ค่า CCA ของแบตเตอรี่ควรมีค่าเท่าไหร่

17 การดู

ค่า CCA แบตเตอรี่ที่เหมาะสม:

  • ควรมีค่า CCA ประมาณ 20-30% ของขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี)

  • ตัวอย่าง: เครื่องยนต์ 1,500 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่ที่มี CCA 300-450

  • ค่า CCA สูงเกินไปอาจทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหายได้

  • ค่า CCA ต่ำเกินไปอาจสตาร์ทรถไม่ติด โดยเฉพาะในสภาพอากาศเย็น

  • ตรวจสอบคู่มือรถยนต์เพื่อดูค่า CCA ที่แนะนำสำหรับรถของคุณ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ค่า CCA ของแบตเตอรี่เนี่ยนะ… เรื่องใหญ่เลย! คือแบบ… มันต้องดูยังไงให้ถูกวะ? ไม่งั้นเดี๋ยวรถสตาร์ทไม่ติด ซวยแน่ๆ อารมณ์เหมือนไปเที่ยวแล้วแบตมือถือดับกลางทางเลยอะ เครียดสุดๆ!

เค้าบอกว่าควรมีค่า CCA ประมาณ 20-30% ของขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี) อืม… ฟังดูง่ายดีเนอะ แต่เอาเข้าจริง มันก็งงๆอยู่นะ แบบว่า รถฉันเครื่อง 1,500 ซีซี งั้นก็ต้องหาแบตที่มี CCA ประมาณ 300-450 ใช่ป่ะ? แต่พี่ที่อู่เค้าบอกว่า… (นี่คือความคิดส่วนตัวนะ) บางทีมันก็ไม่เป๊ะขนาดนั้นหรอก ต้องดูรุ่นรถด้วยมั้ง รถยุคใหม่ๆ ระบบไฟฟ้าเยอะ อาจจะต้องใช้ CCA สูงกว่านี้ก็ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวเครื่องเสียงกับแอร์มันจะงอแง ใช่ป่ะ?

จำได้ว่าครั้งนึง เพื่อนฉันซื้อแบตมาผิด CCA สูงเกินไป ผลคือ… ระบบไฟฟ้ารถมันช็อต! ช่างบอกว่า แบตมันแรงเกินไป ระบบรับไม่ไหว ค่าซ่อมไปหลายพันเลย คือแบบ… เสียดายเงินมากกกกก นี่แหละเหตุผลที่ต้องระวัง! อย่าลืมเช็คคู่มือรถด้วยนะ มันจะบอกค่า CCA ที่เหมาะสม อันนี้สำคัญมากกก อย่ามองข้าม!

อีกอย่าง ถ้า CCA ต่ำเกินไป ก็แย่เหมือนกัน โดยเฉพาะตอนเช้าๆ อากาศหนาวๆ สตาร์ทไม่ติดแน่ๆ เหมือนที่ฉันเคยเจอตอนไปเที่ยวเขาใหญ่ หนาวจนแบตอ่อน เสียวแทบแย่ เกือบได้นอนในรถแล้ว โชคดีมีคนช่วย แต่ก็ได้บทเรียนราคาแพงไปอีกแล้ว ฮืออออ

สรุปคือ เรื่อง CCA เนี่ย ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ต้องศึกษาให้ดี ดูคู่มือรถเป็นหลัก แล้วก็ปรึกษาช่างที่ไว้ใจได้ด้วย อย่าไปเชื่อแค่สูตรคำนวณอย่างเดียว เพราะแต่ละรุ่นรถ มันก็ไม่เหมือนกัน เนอะ? พูดแล้วก็เหนื่อย ไปหาแบตดีๆมาใช้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวรถจะงอแงอีก!

#Cca #ค่าไฟ #แบตเตอรี่