ขอลาป่วยยังไงให้เนียน
ลาป่วยเนียนๆ: แจ้งล่วงหน้าหากเป็นไปได้, อธิบายอาการสั้นๆ กระชับ เช่น "ขออนุญาตลาป่วยเนื่องจากอาการไข้" หลีกเลี่ยงรายละเอียดมากเกินไป
อุบัติเหตุระหว่างเดินทาง: แจ้งเหตุการณ์โดยสังเขป เช่น "ประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางมาทำงาน ขออนุญาตลาป่วย" แนบหลักฐานหากมี
ป่วยจริง: แจ้งความจริง ระบุอาการคร่าวๆ เพื่อความน่าเชื่อถือ ควรแจ้งแพทย์ด้วยหากจำเป็น
แจ้งเร็ว: แจ้งลาป่วยทันทีที่ทราบว่าไม่สามารถมาทำงานได้ ช่วยลดปัญหาและความสับสน
ลาสั้น กระชับ: ตรงไปตรงมา ระบุวัน เวลาที่ต้องการลา เช่น "ขออนุญาตลาป่วย วันที่... เวลา..."
ห่วงงาน: แสดงความรับผิดชอบ เช่น "ขออภัยในความไม่สะดวก จะติดต่อแจ้งความคืบหน้างาน"
งด Social Media: หลีกเลี่ยงการโพสต์กิจกรรมสนุกสนานระหว่างลาป่วย เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดี
ขอบคุณเสมอ: แสดงความขอบคุณ เช่น "ขอบคุณสำหรับความเข้าใจ"
วิธีลาป่วยให้ดูสมเหตุสมผล?
เรื่องลาป่วยนี่นะ เคยเจอมาแล้ว ตอนนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว ปวดหัวอย่างแรง แบบว่าแทบจะลุกจากเตียงไม่ได้เลย โทรบอกเจ้านายไป บอกแค่ว่าไม่สบาย ต้องลาป่วย เสียงก็อู้อี้ๆหน่อย เพราะยังไม่หายงัวเงีย แค่นั้นแหละจบ ก็ไม่ได้ละเอียดอะไรมาก เจ้านายก็เข้าใจ เพราะเห็นฉันเป็นคนไม่ค่อยขี้โกงเรื่องลาป่วยเท่าไหร่
จำได้ว่าครั้งนั้น ฉันนอนทั้งวันเลย ไม่กล้าเล่นโซเชียล กลัวเจ้านายเห็น แล้วก็ไม่ได้อัพอะไรลงเฟซบุ๊คเลยด้วย ปกติฉันก็ไม่ค่อยเล่นอยู่แล้วนี่นา แค่บอกไปตรงๆ ว่าป่วย แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ต้องลำบาก แค่นั้นก็พอแล้วมั้ง ไม่ต้องอธิบายเยอะ
เรื่องแจ้งล่วงหน้า ก็แล้วแต่สถานการณ์แหละ ถ้าป่วยกระทันหัน ก็แจ้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้ารู้ตัวล่วงหน้า ก็แจ้งล่วงหน้าหน่อย ให้เค้าได้เตรียมตัว อันนี้สำคัญนะ ที่ทำงานฉัน เค้ายืดหยุ่นดี แต่ก็ควรให้เกียรติเค้าด้วย ไม่ใช่โทรบอกตอนใกล้ๆจะเริ่มงาน แบบนั้นไม่ไหว
ส่วนเรื่องรายละเอียด ฉันว่าไม่ต้องเยอะ แค่บอกว่าป่วย แล้วก็ขอโทษที่ต้องลา ฉันว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้วมั้ง ไม่ต้องถึงกับบอกว่าป่วยเป็นอะไร เว้นแต่เป็นอะไรที่ต้องพักรักษาตัวนานๆ อย่างกรณีอุบัติเหตุ ถ้าเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางไปทำงาน ก็แจ้งให้ทราบ แล้วก็แจ้งเหตุการณ์คร่าวๆ แค่นั้นก็พอแล้ว ไม่ต้องรายละเอียดมาก แค่ให้เค้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
สุดท้าย ขอบคุณเจ้านายทุกครั้งที่ได้ลาป่วยไป อันนี้สำคัญ แสดงความรับผิดชอบ แม้จะลาป่วย ก็ยังแสดงความเคารพ ฉันว่าการทำแบบนี้ มันช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงานได้นะ ช่วยให้เจ้านายรู้สึกดีต่อเราด้วย
ลายังไงไม่ให้น่าเกลียด
อืมม.. ลาออกเนอะ คิดหนักเหมือนกันนะ ตอนนี้ก็เลยเที่ยงคืนแล้ว ยังนอนไม่หลับเลย
จริงๆ เรื่องลาออกนี่ มันไม่ง่ายเลยนะ สำหรับฉัน
-
วางแผนล่วงหน้า อย่างน้อย 2 อาทิตย์ คือต้องจัดการงานให้เรียบร้อยก่อน ฉันเคยลาออกแบบกระทันหันครั้งนึง โคตรรู้สึกผิดเลย งานค้างเยอะมาก เพื่อนร่วมงานเหนื่อยแทน
-
บอกหัวหน้าตรงๆ แต่ฉันว่า หาจังหวะดีๆ นะ อย่าไปบอกตอนเค้าเครียดๆ หรือยุ่งมากๆ บอกตอนเช้าดีกว่า ฉันเคยลองบอกตอนเย็น เค้าดูเซ็งๆ ไปเลย
-
ส่งมอบงาน นี่สำคัญมาก ทำ checklist ไว้เลย อะไรยังไง ใครรับผิดชอบต่อ ละเอียดๆ เพราะฉันเคยลืมบอกรายละเอียดบางอย่าง งานเลยมีปัญหาต่อเนื่อง
-
เรื่องการตัดสินใจลาออก ฉันคิดอยู่นาน เหมือนจะหาทางเลือกอื่น แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ ว่ามันไม่ใช่ทางของฉันแล้วจริงๆ เหนื่อยมาก เงินเดือนก็ไม่ได้เพิ่มตามความสามารถ
-
ช่วงเวลาลาออก ปีนี้ ฉันลาออกเดือนพฤษภาคม เพราะรู้สึกว่างานมันลงตัวพอดี ไม่ใช่ช่วงที่โปรเจคใหญ่กำลังวิ่ง อย่างน้อยก็ลดความรู้สึกผิดไปได้บ้าง
เหนื่อยจัง เรื่องงานนี่ บางทีก็เครียด คิดมากไปหมด เฮ้อ.. พรุ่งนี้ต้องโทรหาที่ใหม่แล้ว หวังว่าจะได้งานใหม่ไวๆ
ลาป่วยยังไงให้เนียน
ลาป่วยยังไงให้เนียน:
- ประเมินอาการ: ก่อนอื่น ฟังเสียงร่างกายตัวเองก่อน ป่วยจริงไหม หรือแค่ “อยากพัก” ความซื่อสัตย์ต่อตัวเองสำคัญนะ
- แจ้งแต่เช้า: ถ้าลาแบบฉุกเฉิน ต้องรีบแจ้งหัวหน้าแต่เช้าตรู่ นี่คือมารยาทขั้นพื้นฐาน
- เลือกวัน: วันจันทร์ หรือวันศุกร์ อาจดูน่าสงสัยเป็นพิเศษ ลองเลี่ยงได้ก็ดี บางทีชีวิตมันก็ต้องมีชั้นเชิงบ้าง
- เคลียร์งาน: ถ้าพอรู้ตัวล่วงหน้าว่าจะลา จัดการงานที่ค้างไว้ก่อน อย่าทิ้งภาระให้เพื่อนร่วมงาน
- แสดงความรับผิดชอบ: แม้ลาป่วย ก็แสดงให้เห็นว่าเรายังใส่ใจงาน อาจจะตอบอีเมลบ้างถ้าจำเป็น
- Social Media: ข้อนี้สำคัญมาก! อย่าโพสต์รูปเที่ยวขณะที่ลาป่วย คนจับได้โป๊ะแตกแน่นอน
- ของฝาก: อันนี้เป็น optional แต่ถ้าไปเที่ยวมาแล้วซื้อของฝากเล็กๆ น้อยๆ มาฝากเพื่อนร่วมงานก็ดูดีนะ เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดี
- ใบรับรองแพทย์: ถ้าลาหลายวัน หรือบริษัทมีกฎ ก็อย่าลืมขอใบรับรองแพทย์
เพิ่มเติม:
- การลาป่วย คือสิทธิของเรา แต่ก็ต้องใช้สิทธิอย่างมีความรับผิดชอบด้วย
- การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี กับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า จะช่วยให้การลาป่วยของเราเป็นไปอย่างราบรื่น
- การสื่อสาร เป็นสิ่งสำคัญ แจ้งให้ชัดเจนว่าเราป่วยเป็นอะไร และจะกลับมาทำงานได้เมื่อไหร่
ข้อสังเกตส่วนตัว:
บางทีการลาป่วยก็เหมือนการพักใจ การได้หยุดพักผ่อนบ้างก็ช่วยให้เรากลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่ารู้สึกผิดถ้าเราต้องการเวลาพักผ่อน
เหตุผลลาป่วยอะไรดี?
ลาป่วย? ไร้สาระ.
- ปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง อาการกำเริบ
- ไข้สูง ต้องพักรักษาตัว
- อุบัติเหตุเล็กน้อย ต้องไปโรงพยาบาล
เหตุผลแค่นี้ก็พอ. ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะเสียเวลาอธิบาย.
(ข้อมูลเพิ่มเติม: ปีนี้สุขภาพไม่ค่อยดี ตรวจสุขภาพประจำปีพบความผิดปกติเล็กน้อย ต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด. งานก็งาน สุขภาพสำคัญกว่า)
ลาป่วยยังไงให้ไม่รู้สึกผิด?
ลาป่วยยังไงให้ไม่รู้สึกผิด?
การลาป่วยแบบไม่รู้สึกผิด และไม่เสี่ยงโดนจับได้ หลักๆ คือ ลาตามจริง ครับ ป่วยก็บอกป่วย ไม่ต้องแต่งเรื่องให้วุ่นวาย เพราะสุดท้ายความจริงมันก็คือความจริง (อันนี้จริงนะ)
- บอกอาการที่เป็นจริง: ปวดหัวก็บอกปวดหัว มีไข้ก็บอกมีไข้ ไม่ต้องเพิ่มดีกรีความรุนแรงเกินจริง
- แจ้งล่วงหน้า (ถ้าทำได้): ถ้าพอรู้ตัวว่าจะไม่ไหวตั้งแต่เย็นวันก่อน ก็แจ้งหัวหน้าไปเลยครับ แสดงความรับผิดชอบ
- เตรียมงานให้พร้อม: ก่อนลา พยายามเคลียร์งานที่ค้างอยู่ หรือบอกเพื่อนร่วมงานให้ช่วยดูแลไปก่อน
- ใช้สิทธิ์ลาป่วยอย่างสมเหตุสมผล: อย่าลาบ่อยเกินไป จนคนอื่นมองว่าเรา “สำออย” เพราะถึงกฎหมายจะให้สิทธิ์ แต่การทำงานมันคือเรื่องของความสัมพันธ์ด้วย
- อย่าโพสต์ชีวิตหรูหราลงโซเชียล: อันนี้สำคัญมาก ลาป่วยแล้วไปเที่ยว โดนจับได้นี่คือจบเห่
ลาป่วยมันคือสิทธิ์ของเรา แต่ก็ต้องใช้อย่างมีความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทุกการกระทำมันส่งผลต่อความรู้สึกของเราเอง และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง “ทำอะไรได้อย่างนั้น” นี่คือสัจธรรม
ลาป่วย1วันได้เงินไหม?
ลาป่วยวันเดียวได้เงินป่ะ? อ๊ะฮ่า! คำถามโลกแตกที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนอยากรู้!
- ป่วยจริงป่วยจัง: ถ้าลาป่วยจริง (ไม่ใช่แอบไปดูซีรีส์) กฎหมายบอกว่านายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้ แต่! จ่ายแค่ 30 วันต่อปีเท่านั้นนะจ๊ะ คิดง่ายๆ เหมือนโควต้าป่วยที่เราต้องบริหารให้ดี ถ้าป่วยเกิน 30 วันปุ๊บ…อดได้ตังค์นะเออ
- ป่วยทิพย์: อันนี้ก็ตัวใครตัวมันเด้อ…แต่ถ้าโดนจับได้ว่าป่วยการเมืองเตรียมตัวซวยได้เลย บอสไม่ปลื้มแน่นอน (แถมอาจโดนหักเงินเดือนอีกด้วย!)
- หลักฐานแน่น: ถ้าป่วยไข้แบบทรุดหนัก อย่าลืมไปหาหมอเอาใบรับรองแพทย์มาด้วยนะ เป็นหลักฐานยืนยันความป่วยไข้ของเรา เผื่อบอสขี้สงสัยถามหา
- มากกว่า 30 วัน: ถ้าปีนึงเราป่วยเกิน 30 วันจริงๆ (โถ…น่าสงสาร) วันที่เกินมานั้น นายจ้างเค้าไม่จ่ายเงินให้แล้วนะจ๊ะ แต่เราก็ยังมีสิทธิ์ลาได้ตามกฎหมาย (แค่ไม่ได้เงินเท่านั้นเอง)
- ลาป่วย vs ลากิจ: บางคนอาจจะงง ลาป่วยกับลากิจต่างกันยังไง? ลาป่วยคือเราป่วยจริงๆ ไปทำงานไม่ไหว ส่วนลากิจคือเรามีธุระส่วนตัว ต้องไปทำอะไรต่างๆ (เช่น ไปทำฟัน ไปต่อใบขับขี่) ซึ่งการลากิจบางบริษัทอาจจะไม่ได้เงินนะ ต้องเช็คให้ดี
สรุป: ลาป่วย 1 วัน ถ้าอยู่ในโควต้า 30 วัน ก็ได้เงินจ้า! แต่ถ้าเกินแล้ว…ก็อดไปนะจ๊ะ
แถม: เคยมีเพื่อนร่วมงานคนนึงป่วยบ่อยมาก (สงสัยจะติดซีรีส์หนักไปหน่อย) จนบอสเริ่มจับตาดู สุดท้ายนางเลยต้องลงทุนไปเรียนแต่งหน้าทำผมซะเลย เวลาป่วยจะได้ดูสมจริงขึ้นมาหน่อย…เอิ่ม! (อย่าทำตามนะจ๊ะ ไม่ดี!)
ลาป่วย 1 วันขอใบรับรองแพทย์ได้ไหม?
ลาป่วยวันเดียว? ไม่ต้องใบรับรองแพทย์ก็ได้ กฎหมายไม่บังคับ
ลาป่วยเกิน 3 วันติด? นายจ้างอาจขอใบรับรอง แต่ไม่ใช่ข้อบังคับตายตัว ขึ้นกับบริษัท
- กฎหมายแรงงานไทย 2565 ไม่ได้กำหนดชัดเจนเรื่องใบรับรองแพทย์ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจนายจ้างเป็นหลัก
- บริษัทส่วนใหญ่ จะใช้ดุลยพินิจ ดูเคสเป็นรายๆไป ไม่ใช่กดปุ่มตายตัว อย่าคิดมาก
- ประสบการณ์ส่วนตัว: เคยลาป่วย 5 วันติด ไม่เคยมีใครขอใบรับรอง แต่ก็ทำงานบริษัทเล็กๆนะ บริษัทใหญ่ๆอาจเข้มงวดกว่า
- แนะนำ: ถ้าไม่สบายหนักจริงๆ ควรมีใบรับรองไว้ เผื่อเจอเจ้านายใจร้าย หรือบริษัทมีกฏระเบียบเข้มงวดกว่าปกติ
ข้อควรระวัง: เรื่องนี้ขึ้นกับนโยบายของแต่ละบริษัท ควรตรวจสอบกับฝ่ายบุคคลของบริษัทตัวเองก่อนเสมอ
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต