Sputum GeneXpert เก็บยังไง
เก็บเสมหะส่งตรวจ GeneXpert ควรเก็บหลังตื่นนอน บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดก่อน ไอหรือขากเสมหะลงภาชนะปราศจากเชื้อที่มีฝาปิดสนิท หลีกเลี่ยงการปนเปื้อนน้ำลาย ปริมาณเสมหะควรเพียงพอต่อการตรวจ ระบุข้อมูลผู้ป่วยอย่างชัดเจนบนภาชนะ ส่งตรวจโดยเร็วที่สุดเพื่อรักษาคุณภาพตัวอย่าง
เก็บเสมหะส่งตรวจ GeneXpert อย่างถูกวิธี เพื่อผลตรวจที่แม่นยำ
การตรวจหาเชื้อโรคด้วยวิธี GeneXpert กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากให้ผลลัพธ์รวดเร็วและแม่นยำ แต่ความแม่นยำของผลตรวจนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวอย่างเสมหะที่ส่งตรวจด้วย การเก็บเสมหะอย่างถูกวิธีจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ บทความนี้จะอธิบายวิธีการเก็บเสมหะเพื่อส่งตรวจ GeneXpert อย่างละเอียด เพื่อให้ได้ผลตรวจที่น่าเชื่อถือที่สุด
ขั้นตอนการเก็บเสมหะเพื่อส่งตรวจ GeneXpert
ก่อนเริ่มกระบวนการเก็บเสมหะ ควรเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้:
-
ภาชนะเก็บเสมหะที่ปราศจากเชื้อ: ภาชนะควรเป็นแบบมีฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม โดยปกติแล้ว ทางห้องปฏิบัติการจะเตรียมภาชนะเหล่านี้ไว้ให้ แต่หากจำเป็นต้องเตรียมเอง ควรเลือกภาชนะที่สะอาดและฆ่าเชื้อแล้ว เช่น ภาชนะพลาสติกที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน
-
น้ำสะอาด: ใช้สำหรับบ้วนปากก่อนเก็บเสมหะ เพื่อลดการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ในช่องปาก
วิธีการเก็บเสมหะ:
-
หลังตื่นนอน: การเก็บเสมหะหลังตื่นนอนเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากเสมหะจะสะสมอยู่ในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างมากที่สุดในช่วงเวลานี้
-
บ้วนปาก: บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง เพื่อล้างเศษอาหารและสิ่งสกปรกออกจากช่องปาก ควรบ้วนจนรู้สึกว่าปากสะอาดหมดจด การบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออาจช่วยได้มากขึ้น แต่ไม่จำเป็น
-
ไอหรือขากเสมหะ: ไอหรือขากเสมหะจากลึกๆ ในปอด ลงในภาชนะที่เตรียมไว้ อย่าใช้เสมหะจากน้ำมูกหรือจากทางจมูก เพราะอาจไม่ใช่เสมหะจากปอดและจะทำให้ผลตรวจไม่ถูกต้อง
-
หลีกเลี่ยงการปนเปื้อนน้ำลาย: พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้เสมหะปนเปื้อนน้ำลาย เพราะน้ำลายอาจมีจุลินทรีย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคที่ต้องการตรวจหา ทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อนได้
-
ปริมาณเสมหะ: ปริมาณเสมหะควรเพียงพอต่อการตรวจ โดยทั่วไปควรมีปริมาณอย่างน้อย 1-2 ซีซี หากมีเสมหะน้อย อาจทำให้การตรวจวิเคราะห์ได้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจน
-
ระบุข้อมูลผู้ป่วย: ระบุข้อมูลผู้ป่วยบนภาชนะอย่างชัดเจน รวมถึงชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน หรือหมายเลขประจำตัวผู้ป่วย และวันที่เก็บเสมหะ เพื่อป้องกันความสับสนและความผิดพลาด
-
ส่งตรวจโดยเร็วที่สุด: หลังจากเก็บเสมหะแล้ว ควรส่งตรวจยังห้องปฏิบัติการโดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาคุณภาพของตัวอย่าง การเก็บรักษาตัวอย่างที่อุณหภูมิห้องเป็นระยะเวลาไม่นานนักจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของตัวอย่าง แต่หากต้องใช้เวลานานควรขอคำแนะนำจากทางห้องปฏิบัติการ
การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ได้ตัวอย่างเสมหะที่มีคุณภาพ และนำไปสู่ผลการตรวจ GeneXpert ที่แม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาโรคได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที หากมีข้อสงสัย ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการหรือบุคลากรทางการแพทย์
#Genexpert #ตรวจหาเชื้อ #เก็บตัวอย่าง