Sputum C/S เก็บยังไง

24 การดู

การเก็บเสมหะเพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย (Sputum C/S) ควรทำตอนเช้าหลังตื่นนอน บ้วนปากด้วยน้ำธรรมดาหลายๆ ครั้งก่อนไอแรงๆ เพื่อเก็บเสมหะที่อยู่บริเวณปอด หลีกเลี่ยงการกลืนน้ำลาย และนำส่งในภาชนะที่สะอาด หากมีการปนเปื้อนน้ำลายให้เก็บเสมหะใหม่

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

วิธีเก็บเสมหะเพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย (Sputum C/S) อย่างถูกต้อง

การเก็บเสมหะเพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย (Sputum C/S) เป็นขั้นตอนสำคัญในการวินิจฉัยโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น ปอดบวม หรือหลอดลมอักเสบ การเก็บเสมหะอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผลการตรวจมีความแม่นยำและสามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง

ขั้นตอนการเก็บเสมหะ:

  1. ล้างมือให้สะอาด: ก่อนเริ่มเก็บเสมหะ ควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากเชื้อโรคอื่นๆ

  2. บ้วนปาก: บ้วนปากด้วยน้ำธรรมดาหลายๆ ครั้งจนรู้สึกว่าปากสะอาด เพื่อกำจัดน้ำลายที่อาจปนเปื้อนในเสมหะ

  3. เก็บเสมหะ:

    • ตอนเช้าหลังตื่นนอน: เป็นช่วงเวลาที่เสมหะสะสมมากที่สุด และมีความเข้มข้นของเชื้อแบคทีเรียสูง
    • ไอแรงๆ: ไออย่างแรงๆ เพื่อให้เสมหะที่อยู่บริเวณปอดหลุดออกมา
    • หลีกเลี่ยงการกลืนน้ำลาย: พยายามเก็บเสมหะเพียงอย่างเดียว โดยไม่กลืนน้ำลายเข้าไป
  4. เก็บเสมหะในภาชนะที่สะอาด: ใช้ภาชนะเก็บเสมหะที่สะอาดและแห้ง หลีกเลี่ยงการสัมผัสภายในภาชนะ

  5. ตรวจสอบเสมหะ:

    • ตรวจสอบว่าเสมหะที่เก็บได้มีลักษณะเป็นหนองหรือมีสีเขียวขุ่นหรือไม่
    • หากพบว่าเสมหะปนเปื้อนน้ำลาย ให้เก็บเสมหะใหม่
  6. นำส่งเสมหะทันที: ควรนำส่งเสมหะไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการทันทีหลังจากเก็บได้ หากไม่สามารถนำส่งทันที ควรเก็บเสมหะในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ไม่เกิน 2 ชั่วโมง

ข้อควรระวัง:

  • การเก็บเสมหะไม่ควรทำในช่วงที่กำลังทานอาหารหรือดื่มน้ำ
  • การเก็บเสมหะไม่ควรทำทันทีหลังการสูบบุหรี่
  • ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลก่อนทำการเก็บเสมหะ

การเก็บเสมหะอย่างถูกต้องและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการวินิจฉัยและรักษาโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ผลการตรวจมีความแม่นยำและส่งผลต่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ