แอร์ 24000 BTU กินไฟประมาณกี่บาทต่อชั่วโมง

โอ้โห! 8 บาทต่อชั่วโมงสำหรับแอร์ 24000 BTU ฟังดูเหมือนจะไม่แพงเลยเนอะ ถ้าคิดถึงความเย็นฉ่ำสบายที่เราได้รับ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งด่วนสรุป! ราคา 8 บาทที่ว่านั่น มันเป็นค่าไฟที่คำนวณจากตอนที่คอมเพรสเซอร์ทำงานเต็มกำลัง ซึ่งในความเป็นจริง แอร์ไม่ได้ทำงานหนักตลอดเวลาหรอกค่ะ ยิ่งถ้าเป็นแอร์อินเวอร์เตอร์ด้วยแล้ว ยิ่งประหยัดไฟเข้าไปใหญ่เลย

ลองนึกภาพตามนะคะ สมมติเราตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศา พอห้องเย็นถึงระดับที่ตั้งไว้ คอมเพรสเซอร์ของแอร์อินเวอร์เตอร์ก็จะลดรอบการทำงานลง แทนที่จะตัดการทำงานไปเลยแบบแอร์รุ่นเก่า มันก็จะยังคงทำงานเบาๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิเอาไว้ ทำให้ไม่ต้องเปลืองไฟในการสตาร์ทเครื่องใหม่บ่อยๆ ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้แอร์อินเวอร์เตอร์ประหยัดไฟกว่า

ทีนี้ ถ้าจะคำนวณค่าไฟที่แท้จริงของแอร์ 24000 BTU เราต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างประกอบกันค่ะ ไม่ใช่แค่ BTU อย่างเดียว เช่น

• ประเภทของแอร์: แอร์อินเวอร์เตอร์, แอร์ธรรมดา หรือแอร์ประหยัดไฟเบอร์ 5 อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าแอร์อินเวอร์เตอร์ประหยัดไฟกว่ามาก ส่วนแอร์เบอร์ 5 ก็จะมีค่า EER (Energy Efficiency Ratio) สูง หมายความว่าใช้พลังงานน้อยกว่าในการผลิตความเย็นที่เท่ากัน
• อุณหภูมิที่ตั้ง: ยิ่งตั้งอุณหภูมิต่ำ แอร์ก็ยิ่งต้องทำงานหนัก กินไฟมากขึ้นตามไปด้วย ส่วนตัวฉันเอง ชอบตั้งไว้ที่ 26-27 องศา แล้วเปิดพัดลมช่วย รู้สึกว่ากำลังดี แถมประหยัดไฟด้วย
• ฉนวนกันความร้อนของห้อง: ถ้าห้องมีฉนวนกันความร้อนที่ดี ความเย็นก็จะไม่รั่วไหลออกไป แอร์ก็ไม่ต้องทำงานหนักมาก ลองคิดดูว่าห้องที่โดนแดดส่องทั้งวัน กับห้องที่อยู่ในร่ม แอร์ก็ต้องทำงานหนักไม่เท่ากันแน่นอน
• จำนวนคนในห้อง: คนเราก็เป็นแหล่งกำเนิดความร้อนแหล่งหนึ่งนะคะ ยิ่งคนเยอะ แอร์ก็ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้น
• ระยะเวลาการใช้งาน: อันนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ยิ่งเปิดแอร์นาน ค่าไฟก็ยิ่งแพง

เพราะฉะนั้น 8 บาทต่อชั่วโมงที่ว่านั่น เป็นเพียงค่าประมาณการคร่าวๆ เท่านั้น ค่าไฟที่แท้จริงอาจจะน้อยกว่าหรือมากกว่านั้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อแอร์ อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ดี เปรียบเทียบรุ่นต่างๆ และคำนวณค่าไฟคร่าวๆ เพื่อจะได้ไม่เงิบตอนเห็นบิลค่าไฟนะคะ!

#Btu #ค่าไฟ #แอร์