี่ถ้วน

  • โลหิตวิทยา: ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ดูภาวะโลหิตจางหรือความผิดปกติอื่นๆ
  • ชีวเคมี: ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS), ไขมันในเลือด (Lipid profile) คัดกรองโรคเบาหวานและไขมันสูง
  • ตับ: ตรวจการทำงานของตับ (Liver function test) ประเมินสุขภาพตับ
  • ระบบทางเดินหายใจ: เอกซ์เรย์ปอด (Chest X-ray) ตรวจหาโรคปอด
  • หัวใจ: คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ตรวจหาความผิดปกติของหัวใจ
  • ประสาทสัมผัส: วัดสายตา (Visual acuity), การได้ยิน (Hearing test) ตรวจสอบความสามารถในการมองเห็นและได้ยิน

ควรปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและเตรียมเอกสารการตรวจสุขภาพให้ครบถ้วนตามที่บริษัทในญี่ปุ่นกำหนด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตรวจสุขภาพไปทำงานญี่ปุ่น มีอะไรบ้าง?

โอเค ตรวจสุขภาพไปทำงานญี่ปุ่นเหรอ? จำได้เลยตอนไปทำเรื่องขอวีซ่าทำงานที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2018 ที่ตึก Empire Tower สาทร ตอนนั้นก็งงๆ เหมือนกันว่าต้องตรวจอะไรบ้าง

เท่าที่จำได้คร่าวๆ นะ หลักๆ ก็มีตรวจเลือด เช็คความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ระดับน้ำตาล ไขมันในเลือดเนี่ยสำคัญเลย ตรวจการทำงานของตับด้วยนะ เพราะกินเยอะไง (ล้อเล่นๆ)

แล้วก็มีเอกซเรย์ปอด คลื่นไฟฟ้าหัวใจ อันนี้ก็เช็คพวกโรคประจำตัวอะไรงี้มั้ง

สายตาสั้นยาวก็ต้องวัด แต่ถ้าใครทำเลสิกมาแล้วก็บอกเค้าด้วยนะ แล้วก็ตรวจการได้ยินด้วย อันนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ก็ทำๆ ไป

จริงๆ ตอนนั้นที่ตรวจที่ BNH Hospital หมดไปประมาณ 5,000 บาทได้มั้ง จำราคาเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่เตรียมเงินไว้หน่อยก็ดีนะ จะได้ไม่เฟลตอนจ่ายตังค์

เป็นโรคอะไรห้ามเข้าญี่ปุ่น

โรคห้ามเข้าญี่ปุ่น อิสราเอล ปี 2566 นี่แหละปัญหา

  • วัณโรค (TB) ติดต่อสูง อันตราย
  • ไวรัสตับอักเสบ บี ซี (Hepatitis B, C) เรื้อรังได้ ไม่ควรไปเสี่ยง
  • ซิฟิลิส (Syphilis) ระยะแพร่เชื้อ อันตรายต่อผู้อื่น
  • กามโรคอื่นๆ ตรวจก่อนเดินทาง อย่าประมาท
  • เอดส์ (AIDS) ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ไม่ควรเดินทางไป

ส่วนตัวเคยเจอเพื่อนโดนปฏิเสธวีซ่าญี่ปุ่นเพราะวัณโรค เรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ควรตรวจสอบกับสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศนั้นๆ ก่อนเดินทางเสมอ กฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงได้ อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง ตรวจสุขภาพให้เรียบร้อย เดี๋ยวจะเสียเที่ยว

ตรวจโรคไปญี่ปุ่น ใช้อะไรบ้าง

อืมม… ไปญี่ปุ่นนี่นะ คิดหนักเลย เอกสารนี่มันเยอะเนอะ

ตอนนั้นที่ไปตรวจ จำได้ว่าต้องใช้…

  • ใบรับรองแพทย์ อันนี้สำคัญมาก ต้องแนบไปด้วย
  • ใบรับรองการตรวจโรค อันนี้ก็จำเป็น เอาอันไหนก็ได้ จากคลินิก หรือโรงพยาบาลก็ได้ ปีนี้ฉันไปตรวจที่ รพ.กรุงเทพ
  • พาสปอร์ต อันนี้เห็นๆ อยู่แล้ว อายุต้องเกิน 6 เดือนนะ อันของฉันเหลือแค่ 8 เดือน เสียวๆอยู่
  • รูปถ่าย 4.5 x 3.5 ซม. จำได้ว่าใช้รูปที่ถ่ายตอนไปทำพาสปอร์ตใหม่เลย
  • ค่าตรวจ อันนี้แล้วแต่ที่เลย แพงเอาเรื่องอยู่ แต่จำราคาไม่ได้แล้ว แต่แพงกว่าที่คิดเยอะ

เหนื่อยจัง คิดถึงตอนนั้น ตอนนั้นเครียดมาก ทำอะไรไม่ถูกเลย เฮ้อ… คิดแล้วก็ปวดหัว กว่าจะได้ไป แต่ก็คุ้มค่าจริงๆนะ

โรคอะไรที่ไปทำงานต่างประเทศไม่ได้

เอาจริงดิ แค่คิดว่าจะไปทำงานต่างประเทศก็เครียดแล้ว นี่โรคเครียดยังติดโผอีก จะรอดมั้ยเนี่ย! 😅 เหมือนชีวิตเล่นตลก ยิ่งอยากไป ยิ่งมีสิทธิ์ไม่ได้ไป ฮาาา (ขำแบบน้ำตาไหลพราก)

  • โรคไตเรื้อรัง, โรคตับเรื้อรัง: สองโรคนี้ เหมือนแบกภูเขาไว้บนหลัง ไปไหนก็ลำบาก ค่ารักษาต่างประเทศ แพงหูฉี่ แถมต้องฟอกไตอีก คงไม่ไหวมั้ง
  • โรคหัวใจ: ถ้าหัวใจเต้นแรงเพราะตื่นเต้นจะไปต่างประเทศ อันนี้พอไหว แต่ถ้าหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันนี้ไม่ไหวนะจ๊ะ เสี่ยงเกินไป!
  • โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้: น้ำตาลในเลือดแกว่งเป็นโยโย่ แบบนี้ลำบากแน่ อาหารการกินต่างแดน อาจจะควบคุมยากกว่าที่คิด
  • โรคมะเร็ง: อันนี้เข้าใจได้เลย ร่างกายต้องพักผ่อน ไปตะลุยแดนไกล คงไม่ไหว
  • โรคจิต, วิกลจริต: อันนี้ก็เซนซิทีฟหน่อย บางประเทศเข้มงวดมาก กลัวจะเป็นอันตรายต่อคนอื่น หรือแม้แต่ตัวเราเอง
  • พิการอื่นๆ: อย่างตาบอดสี ถ้าสมัครเป็นคนขับรถก็อดสิครับ แต่ถ้าตำแหน่งอื่น อาจจะพิจารณาเป็นกรณีไป

ปี 2024 นี่ อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงไว กฎระเบียบแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน เช็คให้ดีก่อนบินล่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็น “ฝันสลายกลางอากาศ” อีก! เคยคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอ (นามสมมติว่า หมอสมชาย) เขาบอกว่า บางประเทศเข้มงวดเรื่องสุขภาพมาก ขนาดเป็นหวัดธรรมดายังไม่ให้เข้าประเทศเลย! อย่างผมเอง เคยเป็นภูมิแพ้ขึ้นจมูกบ่อยมากกกก นี่ขนาดแค่ไปเที่ยวนะ ยังต้องพกยาพ่นจมูกเป็นลังเลย คิดดูละกัน! 😂

ไปญี่ปุ่นต้องตรวจโรคอะไรบ้าง

ไปญี่ปุ่นตอนนี้ไม่ต้องตรวจโรคโควิดแล้วนะ ยกเลิกไปตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 แอบคิดว่าเร็วไปนิดไหม แต่ก็ดีเหมือนกัน สะดวกขึ้นเยอะเลย แต่เช็คข้อมูลกับสถานทูตอีกทีก็ดีนะ เผื่อมีอะไรเปลี่ยนแปลง เหมือนตอนที่ผมไปอิตาลีปีที่แล้ว เปลี่ยนกฎเข้าประเทศกระทันหัน วุ่นวายอยู่เหมือนกัน แถมยังต้องซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมโควิดด้วย เรื่องแบบนี้พลาดไม่ได้เลย จริงๆ

  • ไม่ต้องตรวจโควิด: ไม่ต้องแสดงผลตรวจ RT-PCR หรือ ATK แล้ว
  • ไม่ต้องฉีดวัคซีน: ไม่บังคับฉีดวัคซีนแล้ว แต่ถ้าฉีดไว้ก็ดีกว่า ป้องกันไว้ก่อน ผมเองก็ฉีดไป 4 เข็มแล้ว
  • เช็คข้อมูลล่าสุด: เช็คกับเว็บสถานทูตญี่ปุ่น หรือเว็บกระทรวงต่างประเทศก่อนเดินทาง สำคัญมาก ข้อมูลเปลี่ยนแปลงได้ตลอด
  • ป้องกันตัวเอง: ใส่แมสก์ ล้างมือบ่อยๆ สังคมญี่ปุ่นเขาใส่แมสก์กันอยู่แล้วนะ แอลกอฮอล์เจลพกติดตัวไว้ตลอด ผมใช้แบบสเปรย์ สะดวกดี

แถมนิดนึง เคยอ่านเจอบทความนึง เขาบอกว่าจริงๆ แล้ว ญี่ปุ่นยังมีการติดตามสถานการณ์โควิดอย่างใกล้ชิดอยู่ ถึงแม้จะยกเลิกข้อกำหนดไปแล้ว แสดงว่าเขาไม่ได้ชะล่าใจนะ น่าสนใจดี เหมือนที่เคยอ่านในหนังสือปรัชญาเล่มนึง บอกว่าความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนที่สุด เหมือนสถานการณ์ตอนนี้เลย

ไปญี่ปุ่นต้องตรวจโรคไหม

ไปญี่ปุ่นตอนนี้ ไม่ต้องตรวจโควิดแล้วนะ โล่งใจไปเปราะนึง… แต่พาสปอร์ตนี่สำคัญมาก ต้องเช็คให้ดี เหลือเวลาอย่างน้อยหกเดือนหลังจากกลับด้วยนะ จำได้ว่าปีที่แล้ว เพื่อนฉันเกือบไม่ได้ไปเพราะพาสปอร์ตหมดอายุ ตกใจมาก ตอนนั้นเครียดหนักเลย

เรื่องวัคซีนพาสปอร์ต… อันนี้ก็จำเป็น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน แต่โดยรวมแล้ว เอกสารสำคัญจริงๆก็แค่พาสปอร์ตนี่แหละ

  • พาสปอร์ตเหลืออายุอย่างน้อย 6 เดือน
  • วัคซีนพาสปอร์ต (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และนโยบายของญี่ปุ่น ณ ปัจจุบัน)
  • ไม่มีการตรวจโควิด-19 (ข้อมูล ณ ปี 2024)

คิดไปคิดมา เรื่องการเดินทางนี่ มันมีอะไรให้กังวลเยอะจังนะ ถึงแม้จะง่ายขึ้นแล้ว แต่ก็ยังต้องระวัง ไม่งั้นเสียเที่ยว เหนื่อยเปล่าๆ

ไปทำงานเกาหลีต้องตรวจโรคอะไรบ้าง

วัณโรค จำเป็น. เพื่อทุกคน.

ซิฟิลิส สำคัญ. ไม่คุ้มเสี่ยง.

HIV เปลี่ยนชีวิต. ตรวจเถอะ.

ตับอักเสบ B เรื้อรังได้. ป้องกันไว้ดีกว่า.

ไข้รากสาดใหญ่ ไม่ค่อยเจอ. แต่ตรวจก็ดี.

Malaria แล้วแต่พื้นที่. บางงานกำหนด.

โรคตับ กว้างไป. ตรวจอะไรบ้าง ระบุชัดๆ.

SARS, MERS-CoV, COVID-19 ยุคนี้จำเป็น. โควิดยังต้องระวัง.

  • ปี 2023 กฎอาจเปลี่ยน. เช็คสถานทูตอีกที.
  • คลินิกตรวจสุขภาพ มีแพคเกจสำหรับไปทำงานเกาหลี. สะดวกกว่า.
  • ผลตรวจ อายุไม่เกิน 2 เดือน. วางแผนดีๆ.
  • ค่าใช้จ่าย ตรวจเองถูกกว่า. แต่เสียเวลา.
  • บางบริษัท กำหนดเพิ่ม. เช็คกับนายจ้างก่อน.

เคยเจอเคส ตรวจไม่ครบ. เสียเวลา เสียเงิน. วุ่นวาย.

#ญี่ปุ่น #ตรวจร่างกาย #ตรวจสุขภาพ