ทําไมแอร์ถึงทํางานแต่พัดลมคอยล์ร้อนไม่หมุน

เมื่อแอร์เย็นฉ่ำ แต่พัดลมคอยล์ร้อนนิ่งสนิท: สาเหตุและวิธีการตรวจสอบเบื้องต้น

อากาศร้อนอบอ้าวในฤดูร้อนเป็นเหตุให้ระบบปรับอากาศ (แอร์) กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน แต่หากวันใดคุณพบว่าแอร์ทำงานได้ตามปกติ อากาศเย็นฉ่ำไหลเวียนทั่วห้อง แต่กลับสังเกตเห็นความผิดปกติที่พัดลมคอยล์ร้อนซึ่งหยุดหมุน นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาบางอย่างที่ควรได้รับการตรวจสอบและแก้ไขอย่างทันท่วงที บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจสาเหตุที่พบบ่อย และวิธีการตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนจะเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือ

ความเข้าใจพื้นฐาน: บทบาทสำคัญของพัดลมคอยล์ร้อน

พัดลมคอยล์ร้อนมีหน้าที่สำคัญในการระบายความร้อนจากสารทำความเย็น (Refrigerant) ที่ไหลเวียนอยู่ในระบบ เมื่อสารทำความเย็นปลดปล่อยความร้อนออกไป พัดลมจะช่วยกระจายความร้อนออกสู่ภายนอก หากพัดลมคอยล์ร้อนไม่ทำงาน ความร้อนจะสะสมอยู่ภายในระบบ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลง แอร์ทำงานหนักขึ้น และอาจนำไปสู่ความเสียหายของคอมเพรสเซอร์ได้ในที่สุด

สาเหตุที่พัดลมคอยล์ร้อนไม่หมุน

ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดมักเกี่ยวข้องกับส่วนประกอบไฟฟ้าภายในระบบ ได้แก่:

• มอเตอร์พัดลมเสีย: นี่เป็นสาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุด มอเตอร์อาจชำรุดเสียหายจากการใช้งานเป็นเวลานาน ความร้อนสะสม หรือการสึกหรอตามธรรมชาติ การตรวจสอบอาจต้องอาศัยความรู้ทางด้านไฟฟ้าและเครื่องมือวัดบางอย่าง ดังนั้นควรปรึกษาช่างผู้ชำนาญการ

• คาปาซิเตอร์ (Capacitor) เสีย: คาปาซิเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ หากคาปาซิเตอร์เสีย มอเตอร์จะไม่สามารถทำงานได้ คาปาซิเตอร์มักมีลักษณะเป็นทรงกระบอกหรือเหลี่ยมสีดำ การตรวจสอบความเสียหายอาจดูได้จากการบวม รอยแตก หรือรอยไหม้ แต่การเปลี่ยนคาปาซิเตอร์ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย

• สายไฟขาดหรือชำรุด: สายไฟที่เชื่อมต่อกับมอเตอร์และคาปาซิเตอร์อาจเกิดการขาด หลวม หรือชำรุด ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านไปยังมอเตอร์ได้ การตรวจสอบต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกระแสไฟฟ้า ควรปิดเบรกเกอร์ก่อนทำการตรวจสอบเสมอ

• รีเลย์ (Relay) ทำงานผิดปกติ: ในบางระบบ รีเลย์ทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมการทำงานของมอเตอร์พัดลม หากรีเลย์เสีย พัดลมจะไม่ทำงาน การตรวจสอบและซ่อมแซมจำเป็นต้องอาศัยความรู้ทางด้านไฟฟ้า

วิธีการตรวจสอบเบื้องต้น (ควรปิดเบรกเกอร์ก่อนทำการตรวจสอบทุกครั้ง):

1. ตรวจสอบเบรกเกอร์: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบรกเกอร์ของแอร์ยังทำงานอยู่ หากตัดวงจร ให้รีเซ็ตเบรกเกอร์

2. ตรวจสอบฝาครอบคอยล์ร้อน: เปิดฝาครอบคอยล์ร้อนเพื่อตรวจสอบมอเตอร์และคาปาซิเตอร์ สังเกตดูความผิดปกติ เช่น รอยไหม้ รอยแตก หรือความเสียหายอื่นๆ

3. ตรวจสอบสายไฟ: ตรวจสอบสายไฟที่เชื่อมต่อกับมอเตอร์และคาปาซิเตอร์อย่างละเอียด ดูว่ามีรอยขาด หลวม หรือชำรุดหรือไม่

คำแนะนำ:

การตรวจสอบและซ่อมแซมระบบแอร์ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกระแสไฟฟ้า ความรู้เฉพาะทาง และความปลอดภัย หากคุณไม่มั่นใจในการตรวจสอบหรือซ่อมแซมด้วยตัวเอง ควรติดต่อช่างแอร์ที่มีประสบการณ์มาตรวจสอบและแก้ไขปัญหา

การดูแลรักษาแอร์อย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดคอยล์ร้อนเป็นประจำ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาต่างๆได้ อย่าปล่อยให้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่ หากพบความผิดปกติ ควรแก้ไขทันทีเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบแอร์ของคุณ