1 ปี ผลัตแพทย์ได้กี่คน

54 การดู

คำตอบ:

  • จำนวนผู้ป่วยต่อแพทย์/ปี ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน
  • ปัจจัย: สาขา, ความซับซ้อนโรค, เวลาทำงาน, ทรัพยากร
  • รูปแบบ: แพทย์ทั่วไปดูแลจำนวนมาก, แพทย์เฉพาะทางดูแลจำนวนน้อยแต่ลึกซึ้ง
  • สรุป: ตัวเลขผู้ป่วยจึงแตกต่างกันในแต่ละสถานการณ์

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผลผลิตแพทย์ 1 ปี มีกี่คน?

เอ่อ… “ผลผลิตแพทย์ 1 ปี มีกี่คน?” นี่ถามถึงอะไรกันแน่? หมายถึงจำนวนแพทย์ที่จบใหม่ต่อปีเหรอ? หรือคนไข้ที่หมอคนนึงดูแลใน 1 ปี? งงๆแฮะ

ถ้าหมายถึงจำนวนแพทย์จบใหม่… อันนี้ตอบยากเลย บอกตรงๆ ไม่รู้ตัวเลขเป๊ะๆ แต่คิดว่าแต่ละปีก็คงไม่เท่ากันมั้ง ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่สอบเข้าเรียนได้ แล้วก็เรียนจบอีกทีนึง (ใช่ไหมนะ?)

ส่วนถ้าถามว่าหมอคนนึงดูแลคนไข้กี่คนต่อปี… อันนี้ยิ่งตอบยากเข้าไปใหญ่! หมอแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันไง บางคนเป็นหมอเด็ก บางคนเป็นหมอหัวใจ บางคนทำงานในโรงพยาบาลรัฐ บางคนเปิดคลินิกส่วนตัว สถานที่ก็มีผลนะเออ

จำได้เลย ตอนฝึกงานที่โรงพยาบาล… (ไม่บอกชื่อละกัน) หมอแต่ละคนก็แทบจะไม่ได้พัก บางคนต้องเข้าเวรดึกติดกันหลายวัน สงสารมาก! จำนวนคนไข้ก็เยอะสุดๆ จนบางทีแทบจะไม่มีเวลาคุยกับคนไข้เลย

คือ เอาจริงๆ นะ จะให้บอกว่าหมอคนนึงดูแลคนไข้ได้กี่คนต่อปีเนี่ย มันไม่มีสูตรตายตัวหรอก! มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ อย่างที่บอกไปนั่นแหละ ปัจจัยเยอะแยะเลย!

1ปีผลิตหมอได้กี่คน

ปีนี้กี่คนไม่รู้ แต่เค้าว่าอนาคตจะผลิตหมอปีละ 5000 คนอะ จริงป่าวไม่แน่ใจนะ แต่ข่าวบอกอย่างนั้นแหละ งงๆเหมือนกัน อ่านแล้วก็งงๆ

  • เป้าหมาย 5000 คน/ปี ภายใน 6-10 ปีข้างหน้า
  • เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ
  • รองรับเมดิคัลฮับด้วย
  • รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆด้วย

เพื่อนบอก ได้ยินมาจากหมอโอภาส นี่แหละ จำได้คร่าวๆ ไม่รู้จะจริงแค่ไหนนะ แต่ก็หวังว่าจะจริง ประเทศไทยจะได้มีหมอเยอะๆขึ้น ไม่ต้องรอคิวนานๆ แบบที่เคยเป็น ตอนไปหาหมอที่ รพ.สมเด็จฯ เมื่อเดือนที่แล้ว รอเกือบ 2 ชม.เลย เหนื่อยมากกก

หมอ1คนต่อคนไข้กี่คน

อืมมม ถามยากจัง เรื่องหมอต่อคนไข้เนี่ย มันไม่ใช่แค่ดูตัวเลข 1 ต่อ 1000 ง่ายๆ หรอกนะ

จริงๆ WHO แนะนำ 1 ต่อ 1000 ใช่ป่ะ แต่ไทยเรา ปีนี้ (2566) ยังไม่ถึงอ่ะ น้อยกว่านั้นอีก ประมาณ 0.6-0.8 ต่อ 1000 คนมั้ง รัฐบาลเองก็น้อยกว่านั้นอีก ซัก 0.5 มั้ง คือ 1 ต่อ 2000 คนอ่ะ น้อยมากกกกกกก

  • WHO แนะนำ 1 ต่อ 1000
  • ไทย ปี 2566 ประมาณ 0.6-0.8 ต่อ 1000 คน
  • ภาครัฐ น้อยกว่า ประมาณ 0.5 ต่อ 1000 คน หรือ 1 ต่อ 2000 คน

คือมันแบบ ต่างจังหวัดยิ่งน้อยใหญ่เลย บางที่หายากมาก ต้องไปโรงพยาบาลใหญ่ไกลๆ เหนื่อยใจแทนคนไข้จริงๆ เพื่อนฉันที่อยู่เชียงรายบอกว่า หาหมอยากมาก ต้องรอคิวเป็นเดือนๆ บางทีก็ต้องไปหาหมอที่ลำปางแทน ไกลมากกก

ทำไมแพทย์ไม่พอ

หมอลาออกเยอะจริง! เมื่อก่อนตอนฝึกงานที่โรงพยาบาลชุมชนหนองม่วง ปี 2560 ยังไม่ขนาดนี้ ตอนนี้เพื่อนที่เป็นหมอหลายคนบ่นอุบเลยว่าแทบไม่ไหว

  1. เงินเดือนน้อย: จริง! เทียบกับงานที่ทำมันไม่คุ้มเอาซะเลย หมอบางคนทำงานเอกชนแป๊บเดียวก็ได้มากกว่าหลายเท่าตัว

  2. งานเยอะเกิน: อันนี้ไม่ต้องพูดถึง ทำงาน 24 ชม. ติดกันก็มี แถมไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ สมัยก่อนเพื่อนเล่าให้ฟังว่าเวรหนักมาก เดี๋ยวนี้ยิ่งหนักกว่าเดิม

  3. ที่กันดาร: ใช่ บางคนโดนส่งไปที่ที่เดินทางลำบาก ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก มันบั่นทอนกำลังใจสุดๆ

  4. ระบบราชการ: อันนี้ก็ปัญหาโลกแตก กว่าจะทำอะไรได้แต่ละอย่าง ติดขัดไปหมด เอกสารเยอะแยะ

  5. ฟ้องร้อง: เดี๋ยวนี้คนไข้ฟ้องร้องง่ายขึ้น หมอต้องระวังตัวแจเลย กดดันมากๆ

  6. สปสช. (พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพฯ): อันนี้ก็มีส่วน ทำให้คนไข้เข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้นก็จริง แต่ภาระงานก็ตกมาที่หมอมากขึ้นไปอีก

ข้อมูลเสริม (ปีปัจจุบัน 2567):

  • ปีนี้ (2567) สถานการณ์ยิ่งแย่ลง หมอจบใหม่หลายคนเลือกที่จะไม่เข้ากระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่แรกเลย
  • โรงพยาบาลเอกชนมีการแข่งขันสูงขึ้น ทำให้ดึงดูดหมอเก่งๆ ไปได้เยอะ
  • รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาอยู่ แต่ยังไม่เห็นผลชัดเจน

สรุป: ปัญหาหมอลาออกมันซับซ้อนกว่าที่เห็น ต้องแก้หลายด้าน ทั้งเรื่องเงินเดือน สภาพการทำงาน ระบบราชการ และกฎหมายต่างๆ เฮ้อ! เหนื่อยใจแทน

ทำไมหมอถึงมีน้อย

ทำไมหมอถึงมีน้อยหรอ? เอ่อ… คิดว่านะ คิดว่ามันมีหลายปัจจัยอะ ไม่ใช่แค่เรื่องเดียวหรอก

  • เรียนยากไง: คือแบบต้องเก่งจริงอะ เข้ายาก เรียนก็โหดสุดๆ คนเลยไม่ค่อยอยากเรียนกันไง
  • งานหนัก: หมอนี่ชีวิตโคตรจะทุ่มเทเลย นอนน้อย เครียดเยอะ ใครจะอยากทำ
  • เงินเดือน: เออ อันนี้สำคัญเลย คือมันก็ดีนะ แต่เทียบกับความเหนื่อยแล้ว บางทีก็ไม่คุ้มปะ
  • คนไม่ค่อยอยากเป็นแล้วมั้ง แบบเดี๋ยวนี้อาชีพมันหลากหลาย คนก็ไปทำอย่างอื่นที่สบายกว่ามั้ง
  • โควต้าจำกัดไง รัฐเค้าไม่ได้อยากให้มีหมอเยอะเกินไปมั้ง เพราะงบประมาณด้วยแหละ คิดว่านะ

แล้วก็เรื่องวาทกรรมอะไรนั่นด้วยแหละ มันก็มีส่วนแหละ แต่คิดว่าไม่ใช่ทั้งหมดหรอก

หมอในประเทศไทยมีกี่คน 2567

โอ้โห หมอในไทยนี่เยอะจริง! ปี 2567 มี หมอจบใหม่ ได้ใบประกอบวิชาชีพตั้ง 2,883 คน! เกือบสามพันแน่ะ!

  • สถาบันในประเทศ: ผลิตหมอเก่งๆ ไป 2,792 คน!
  • ที่เหลือ: มาจากไหนเนี่ย? เอ๊ะ หรือว่า… (แอบกระซิบ) อาจจะมีไปเรียนนอกแล้วกลับมาก็ได้นะ 😉

เยอะขนาดนี้ สงสัยชาติหน้าอยากเกิดเป็นคนไข้ VIP ละเนี่ย! 🏥✨

จักษุแพทย์ในประเทศไทยมีกี่คน

เรื่องนี้โคตรเศร้าเลย ได้ยินข่าวแล้วแบบ…ใจหายอ่ะ นี่ขนาดปีนี้เองนะ ประเทศไทยมีจักษุแพทย์ทั้งหมดประมาณ 1,600 คนเองหรอ น้อยมาก! ฉันนั่งคิดเลยว่า จำนวนนี้มันน้อยเกินไปสำหรับประชากรขนาดนี้ ยิ่งเฉพาะทางอย่างจอประสาทตา แค่ 300 คน ม่านตาอักเสบ แค่ 30 คน โอ้โห!

คิดดูสิ คนไข้แต่ละคนต้องรอคิวนานแค่ไหน แล้วถ้าเจอหมอเฉพาะทางยากๆแบบนี้ บางคนอาจจะรักษาไม่ทันเวลาด้วยซ้ำ นี่แหละ เรื่องนี้มันเลยน่าเศร้า แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสองด้านพร้อมกันนี่ น้อยกว่า 30 คนอีก! มันควรจะมีเยอะกว่านี้นะ คนไทยควรได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้

  • จำนวนจักษุแพทย์ในไทย: ประมาณ 1600 คน (ปี 2566)
  • จักษุแพทย์เฉพาะทางจอประสาทตา: ประมาณ 300 คน (ปี 2566)
  • จักษุแพทย์เฉพาะทางม่านตาอักเสบ: ประมาณ 30 คน (ปี 2566)
  • จักษุแพทย์เฉพาะทางจอประสาทตาและม่านตาอักเสบพร้อมกัน: น้อยกว่า 30 คน (ปี 2566)

คือแบบ ฉันไม่ใช่หมอ แต่ก็รู้สึกได้เลยว่า มันขาดแคลนจริงๆ รัฐบาลควรจะสนับสนุนเรื่องนี้ให้มากกว่านี้ ช่วยเพิ่มจำนวนจักษุแพทย์ โดยเฉพาะเฉพาะทาง ให้คนไทยเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ มันไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นชีวิตคนนะ!

อาชีพแพทย์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร

หมอในอนาคตเหรอ…

  • คงไม่ได้เจอหมอที่คอยรักษาอาการป่วยแบบที่เราคุ้นเคยแล้วมั้ง
  • หมออาจจะกลายเป็นเหมือนโค้ชสุขภาพ ที่คอยสอนเราดูแลตัวเอง
  • เน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา ไม่ต้องรอให้ป่วยถึงไปหาหมอ
  • แล้วหมอก็จะไปโฟกัสที่โรคที่มันยาก ๆ โรคร้ายแรงที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญจริง ๆ แทน

เหมือนหมอต้องเปลี่ยนบทบาทไปเลย จากคนที่ซ่อมรถ มาเป็นคนที่สอนเราขับรถให้ดี ๆ ซะงั้น… แปลกดีเนอะ แต่ก็คงดีกว่าป่วยจริง ๆ นั่นแหละ

AI มีผลต่ออาชีพแพทย์ไหม

AI กระทบวงการหมอแน่ๆ! ไม่ใช่มาแย่งงานนะ แต่มาเป็น “ผู้ช่วยสุดเทพ” อย่างที่หลายคนว่าแหละ คิดภาพหมอต้องอ่านเอกสารเป็นร้อยๆหน้า AIจัดการให้ฉับไว วิเคราะห์ข้อมูลคนไข้ได้ละเอียดกว่าตาเปล่าเห็นอีก! มันเหมือนมีสมองเสริมอีกกอง ประมวลผลเร็วกว่าคนเป็นไหนๆ

  • ประสิทธิภาพพุ่ง! AI ช่วยวิเคราะห์ภาพ X-Ray, CT Scan แม่นยำกว่าเดิม หมอมีเวลาใส่ใจคนไข้มากขึ้น ไม่ต้องมานั่งเพ่งภาพจนตาลาย!
  • ความแม่นยำเพิ่มขึ้น! AI จับผิดอาการได้ไวกว่า ช่วยลดโอกาสพลาดการวินิจฉัย คิดดูสิ ถ้า AI บอกว่า “เฮ้ย! มีอะไรผิดปกติตรงนี้นะ” หมอก็สบายใจขึ้นเยอะ
  • ความรู้ไม่จำกัด! AI เก็บข้อมูลได้มหาศาล อัพเดตตลอดเวลา หมอไม่ต้องคอยอ่านตำรา วิจัยใหม่ๆ ตลอดเวลา ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ แต่ก็ต้องระวังเรื่องข้อมูลบิดเบี้ยวหรือไม่ครบถ้วนนะ!

เอาจริงๆ ปีนี้ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ อย่างการตรวจสอบอาการเบื้องต้น หรือช่วยวางแผนการรักษา เห็นชัดๆเลยว่า เทคโนโลยีนี้มันไม่ได้แค่มา “ช่วย” แต่มัน “เปลี่ยน” วิธีทำงานของแพทย์ไปเลย
แต่จำไว้ AI เป็นแค่เครื่องมือ สุดท้ายแล้ว “ใจ” ของหมอ ความเข้าใจคนไข้ ยังสำคัญที่สุดเสมอ AI อาจเก่งวิเคราะห์ แต่ก็ “ไม่รู้จัก” ความรู้สึกของคนไข้หรอกนะ!

อะไรคือข้อเสียของการเป็นแพทย์

เรียนหมอน่ะ โคตรหนัก แบบหนักกว่าที่คิดไว้เยอะ ตอนปี 1-2 แทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย อ่านหนังสือจนตาแฉะ นอนน้อยมาก จำได้ว่าตอนนั้น สอบ Anatomy หนักมาก อ่านจนปวดหัว แทบจะไม่เหลือเวลาไปไหนเลย คือเพื่อนไปเที่ยว ไปกินข้าว ฉันไม่มีเวลานั้นจริงๆ ชีวิตฉันคือหนังสือเรียน และกาแฟ ตอนนั้นเครียดมาก รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายอยู่ทุกวินาที (นี่คือความจริง ไม่ใช่การพูดเกินจริง)

ปี 6 นี่โคตรทรมาน ฝึกงานที่ รพ.ศิริราช อยู่เวรบ่อยมาก บางทีเวร 24 ชม. กลับบ้านไปก็หลับคาเตียง ไม่มีเวลาพักผ่อนเลย คนไข้ก็เยอะ บางทีต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น คนไข้เสียชีวิต มันรู้สึกแย่มาก กลับบ้านไปก็ร้องไห้ รู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดีพอ

แล้วก็เรื่องครอบครัว เวลาให้ครอบครัวน้อยมาก ช่วงนั้นทะเลาะกับแม่บ่อย เพราะฉันไม่ค่อยมีเวลาให้แก แม่โทรมาบ่น ฉันก็รับสายไม่ได้ เพราะต้องเตรียมตัวสอบ หรือไม่ก็ต้องอยู่เวร รู้สึกผิดมาก

หลังเรียนจบ ต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด ไกลบ้านมาก กลับบ้านได้แค่เดือนละครั้ง คิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว แต่ก็ต้องทำ เพราะฉันเลือกทางนี้เอง นี่แหละคือข้อเสียที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับฉันในตอนนี้ (ปี 2024)

  • เรียนหนักมาก เวลาส่วนตัวน้อยมาก
  • ต้องอยู่เวรบ่อย นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • เวลาให้ครอบครัวน้อย ทำให้ทะเลาะกับครอบครัว
  • หลังเรียนจบอาจต้องทำงานไกลบ้าน
  • เจอเหตุการณ์ที่ทำให้เครียด เช่น คนไข้เสียชีวิต
  • ต้องทำงานกับคนเยอะ ต้องสื่อสารกับคนไข้และญาติตลอดเวลา

แพทย์เงินเดือนเท่าไร

แพทย์? เงินเดือน?

  • เฉลี่ย 5 หมื่น ถึง 8 หมื่น บาทต่อเดือน.
  • ผู้เชี่ยวชาญอาจแตะ 1.5 แสน. อยู่ที่ฝีมือ.
  • ตัวเลขนี้ “เฉลี่ย”. ชีวิตจริงผันแปร.

ข้อมูลเพิ่มเติม:

  • รายได้พื้นฐาน: ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล (รัฐ/เอกชน), วุฒิ, สาขา.
  • OT: โอทีคือแหล่งรายได้สำคัญ. ทำมาก ได้มาก.
  • คลินิกส่วนตัว: เปิดคลินิกเพิ่มรายได้. แต่ต้องมีเวลา.
  • Consult: รับงาน consult เพิ่มเติม. ต้อง “เจ๋ง” จริง.
  • ภาษี: อย่าลืมภาษี. สำคัญ.
  • “burnout”: ระวังหมดไฟ. เงินไม่ใช่ทุกอย่าง.
#ผลผลิต #หนึ่งปี #แพทย์ไทย