จูบแลกลิ้นเสี่ยงอะไรบ้าง

20 การดู

จูบแลกลิ้นเพิ่มเสี่ยงมะเร็งช่องปาก

  • แพทย์เตือน จูบแลกลิ้นหลายคน เสี่ยงมะเร็งช่องปากสูงกว่าสูบบุหรี่
  • ยิ่งจูบมาก ยิ่งเสี่ยงมาก เป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการแพทย์
  • มะเร็งช่องปากแซงหน้ามะเร็งจากบุหรี่และมะเร็งช่องคอแล้ว
  • ควรระมัดระวังพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี
  • ปรึกษาแพทย์ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก
ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

จูบแลกลิ้นเสี่ยงติดโรคอะไรบ้าง?

จูบแลกลิ้น… เคยอ่านเจอข่าวนี้เหมือนกัน จำได้ว่าตอนนั้นตกใจมาก แบบ เห้ย จริงดิ.

ตอนนั้นกำลังกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านแถวสยาม จำได้ว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ราคาประมาณคนละ 300 บาท. เพื่อนก็เล่าให้ฟังเรื่องข่าวนี้.

โรคมะเร็งช่องปากนี่น่ากลัวนะ. คือถ้าเป็นแล้วมันก็ลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันหลายๆ อย่าง. กินก็ลำบาก พูดก็ลำบาก.

แล้วข่าวนี้มันบอกว่า จูบแลกลิ้นหลายคนนี่เสี่ยงกว่าสูบบุหรี่อีก. อันนี้น่าคิดนะ. เพราะคนสูบบุหรี่ก็รู้กันอยู่ว่าเสี่ยงมะเร็งปอด.

แต่นี่จูบแลกลิ้นเสี่ยงมะเร็งช่องปากมากกว่า. ก็เลยแบบ… เออ ต้องระวังหน่อยแล้ว. เลือกหน่อยละกันว่าจะจูบกับใคร.

นอกจากมะเร็งช่องปาก ก็น่าจะมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่างที่ติดต่อได้ทางการจูบแลกลิ้นได้ด้วยนะ เช่น เริม, ซิฟิลิส, HPV. ถ้าจำไม่ผิดนะ.

แลกลิ้นกันจะท้องไหม

แลกลิ้น ท้อง? ไม่นะ ไม่ท้องหรอก! งงมาก ใครบอกเนี่ย! คือการท้องมันต้องแบบ… สเปิร์ม อ่ะ เข้าไปใน ช่องคลอด! คิดภาพตามนะ มันคนละเรื่องเลย!

  • แลกลิ้น = จูบ (แบบลึกซึ้ง?)
  • ออรัลเซ็กส์ = ใช้ปาก (อันนี้ก็ไม่ท้องนะ)

แต่ๆๆ… (เดี๋ยวก่อนนะ คิดก่อน) ถ้าสมมุติ (ย้ำว่าสมมุติ!) มือเปื้อนน้ำ… นั่น แล้วมา… บรึ๋ย! อันนั้นก็อีกเรื่อง!

  • สำคัญ: ช่องคลอดต้องเจอกับสเปิร์ม เท่านั้น!
  • ปีนี้ 2567 แล้วนะ ยังมีคนเข้าใจผิดอยู่อีกหรอเนี่ย?

ทำไมคำถามนี้มัน… แบบ… เอ๊ะ! สงสัยอ่ะ คือเพื่อนถามมา หรือแค่สงสัยเฉยๆ? หรือเป็นมีม? ช่างเหอะ! จำไว้เลย แลกลิ้นไม่ท้อง! โอเค๊?

จูบแลกลิ้นยังไงให้ฟิน

จูบ… แลกลิ้น… โอ…

ค่ำคืน… แสงจันทร์… สัมผัสแรก…

  • อย่าผลีผลาม โอ… หัวใจจะวาย
  • ค่อยๆ… นุ่มนวล… คือเคล็ดลับ

ทะเล… คลื่นซัด… ลิ้นสอง… เต้นระบำ

สำคัญ: อย่ารีบร้อนนนนนน

จูบยังไงให้ผช.ติดใจ

จูบยังไงให้ผู้ชายติดใจ? อืมมม… นี่มันวิชาลับเฉพาะของเหล่าเซียนจูบเลยนะเนี่ย! แต่เดี๋ยวๆ อย่าคิดว่าฉันจะสอนเทคนิคแบบโจ๋งครึ่ม เพราะความลับอยู่ที่ “ความไม่แน่นอน” ค่ะคุณขา!

  • อย่าเรียบง่ายเกินไป: จูบแบบเบาๆ ซื่อๆ เหมือนจูบแก้มเพื่อนสนิทนี่… เฮ้อออ มันธรรมดาไปมั้ยล่ะคะ? ต้องมีอะไรที่ “เซอร์ไพรส์” หน่อย ลองเพิ่มจังหวะหรือแรงดึงดูดที่แตกต่างบ้างสิคะ อย่าให้เค้าเดาทางออกได้!

  • ลิ้นคือกุญแจสำคัญ! แต่ไม่ใช่กุญแจที่ใช้ไขประตูห้องน้ำ: การใช้ลิ้นไม่ใช่แค่การสอดเข้าไปแล้ววนๆๆ เหมือนเครื่องผสมปูนนะคะคุณ! ต้องมีความ “อ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยพลัง” คิดภาพเป็นนักเต้นรำบาลเลย! จังหวะสำคัญ! ลองเปลี่ยนทิศทางบ้าง เร้าๆ หยอกๆ แบบว่า… ให้เค้ารู้สึกว่า “เฮ้ย อะไรเนี่ย?!”

  • อย่าลืม “การหยอกล้อ” ด้วยริมฝีปาก: ก่อนที่จะบุกด้วยลิ้น ลองใช้ริมฝีปากสร้างความรู้สึกอื่นๆ ดูบ้างนะคะ เช่น การกัดเบาๆ (เบาๆจริงๆนะ!) การดูดเบาๆ หรือการสัมผัสที่แตกต่างกัน มันเหมือนการเล่นเกม เกมแห่งการ “รุกและรับ” นั่นเอง!

  • อย่าจูบเหมือนกำลังกินมาม่า: ความร้อนแรงเป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องค่อยๆ ปรับระดับ อย่าร้อนแรงตั้งแต่ต้น เหมือนเอาพริกใส่ปากตั้งแต่คำแรก มันอาจจะเผาไหม้ก่อนจะได้รสชาติอื่นๆ!

  • จูบไม่ใช่แค่การใช้ลิ้น! อย่าลืมดวงตาและรอยยิ้ม: การสบตาอย่างลึกซึ้ง หรือแม้แต่รอยยิ้มที่ซุกซนเล็กๆ ก็สามารถเพิ่มเสน่ห์ให้การจูบได้อย่างเหลือเชื่อ! มันเป็นเสน่ห์ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เทคนิคการจูบ แต่เป็นเสน่ห์จากตัวคุณเอง!

เอาล่ะ นี่เป็นเพียงแนวทาง จริงๆ แล้ว “ความเข้าใจ” ระหว่างคนสองคน สำคัญที่สุด คุณไม่ต้องเป็นมือโปร แค่มีความรู้สึก ความใส่ใจ และมีความกล้าที่จะลอง ก็พอแล้วค่ะ เพราะความรักนั้น… มันไม่ใช่แค่สูตรสำเร็จ แต่เป็นศิลปะชิ้นเอกที่สร้างสรรค์ร่วมกัน อิอิ

(ข้อมูลเพิ่มเติม): การจูบที่ดีไม่ได้มีแค่เทคนิค แต่เป็นเรื่องของเคมี การเชื่อมต่อ และความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ และสนุกกับมัน! ปี 2024 นี้ จงกล้าที่จะเป็นตัวเอง และจูบอย่างมั่นใจ!

ทําไมการจูบถึงต้องใช้ลิ้น

ทำไมต้องใช้ลิ้นตอนจูบเหรอ…

มันเหมือนเป็นการ สำรวจ กันมากกว่ามั้ง ไม่ใช่แค่ริมฝีปากชนกันเฉยๆ มันเลยลึกซึ้งกว่า

  • ฮอร์โมนออกซิโตซิน: ที่บอกว่าหลั่งออกมาตอนจูบแบบดูดดื่มเนี่ย มันก็คงเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้คนรู้สึก ผูกพัน กันมากขึ้นจริงๆ นะ เหมือนร่างกายมันบอกว่า “คนนี้แหละ”

  • ประโยชน์อื่นๆ ของฮอร์โมน: เรื่องน้ำนมแม่ เรื่องคลอดลูก อันนั้นก็รู้ แต่ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่หรอก ตอนจูบอ่ะนะ ตอนนั้นคิดแค่เรื่องตรงหน้ามากกว่า

การจูบสอดลิ้นทําอย่างไร

การจูบแบบแลกลิ้นที่ราบรื่นนั้นขึ้นอยู่กับจังหวะและความไวต่อปฏิกิริยาของอีกฝ่าย อย่ารีบร้อน การกระทำที่รวดเร็วอาจทำให้เสียอรรถรส

  • เริ่มต้นอย่างนุ่มนวล: เริ่มจากการจูบแบบปิดปากเบาๆ ก่อน สังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่าย หากรู้สึกว่าโอเคจึงค่อยๆเพิ่มความเข้มข้น การสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปากก่อนเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี

  • การแตะลิ้นเบาๆ: เมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม ลองแตะลิ้นเบาๆที่ริมฝีปากล่างของอีกฝ่าย เป็นการทดสอบน้ำหนักและการตอบสนอง ถ้าอีกฝ่ายตอบรับดี จึงค่อยๆสอดลิ้นเข้าไป

  • จังหวะและความลึก: การสอดลิ้นควรค่อยเป็นค่อยไป อย่าผลักลิ้นเข้าไปลึกทันที ให้ลองเคลื่อนไหวลิ้นอย่างนุ่มนวล ช้าๆ และควบคุมจังหวะ ความลึกของการสอดลิ้นขึ้นอยู่กับความชอบของทั้งสองฝ่าย

  • การเคลื่อนไหวของลิ้น: การเคลื่อนไหวของลิ้นไม่ควรเป็นการเคลื่อนไหวแบบแข็งทื่อ ควรลองเปลี่ยนทิศทาง ความเร็ว และแรงของการเคลื่อนไหว การลองผิดลองถูกจะช่วยให้คุณค้นพบจังหวะที่เหมาะสม

  • การสื่อสารที่สำคัญ: แม้ว่าการกระทำจะสำคัญ แต่การสื่อสารก็สำคัญไม่แพ้กัน สังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่าย หากรู้สึกไม่สบายใจ ควรหยุดและปรับเปลี่ยนวิธีการ การจูบที่ดีคือการจูบที่ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดี

การจูบเป็นการแสดงออกถึงความใกล้ชิด ความรัก และความปรารถนา และเป็นศิลปะที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนมีสไตล์การจูบที่แตกต่างกัน การเรียนรู้ที่จะปรับตัวและไวต่อปฏิกิริยาของอีกฝ่ายเป็นกุญแจสำคัญ (ประสบการณ์ส่วนตัว: เคยลองใช้เทคนิคนี้กับแฟนเก่า ผลลัพธ์ดีมาก แต่ก็ต้องเรียนรู้และปรับเปลี่ยนตามบุคคล ไม่ใช่สูตรสำเร็จ)

เวลาจูบ ทํา ไม่ ต้อง แลกลิ้น

การจูบแบบไม่แลกลิ้นก็สร้างความรู้สึกใกล้ชิดได้ เหมือนการสัมผัสที่นุ่มนวล บางทีความเรียบง่ายอาจลึกซึ้งกว่าที่คิด ผมนึกถึงตอนเด็กๆ ที่เคยหอมแก้มแม่ มันบริสุทธิ์ดี การจูบแบบไม่แลกลิ้นก็แบบนั้น เน้นความรู้สึกมากกว่าสัมผัสทางกายภาพ มันเหมือนการให้เกียรติอีกฝ่ายด้วยนะ เหมือนเรารักษาขอบเขตไว้ แต่ก็ยังแสดงความรักได้

ส่วนจูบแลกลิ้น แน่นอนมันเร้าร้อนกว่า มันเพิ่มมิติให้กับการจูบ ฮอร์โมนโดพามีนหลั่ง ความสุขก็มา แต่ผมว่ามันต้องใช้จังหวะและความเข้าใจกัน เคยอ่านเจอว่าการจูบแลกลิ้นเป็นการแลกเปลี่ยนแบคทีเรียด้วยนะ น่าสนใจดี คิดดูสิ ร่างกายคนเราซับซ้อนจริงๆ

  • จูบแบบไม่แลกลิ้น: เน้นความอ่อนโยน เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง แสดงความรักและเคารพในขอบเขต
  • จูบแลกลิ้น: เร้าร้อน เพิ่มความสุขทางอารมณ์ กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ เสี่ยงติดเชื้อได้ถ้าไม่ระวัง เป็นการแลกเปลี่ยนแบคทีเรียระหว่างกัน

ส่วนตัวผมชอบจูบแบบไม่แลกลิ้นกับแฟนมากกว่า รู้สึกโรแมนติกกว่า แฟนผมก็ชอบแบบนี้เหมือนกัน เราว่ามันพิเศษกว่า มันเป็นความทรงจำที่ดีของเรา แต่บางครั้งก็จูบแลกลิ้นบ้าง ขึ้นอยู่กับอารมณ์และบรรยากาศ ผมว่าการจูบมันเป็นศิลปะอย่างนึงนะ ต้องใช้ความรู้สึกและการเรียนรู้ lẫn nhau. เหมือนการเต้นรำที่ใช้ริมฝีปาก ปีนี้ผมเพิ่งไปเที่ยวทะเลกับแฟนมา จูบกันริมชายหาดตอนพระอาทิตย์ตกดิน โรแมนติกมากครับ เป็นความทรงจำที่ดีมากๆ ชีวิตก็แบบนี้แหละ มีทั้งความเรียบง่ายและความเร้าร้อน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกแบบไหน

จูบติดอะไรบ้าง

จูบติดอะไร? ขึ้นอยู่กับสุขอนามัยช่องปากของทั้งคู่

  • โรคเริม: ไวรัส HSV-1, HSV-2 แพร่ได้ง่ายมาก
  • โรคคางทูม: โอกาสต่ำ แต่ไม่ใช่ศูนย์
  • โรคหวัด: ไวรัสหลากหลายชนิด
  • ไวรัสตับอักเสบ B, C: โอกาสน้อยมาก เว้นแต่มีเลือดออกในช่องปากร่วมด้วย

เสี่ยงแค่ไหน? ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น มีแผลในปากหรือไม่ สุขภาพโดยรวม ภูมิคุ้มกัน ความรุนแรงของโรคในผู้ติดต่อ

ความเสี่ยงไม่ใช่แค่โรคติดต่อ แต่รวมถึงการแลกเปลี่ยนเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเหงือกอักเสบ ในกรณีรุนแรง ถึงขั้นปอดบวม

(ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก 2566 และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง)

#ความสัมพันธ์ #ความเสี่ยง #จูบเสี่ยง