ทําไมช่อง Freeze ของตู้เย็นถึงไม่เย็น
แก้ปัญหาช่อง Freeze ไม่เย็นด้วยวิธีง่ายๆ! ลองตรวจสอบระบบระบายน้ำแข็งเสียก่อน หากพบน้ำแข็งเกาะหนา ควรละลายน้ำแข็งก่อน แล้วเช็ดทำความสะอาดภายในช่องแช่แข็งให้แห้งสนิท อย่าลืมตรวจสอบแผงระบายความร้อนด้านหลังตู้เย็นด้วยว่ามีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอุดตันหรือไม่ ทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้วเสียบปลั๊กใหม่ และตั้งอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสม
ช่องฟรีซไม่เย็น? อย่าเพิ่งตกใจ! แก้ได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
ใครๆ ก็เคยเจอ! เปิดตู้เย็นมาหวังใจจะหยิบไอศกรีมเย็นฉ่ำ แต่กลับพบว่าช่องฟรีซไม่เย็นอย่างที่คิด น้ำแข็งเริ่มละลาย อาหารแช่แข็งนิ่มยวบ สาเหตุเกิดจากอะไร และเราจะแก้ไขปัญหานี้ได้ยังไง? วันนี้เรามีเคล็ดลับง่ายๆ ที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน เพื่อกู้ชีพช่องฟรีซให้กลับมาเย็นเจี๊ยบเหมือนเดิม!
สาเหตุยอดฮิตที่ทำให้ช่องฟรีซไม่เย็น:
แม้ว่าหลายคนจะนึกถึงเรื่องน้ำแข็งเกาะหนาเป็นอันดับแรก แต่จริงๆ แล้วสาเหตุของช่องฟรีซไม่เย็นมีได้หลากหลายกว่านั้น ลองมาดูกัน:
- ขดลวดคอนเดนเซอร์สกปรก: ขดลวดคอนเดนเซอร์ หรือแผงระบายความร้อนที่อยู่ด้านหลังตู้เย็น (หรือบางรุ่นอาจจะอยู่ด้านล่าง) ทำหน้าที่ระบายความร้อนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของตู้เย็น หากมีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเกาะหนา จะทำให้การระบายความร้อนทำได้ไม่ดี ส่งผลให้ช่องฟรีซไม่เย็น
- ช่องระบายอากาศอุดตัน: ตู้เย็นส่วนใหญ่จะมีช่องระบายอากาศที่เชื่อมต่อระหว่างช่องฟรีซกับช่องธรรมดา ทำหน้าที่ถ่ายเทความเย็น หากช่องระบายอากาศนี้ถูกอาหารหรือสิ่งของอื่นๆ บังไว้ จะทำให้ความเย็นไม่สามารถไหลเวียนได้อย่างเหมาะสม
- ขอบยางประตูตู้เย็นเสื่อมสภาพ: ขอบยางประตูตู้เย็นมีหน้าที่ปิดผนึกตู้เย็นให้สนิท เพื่อป้องกันไม่ให้ความเย็นรั่วไหลออกมา หากขอบยางเสื่อมสภาพ แข็งกระด้าง หรือมีรอยแตก จะทำให้ความเย็นรั่วไหลออกมา และตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิ
- เทอร์โมสตัท (Thermostat) เสีย: เทอร์โมสตัทคืออุปกรณ์ที่ควบคุมอุณหภูมิภายในตู้เย็น หากเทอร์โมสตัทเสีย จะทำให้ตู้เย็นไม่สามารถรักษาอุณหภูมิที่ถูกต้องได้
- มอเตอร์พัดลมเสีย: พัดลมในตู้เย็นมีหน้าที่หมุนเวียนอากาศเย็นภายใน หากมอเตอร์พัดลมเสีย พัดลมจะไม่ทำงาน ทำให้ความเย็นไม่สามารถกระจายไปทั่วทั้งตู้เย็น
- ระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติมีปัญหา: ตู้เย็นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ อาจมีปัญหาที่ระบบนี้ ทำให้เกิดน้ำแข็งเกาะหนา และขัดขวางการไหลเวียนของอากาศเย็น
วิธีแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเอง:
ก่อนที่จะเรียกช่างซ่อม ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดูก่อน:
- ทำความสะอาดขดลวดคอนเดนเซอร์: ถอดปลั๊กตู้เย็นออกก่อน จากนั้นใช้แปรงปัดฝุ่น หรือเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดขดลวดคอนเดนเซอร์ด้านหลังตู้เย็น
- ตรวจสอบและเคลียร์ช่องระบายอากาศ: ตรวจสอบช่องระบายอากาศที่เชื่อมต่อระหว่างช่องฟรีซกับช่องธรรมดา และเคลียร์สิ่งกีดขวางออก
- ตรวจสอบขอบยางประตูตู้เย็น: ตรวจสอบขอบยางประตูตู้เย็นว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากพบว่าเสื่อมสภาพ แข็งกระด้าง หรือมีรอยแตก ควรเปลี่ยนใหม่
- ละลายน้ำแข็ง (ถ้ามี): หากมีน้ำแข็งเกาะหนาภายในช่องฟรีซ ให้ละลายน้ำแข็งออกก่อน อาจจะโดยการถอดปลั๊กตู้เย็น หรือใช้ไดร์เป่าผมช่วยเร่งกระบวนการ หลังจากละลายน้ำแข็งแล้ว ให้เช็ดทำความสะอาดภายในช่องฟรีซให้แห้งสนิท
- ตั้งอุณหภูมิตู้เย็นให้เหมาะสม: ตรวจสอบว่าอุณหภูมิของตู้เย็นถูกตั้งไว้เหมาะสมหรือไม่ โดยทั่วไป อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับช่องฟรีซคือ -18 องศาเซลเซียส (0 องศาฟาเรนไฮต์) และสำหรับช่องธรรมดาคือ 1-4 องศาเซลเซียส (34-40 องศาฟาเรนไฮต์)
ถ้าทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้วช่องฟรีซยังไม่เย็น:
หากลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้วช่องฟรีซยังไม่เย็น อาจเป็นไปได้ว่ามีปัญหาที่ซับซ้อนกว่านั้น เช่น เทอร์โมสตัทเสีย มอเตอร์พัดลมเสีย หรือระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติมีปัญหา ในกรณีนี้ ควรเรียกช่างซ่อมตู้เย็นผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและแก้ไข
ข้อควรจำ:
- การดูแลรักษาตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดขดลวดคอนเดนเซอร์ และการตรวจสอบขอบยางประตู จะช่วยป้องกันปัญหาช่องฟรีซไม่เย็นได้
- อย่าอัดอาหารเข้าไปในตู้เย็นจนแน่นเกินไป เพราะจะขัดขวางการไหลเวียนของอากาศเย็น
- หากตู้เย็นมีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ อย่าพยายามแซะน้ำแข็งออกเอง เพราะอาจทำให้ระบบเสียหายได้
หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาช่องฟรีซไม่เย็นนะคะ อย่าปล่อยให้ไอศกรีมละลาย! รีบลงมือแก้ไขกันเลย!
#ช่องฟรีส#ตู้เย็น#ไม่เย็นข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต