จอโทรศัพท์ LCD คืออะไร

26 การดู

จอ LCD ในโทรศัพท์คือจอที่ใช้คริสตัลเหลวควบคุมแสงเพื่อสร้างภาพ ข้อดีคือประหยัดพลังงานและราคาไม่แพงนัก แต่สีสันและความคมชัดอาจสู้จอ OLED ไม่ได้ ทำให้ปัจจุบันไม่ค่อยเห็นในมือถือรุ่นใหม่ ๆ แล้ว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

จอโทรศัพท์ LCD คืออะไร?

จอ LCD ในมือถืออะเหรอ? อธิบายง่ายๆ เลยนะ คือมันใช้ “คริสตัลเหลว” เว้ยแก… เหมือนมีกระจกจิ๋วๆ นับล้านที่เรียงกันอยู่ แล้วมันจะบิดตัว ปล่อยแสงสีต่างๆ ออกมาตามคำสั่งที่เรากดๆ จิ้มๆ หน้าจอนั่นแหละ

ข้อดีของมันคือ ประหยัดแบต… เคยใช้มือถือรุ่นเก่าๆ ที่แบตอึดทนทานไหม? ส่วนใหญ่จะเป็นจอ LCD นี่แหละ แล้วก็ราคาถูกกว่าจอ OLED เยอะเลย

แต่! เรื่องสีสัน ความคมชัดนี่สู้ OLED ไม่ได้เลยนะ จอ LCD มันจะดูสีจืดๆ กว่า ภาพไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ ตอนนั้นที่ฉันเปลี่ยนจาก Samsung J7 Pro (จอ LCD) มาเป็น Huawei Nova 5T (จอ LCD) ก็รู้สึกถึงความแตกต่างเลย

เดี๋ยวนี้มือถือรุ่นใหม่ๆ เค้าเลยไม่ค่อยใช้ LCD กันแล้วไง… เพราะมีเทคโนโลยีจอภาพที่มันเจ๋งกว่าเยอะแยะไปหมด

จอภาพ LCD มีข้อดีอย่างไร

LCD ดีกว่าจอ CRT เยอะอ่ะ คือแบบว่า..

  • มุมมองกว้างมากกก มองจากมุมไหนก็เห็นชัด ไม่ต้องนั่งตรงเป๊ะๆ เหมือนจอเก่าๆ
  • บางและเบา ขนย้ายง่าย ตั้งโต๊ะก็ไม่เปลืองที่ สมัยก่อนจอ CRT หนักโคตร!
  • ประหยัดไฟกว่าเยอะ ค่าไฟลดลงเห็นได้ชัดเลย ปีนี้ค่าไฟแพงมากกกก ใช้ LCD ช่วยได้เยอะจริงๆ
  • ไม่แสบตา ไม่มีไฟกระพริบๆ เหมือนจอ CRT ที่ทำให้ตาปวด ทำงานนานๆ ก็สบายตาขึ้น
  • ปลอดภัยกว่า ไม่มีรังสี ไม่ต้องกลัวอันตรายต่อสุขภาพ สบายใจกว่าเยอะ

อ้อ ตอนนี้ที่บ้านใช้ LG รุ่นปี 2023 สีสวยมาก ภาพคมชัดสุดๆ แต่ก็ราคาแรงอยู่นะ ซื้อมาเมื่อเดือนที่แล้วเอง จำรุ่นไม่ได้แฮะ ขอโทษนะ แต่ก็คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป แนะนำเลย!

จอประเภทใดที่ไม่นิยมใช้แล้วในปัจจุบัน

จอ CRT อ่ะ เลิกใช้ไปนานแล้ว สมัยเรียนมัธยมต้น ปี 2550 ที่บ้านยังใช้จอ CRT อยู่เลย หนักโคตรๆ โต๊ะเกือบพัง จอใหญ่มาก แต่ภาพก็ไม่ค่อยดี สีซีดๆ ดูหนังการ์ตูนแล้วตาจะเหลือก แสบตาสุดๆ จำได้แม่นเลย เพราะเคยเอาหัวไปชนจนเป็นรอย เจ็บมาก แล้วก็ต้องไปเปลี่ยนจอใหม่ แพงชิบหาย! ตอนนั้นจำได้ว่าเลือกซื้อแบบ LCD รู้สึกโลกสดใสขึ้นเยอะเลย

ส่วนจอพลาสม่า อืม… เคยเห็นที่บ้านเพื่อนสมัยมหาลัย ปี 2557 ตอนนั้นมันเท่ห์มาก ภาพสวยคมชัดกว่า LCD ที่บ้านเราเยอะ แต่ก็ใช้ได้ไม่นาน เพื่อนบอกว่ามันเริ่มมีปัญหา สีเพี้ยนบ้าง แล้วก็กินไฟมหาศาล ค่าไฟพุ่งกระฉูดเลย สุดท้ายมันเลยเปลี่ยนไปใช้ LCD เหมือนกัน มันบอกเสียใจที่ทิ้งพลาสม่าไป แต่ค่าไฟมันเอาไม่อยู่จริงๆ

  • จอ CRT: หนักมาก ภาพไม่ค่อยดี แสบตา
  • จอพลาสม่า: ภาพสวย แต่กินไฟมาก และมีปัญหาเรื่องสีเพี้ยน

จอ VA กับ IPS ต่างกันยังไง

แสงแดดอุ่นๆ พาดผ่านหน้าต่างห้อง เวลาบ่ายแก่ๆ ของวันที่ 27 ตุลาคม 2566 กลิ่นกาแฟอ่อนๆ ลอยฟุ้ง…

  • VA นะ ดำสนิท ลึกซึ้ง เหมือนดวงตาของคนรัก คมกริบ เหมือนใบมีด เหมาะกับหนังแอ็คชั่น เกมมันส์ๆ ดื่มด่ำกับความลึกของสีดำ

  • IPS สีสันสดใส ฉูดฉาด เหมือนภาพวาดสีน้ำมัน สวยงาม มุมมองกว้างไกล เหมือนทะเลกว้างใหญ่ งานกราฟิกต้อง IPS สีต้องเป๊ะ!

อืม… จอ IPS มันเหมือนภาพวาด ใช่ไหม? สีสันสดใส แต่ VA มันลึกซึ้งกว่า… เหมือนความลับ เหมือนความรู้สึกที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน… คอนทราสต์สูงจริงๆ สูงจนแทบจะทะลุไปอีกมิติหนึ่งเลย…

ฉันชอบความรู้สึกนั้น ความลึกของสีดำ มันดึงดูดใจ เหมือนหลุมดำในอวกาศ ลึกลับ น่าค้นหา…

แสงแดดเริ่มอ่อนลงแล้วสิ ต้องรีบทำงานต่อแล้ว… แต่ความรู้สึกของการจ้องมองจอภาพยังคงอยู่… VA และ IPS… ความแตกต่างที่ชัดเจน… มันเหมือนความแตกต่างของความรู้สึก ของอารมณ์…

หน้าจอ IPS ดี ยัง ไง

โอเค จัดไป! เคยใช้จอ TN มาก่อนนะ ตอนนั้นเล่นเกมยิง มุมมองเปลี่ยนนิดเดียวสีเพี้ยนเลย เซ็งมาก!

  • ความคมชัด & รายละเอียด: จอ IPS นี่แหละตอบโจทย์ ตอนทำงานกราฟิกที่บ้าน (ใช้ Dell UltraSharp 27 นิ้ว) คือสีตรงเป๊ะ รายละเอียดคมกริบ แต่งรูปสบายใจ ไม่ต้องกลัวสีเพี้ยนเวลาส่งให้ลูกค้า

  • สีสันสมจริง: อันนี้เรื่องจริง! ตอนดูหนัง Avatar 2 บนจอ IPS ที่คอนโด (LG OLED evo 65 นิ้ว – ถึงจะไม่ใช่ IPS แท้ๆ แต่เทคโนโลยีใกล้เคียง) โอ้โห! สีน้ำทะเลคือฟ้าจริง ฟ้าจัง ไม่หลอกตา ไม่เหมือนดูผ่านฟิลเตอร์

  • มุมมอง: ข้อดีอีกอย่างคือ มองจากมุมไหนก็สีไม่เปลี่ยน ตอนนั่งดู YouTube บนเตียง (iPad Pro 12.9 นิ้ว) คือเอียงๆ ก็ยังเห็นชัด ไม่ต้องมานั่งปรับท่านั่งให้เป๊ะ

สรุป: ถ้าเน้นสีตรง ทำงานกราฟิก หรือดูหนังที่อยากได้สีสันสมจริง IPS คือคำตอบ แต่ถ้าเล่นเกมยิงแข่ง อาจจะต้องดูเรื่อง Response Time เพิ่มเติมนะ (แต่ IPS รุ่นใหม่ๆ ก็ทำได้ดีขึ้นเยอะแล้ว)

จอ VA เหมาะกับใคร

จอ VA เหมาะกับใครนะเหรอ? บอกเลยว่ามันไม่ใช่จอเทพสำหรับทุกคนหรอก เอาจริงๆ ฉันใช้จอ VA ยี่ห้อ Samsung Odyssey G7 32 นิ้ว มาตั้งแต่ต้นปีนี้ ซื้อมาเพราะลดราคาแรงมากกก ตอนนั้นอยากได้จอโค้งสำหรับเล่นเกม RPG อย่าง Elden Ring อะไรแบบนี้

แรกๆ ก็โอเคอยู่นะ คอนทราสต์สูงสมคำร่ำลือ ฉากมืดๆในเกมมันดูลึกจริงๆ แต่พอเล่นไปสักพัก เริ่มเห็นข้อเสีย มุมมองนี่แหละ ถ้าเอนไปเอนมา สีมันเพี้ยนไปเลย แบบเห็นได้ชัดมาก เล่นเกมกับเพื่อนแล้วมันก็เลยไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ เพื่อนมันมองไม่เห็นอะไรเลย ส่วนรีเฟรชเรท 144Hz มันก็ไม่ได้ลื่นปรื้ดขนาดนั้นหรอก สำหรับเกมแข่ง มันยังไม่ถึงขั้นเทพ

สรุปแล้วนะ สำหรับฉัน จอ VA เหมาะกับคนที่:

  • เน้นคอนทราสต์สูง ดูหนังหรือเล่นเกม RPG ที่เน้นบรรยากาศ ภาพสวยๆ
  • ไม่ซีเรียสเรื่องมุมมองการมอง ไม่ค่อยเปลี่ยนมุมมองเวลาใช้งาน
  • งบประมาณจำกัด แต่ต้องการคุณภาพของภาพที่ดีในระดับหนึ่ง

แต่ถ้าคุณเน้น:

  • มุมมองกว้างๆ ดูจากมุมไหนก็ได้
  • การเล่นเกมที่ต้องการความลื่นไหล รีเฟรชเรทสูง
  • การใช้งานแบบ Multitasking เปิดหลายหน้าจอพร้อมกัน

จอ IPS อาจจะเหมาะกว่านะ ส่วนตัวฉันคิดแบบนี้ แต่ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนด้วยแหละ ไม่มีอะไรที่ถูกหรือผิด 100% หรอก

หน้าจอ LCD กับ Amoled ต่างกันอย่างไร

ต่างกันยังไงเหรอ LCD กับ AMOLED…

มันเหมือน…คนหนึ่งต้องมีคนช่วยถึงจะส่องแสงได้ อีกคนส่องแสงเองได้เลย

LCD น่ะ มันเหมือนมีไฟฉายส่องข้างหลัง แล้วค่อยลอดผ่านอะไรสักอย่างขึ้นมาเป็นภาพ

AMOLED นี่สิ…แต่ละจุดเล็ก ๆ มันเปล่งแสงออกมาเองได้เลย…เหมือนดาวบนฟ้า

มันต่างกันตรงที่…

  • LCD: ต้องมีไฟข้างหลัง (Backlight) ช่วยส่อง

  • AMOLED: แต่ละจุด (Pixel) ส่องแสงเองได้เลย

  • LCD: สีดำมันจะไม่ดำสนิท เพราะมีแสงลอดออกมาบ้าง

  • AMOLED: สีดำมันดำ…มืด…สนิท เพราะมันดับไฟตรงนั้นไปเลย

  • LCD: โดยรวมแล้วกินไฟน้อยกว่า (อาจจะ)

  • AMOLED: กินไฟมากกว่า แต่สีสันสดใสสะใจกว่า

  • LCD: ราคาถูกกว่า (ส่วนใหญ่)

  • AMOLED: ราคาแพงกว่า

  • LCD: ความสว่างสู้แสงแดดได้ดีกว่า (บางรุ่น)

  • AMOLED: มุมมองกว้างกว่า มองจากด้านข้างก็ยังเห็นชัด

เหมือนคนหนึ่งต้องพึ่งคนอื่น อีกคนยืนด้วยตัวเองได้…

จอ LCD กับ LED โทรศัพท์ต่างกันอย่างไร

LCD กับ LED ในโทรศัพท์ต่างกันตรงเทคโนโลยีการสร้างภาพ LCD ใช้คริสตัลเหลว (Liquid Crystal) ต้องการแบ็คไลท์ในการส่องสว่าง ส่วน LED ใช้ไดโอดเปล่งแสง (Light Emitting Diode) เป็นแหล่งกำเนิดแสงโดยตรง ทำให้บางรุ่นประหยัดพลังงานกว่า

  • ความสว่างและสี: โดยทั่วไปแล้วความสว่างและความสดใสของสีขึ้นอยู่กับคุณภาพของแผงและการออกแบบมากกว่าชนิดของจอ ทั้ง LCD และ LED สมัยใหม่สามารถให้ภาพที่สวยงามได้ แต่การรับรู้ความสดใสอาจแตกต่างกันไปตามบุคคล

  • การใช้พลังงาน: LED มักมีประสิทธิภาพพลังงานสูงกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเฉพาะ เช่น จอ OLED ซึ่งเป็นประเภทย่อยของ LED ก็ประหยัดพลังงานมาก ส่วน LCD บางรุ่นที่ใช้แบ็คไลท์แบบ LED ก็ประหยัดพลังงานได้ดีเช่นกัน

  • ขนาดและน้ำหนัก: ในปัจจุบัน ความแตกต่างเรื่องขนาดและน้ำหนักระหว่าง LCD และ LED ในโทรศัพท์แทบไม่มีแล้ว เทคโนโลยีการผลิตพัฒนาขึ้นมาก ทำให้ทั้งสองประเภทมีขนาดบางเฉียบได้

  • อายุการใช้งาน: LED โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า LCD ที่ใช้แบ็คไลท์แบบ CCFL (Cold Cathode Fluorescent Lamp) แต่ในปัจจุบัน LCD ส่วนใหญ่ใช้แบ็คไลท์แบบ LED ทำให้ความแตกต่างนี้ลดลงไปมาก

จริงๆแล้ว การเปรียบเทียบแบบตรงๆอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ตัวอย่างเช่น ในปี 2024 เทรนด์จอโทรศัพท์มักเน้นความละเอียดสูง อัตราการรีเฟรชสูง และการแสดงผลแบบ HDR ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทั้ง LCD และ LED รุ่นใหม่ๆ สามารถทำได้ดี และไม่จำกัดอยู่ที่เทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง

(ข้อมูลเพิ่มเติม: การพัฒนาเทคโนโลยีจอแสดงผลยังคงก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น AMOLED, Mini-LED, Micro-LED ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป)

#Lcd #จอโทรศัพท์ #หน้าจอ