คลื่นวิทยุระบบ AM ต่างจากระบบ FM อย่างไร

ความแตกต่างระหว่าง คลื่นวิทยุ AM และ FM

คลื่นวิทยุเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารที่ใช้ในการส่งสัญญาณข้อมูลผ่านอากาศ โดยสัญญาณเหล่านี้จะถูกมอดูเลตด้วยข้อมูลที่ต้องการส่ง และถูกส่งออกไปในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ในปัจจุบันมีการใช้งานคลื่นวิทยุในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการกระจายเสียง การสื่อสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการสื่อสารข้อมูล โดยแต่ละรูปแบบจะใช้ช่วงความถี่และเทคนิคการมอดูเลตที่แตกต่างกันไป สองรูปแบบที่นิยมใช้สำหรับการกระจายเสียงคือ AM (Amplitude Modulation) และ FM (Frequency Modulation) ซึ่งมีหลักการและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้

คลื่นวิทยุ AM (Amplitude Modulation)

คลื่นวิทยุ AM เป็นเทคนิคการมอดูเลตที่ข้อมูลจะถูกซ้อนทับลงไปในแอมพลิจูดหรือความกว้างของคลื่นพาหะ โดยเมื่อความแรงของสัญญาณเสียงเพิ่มขึ้น แอมพลิจูดของคลื่นพาหะก็จะเพิ่มขึ้นตาม และเมื่อความแรงของสัญญาณเสียงลดลง แอมพลิจูดของคลื่นพาหะก็จะลดลงตามไปด้วย คุณสมบัติที่โดดเด่นของ AM คือสามารถส่งสัญญาณได้ในระยะทางไกลและทะลุทะลวงสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้ดี อย่างไรก็ตาม คลื่นวิทยุ AM มีความไวต่อสัญญาณรบกวนสูง โดยสัญญาณรบกวนต่างๆ เช่น สัญญาณจากฟ้าผ่า สัญญาณจากเครื่องใช้ไฟฟ้า และสัญญาณจากสถานีวิทยุอื่นๆ สามารถทำให้เกิดการบิดเบือนของสัญญาณได้ง่าย

คลื่นวิทยุ FM (Frequency Modulation)

คลื่นวิทยุ FM เป็นเทคนิคการมอดูเลตที่ข้อมูลจะถูกซ้อนทับลงไปในความถี่ของคลื่นพาหะ โดยเมื่อความแรงของสัญญาณเสียงเพิ่มขึ้น ความถี่ของคลื่นพาหะจะเพิ่มขึ้นตาม และเมื่อความแรงของสัญญาณเสียงลดลง ความถี่ของคลื่นพาหะจะลดลงตามไปด้วย คุณสมบัติที่โดดเด่นของ FM คือมีความทนทานต่อสัญญาณรบกวนสูง โดยสัญญาณรบกวนต่างๆ จะไม่ทำให้เกิดการบิดเบือนของสัญญาณ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของแอมพลิจูดไม่มีผลต่อข้อมูลที่ซ้อนทับอยู่ในคลื่น นอกจากนี้ FM ยังมีคุณภาพเสียงที่ชัดเจนกว่า AM เนื่องจากมีแบนด์วิดท์ที่กว้างกว่า ทำให้สามารถส่งสัญญาณเสียงที่มีช่วงไดนามิกที่กว้างกว่าได้

ช่วงความถี่ที่ใช้

คลื่นวิทยุ AM ใช้ช่วงความถี่ตั้งแต่ 535 kHz ถึง 1705 kHz ส่วนคลื่นวิทยุ FM ใช้ช่วงความถี่ตั้งแต่ 88 MHz ถึง 108 MHz