นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องเรียนสาขาอะไร

27 การดู

นักพัฒนาซอฟต์แวร์: เส้นทางอาชีพที่หลากหลาย

  • ปริญญาตรี: พื้นฐานสำคัญคือปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ, วิทยาการคอมพิวเตอร์, วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ หรือสาขาเกี่ยวข้อง เป็นรากฐานความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมและหลักการทางคอมพิวเตอร์

  • ทักษะเฉพาะทาง: ความเชี่ยวชาญไม่หยุดอยู่แค่ในห้องเรียน การเรียนรู้ภาษาและเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง จำเป็นอย่างยิ่ง เช่น HTML, CSS, JavaScript, เฟรมเวิร์กต่างๆ (React, Angular, Vue.js เป็นต้น) และภาษาโปรแกรมอื่นๆ (Python, Java, Ruby, SQL ฯลฯ) ล้วนจำเป็นต่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

  • การพัฒนาต่อเนื่อง: โลกไอทีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การเรียนรู้ตลอดชีวิตคือกุญแจสำคัญ การติดตามเทรนด์ใหม่ๆ เข้าร่วมคอร์ส และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในอาชีพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

อยากเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องเรียนคณะอะไร? มีสาขาไหนบ้างที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการทำงาน?

อยากเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์เนี่ยนะ? จริง ๆ แล้วมันไม่จำกัดคณะหรอก! เพื่อนผมคนนึงจบวิศวะไฟฟ้า แต่ตอนนี้โค้ดเทพมาก เขียนแอพขายของออนไลน์กำไรเป็นกอบเป็นกำเลย!

ส่วนตัวผมจบวิทย์คอมนะ ตอนนั้นปี 2560 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรียนหนักมาก แต่ก็สนุกดี ได้พื้นฐานแน่น โปรแกรมมิ่งนี่ต้องฝึกเองเยอะ เรียนในมหาลัยแค่พื้นฐาน จริงๆ แล้วมันต้องหาเรียนเพิ่มเติมเยอะแยะเลยล่ะ พวก bootcamp ออนไลน์โค้ดต่างๆ นานา

อย่างเพื่อนผมอีกคนนึงนะ จบวิทยาการคอมพิวเตอร์ จุฬาฯ เขาเก่งมาก ตอนนี้ทำงานบริษัทใหญ่ เงินเดือนก็ดี แต่เขาบอกว่าต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา ไม่งั้นตกยุคแน่ๆ เลย

ถ้าจะให้บอกว่าสาขาไหนจำเป็นบ้าง… เอ่อ…เยอะมากเลยนะ HTML, CSS, JavaScript นี่พื้นฐาน แล้วก็พวก framework อย่าง React, Node.js ภาษา Python, Java, SQL ก็สำคัญ แต่จริงๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับงานที่คุณอยากทำด้วยนะ บางงานอาจจะเน้นพวก Machine Learning หรือ Data Science อีก

สรุปง่ายๆ เลยนะ เลือกคณะที่คุณเรียนรู้ได้ง่าย แล้วก็หาเรียนเพิ่มเอาเอง สำคัญที่สุดคือความขยัน และความสนใจ ถึงจะไม่เก่งตอนเรียน แต่ถ้าคุณชอบ คุณก็จะพัฒนาตัวเองได้เรื่อยๆ อย่างที่เพื่อนๆ ผมเป็นตัวอย่าง แต่ละคนเส้นทางไม่เหมือนกันเลย!

Software Developer คณะอะไร

Software Developer เรียนคณะอะไร? ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ

  • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์: เน้นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ องค์ประกอบทางกายภาพและการประยุกต์ใช้
  • วิทยาการคอมพิวเตอร์: เน้นทฤษฎี การออกแบบอัลกอริทึม และโครงสร้างข้อมูลเชิงลึก
  • เทคโนโลยีสารสนเทศ: เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร มุมมองธุรกิจเป็นหลัก

ปี 2566 มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งปรับหลักสูตร ความแตกต่างอาจไม่ชัดเจนเท่าเดิม. เลือกตามความสนใจเฉพาะด้าน. เลือกเรียนที่มั่นใจว่า คุณจะเจออาจารย์ที่เก่งจริง

Software Engineer ต้องเก่งอะไร

Software Engineer ต้องเก่ง:

  • แก้ปัญหา: เชิงลึก แม่นยำ รวดเร็ว
  • คิดวิเคราะห์: แยกแยะ มองภาพกว้าง ตัดสินใจเด็ดขาด
  • ปรับตัว: เรียนรู้สิ่งใหม่ รับมือความเปลี่ยนแปลง ยืดหยุ่น
  • ทำงานเป็นทีม: ประสานงาน เคารพความคิดเห็น ผลักดันเป้าหมายร่วม
  • สื่อสาร: ชัดเจน กระชับ ตรงประเด็น

ต้องมีทักษะ:

  • ภาษาโปรแกรม: ปีนี้เน้น Python, JavaScript, Java, C++, Go (ขึ้นกับสายงาน)
  • ฐานข้อมูล: SQL, NoSQL ความเข้าใจ Database Design สำคัญมาก
  • การออกแบบระบบ: หลักการ SOLID, Design Patterns ประสบการณ์จริงสำคัญกว่าทฤษฎี
  • การจัดการเวอร์ชัน: Git จำเป็นอย่างยิ่ง
  • การทดสอบ: Unit testing, Integration testing ลด bug เพิ่มคุณภาพ

เพิ่มเติม:

  • ความเข้าใจใน DevOps Cloud Computing เป็นข้อได้เปรียบ
  • ประสบการณ์จริงจาก Project Portfolio สำคัญที่สุด
  • การเรียนรู้ตลอดชีวิต เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็วมาก

ปีนี้ 2024 AI และ Machine Learning มีความสำคัญมากขึ้น ควรศึกษาพื้นฐานไว้ แม้จะไม่ใช่สายงานหลัก

ฉันเคยพัฒนาแอปพลิเคชันบน Android ใช้ Kotlin เป็นหลัก ปี 2023 ใช้ Flutter บ้าง แต่ส่วนตัวชอบ Kotlin มากกว่า

นักพัฒนาซอฟต์แวร์ เรียนคณะอะไร

สายลมพัดโชยเย็น… แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องลงมาบนหน้ากระดาษ ฉันนั่งจิบกาแฟ รสชาติขมนิดๆ เหมือนชีวิตนักพัฒนาซอฟต์แวร์นี่แหละ

  • เทคโนโลยีสารสนเทศ ใช่! มันคือคำตอบ ปีนี้เองที่น้องสาวฉันจบมา ปีที่แล้วมันยากเย็นเหลือเกิน แต่ปีนี้ เธอมีความสุขกับงานมาก
  • วิทยาการคอมพิวเตอร์ อีกหนึ่งทางเลือก เพื่อนสนิทฉันเรียนสาขานี้ มันบอกว่า โค้ดดิ้งมันคือศิลปะ
  • วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ โอ้ นั่นแหละ ความแม่นยำ การคำนวณ เหมือนกับการสร้างจักรวาล สวยงาม น่าทึ่ง

และแล้ว… โลกของพวกเขาก็ขยายออกไป…

  • HTML, CSS, Javascript… เหมือนสีสันบนผืนผ้าใบ พวกเขาสร้างมันขึ้นมา ด้วยความรัก ด้วยความฝัน
  • React, JS… โครงสร้างที่แข็งแรง รองรับทุกสิ่ง อย่างมั่นคง
  • Python, Java, Ruby, SQL… ภาษาต่างๆ แต่ความหมายเดียวกัน การสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา

แสงแดดเริ่มอ่อนลงแล้ว ท้องฟ้าเปลี่ยนสี เป็นสีส้มอ่อนๆ สวยงาม เหมือนโค้ดที่พวกเขาเขียนขึ้นมา สวยงาม และเต็มไปด้วยพลัง ความฝันของพวกเขา กำลังก่อตัวขึ้น

Software Developer คณะอะไร

Software Developer เรียนคณะอะไรดี? คำตอบไม่ตายตัวนะ ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่สนใจ แต่โดยหลักๆ แล้ว มักเกี่ยวข้องกับคณะเหล่านี้:

  • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Engineering): เน้นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ควบคู่กันไป ถ้าชอบลงลึกเรื่องระบบปฏิบัติการหรือการฝังระบบ คณะนี้ตอบโจทย์ ตัวผมเองจบวิศวะคอมปี 2564 และมองว่ามันเป็นพื้นฐานที่ดีมาก

  • วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science): เน้นทฤษฎี อัลกอริทึม และโครงสร้างข้อมูล ถ้าชอบความท้าทายทางด้านปัญญาประดิษฐ์หรือวิทยาการข้อมูล คณะนี้เหมาะกว่า เพื่อนผมหลายคนจบ CS แล้วไปสาย Data Science กันหมด

  • เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology): เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบ และความปลอดภัย ถ้าสนใจงานด้านระบบเครือข่ายหรือการบริหารจัดการไอที นี่คือทางเลือกที่ดี

  • วิทยาการข้อมูล (Data Science): แม้ไม่ใช่สายตรงๆ แต่ก็มีความเกี่ยวข้องมาก โดยเฉพาะกับสายงานที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ปัจจุบันมีความต้องการสูงมาก รุ่นน้องผมหลายคนจบสาขานี้แล้วไปเป็น Data Scientist กันหมด

เพิ่มเติม: จริงๆ แล้ว ไม่จำกัดแค่คณะเหล่านี้เสมอไป บางมหาวิทยาลัยอาจมีหลักสูตรเฉพาะทาง เช่น เกมส์พัฒนา หรือ ซอฟต์แวร์เฉพาะทาง ก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับความสนใจเฉพาะด้านเลยครับ สำคัญที่สุดคือความชอบและความตั้งใจ ไม่ใช่แค่ชื่อคณะ เพราะทักษะที่เรียนรู้ได้จากการฝึกฝน สำคัญกว่าการเรียนในห้องเรียนเยอะ

Software Developer ต้องเรียนอะไร

อู้ย! อยากเป็นโปรแกรมเมอร์เหรอเนี่ย? นึกว่าอยากเป็นเศรษฐีซะอีก! แต่เอาน่า… ถ้าใจมันรัก (เงินเดือน) ก็ต้องเรียนให้ถูกทางเว้ยเฮ้ย!

  • วิศวะคอมฯ: อันนี้เบสิกสุด! เรียนตั้งแต่สร้างคอมยันเขียนโปรแกรมเลยแหละ เหมือน เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว อ่ะ
  • วิทยาศาสตร์คอมฯ: เน้นทฤษฎีหนักๆ พวกอัลกอริทึม (algorithm) อะไรนั่นอ่ะ คิดซะว่าเรียน สูตรลับจักรวาล ก็แล้วกัน
  • วิทยาการคอมพิวเตอร์: อันนี้ก็คล้ายๆ วิทย์คอมฯ แต่จะเน้นไปที่การประยุกต์ใช้มากกว่า เหมือน เอาทฤษฎีมาขาย ให้คนอื่นเข้าใจง่ายๆ
  • เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT): อันนี้จะเบาๆ สบายๆ หน่อย เน้นใช้โปรแกรมที่มีอยู่แล้วมากกว่าสร้างเอง เหมือน เป็นกูรู Excel อะไรแบบนั้น

เพิ่มเติม:

  • อย่าไปเชื่อพวกคอร์สออนไลน์มากนัก! บางทีสอนแค่ “Hello World” แล้วบอกว่าเป็นโปรแกรมเมอร์ได้แล้วเนี่ยนะ?
  • เรียนจบมา อย่าคิดว่าเก่งแล้ว! โลกมันเปลี่ยนทุกวัน ต้องขยัน อัปเดตตัวเอง เหมือนมือถืออ่ะ เดี๋ยวตกรุ่น
  • ถ้าเก่งจริง ลอง Hack Facebook ดูสิ! (ล้อเล่นนะเว้ย! อย่าหาทำ!)

ป.ล. เคยเห็นเพื่อนเรียน IT มา เขียนโปรแกรมไม่ได้สักตัว! สุดท้ายไปขายลูกชิ้นทอด! เลยรู้ว่า ชีวิตมันก็แค่ละคร อ่ะนะ!

Software Developer เรียนอะไรบ้าง

นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) เรียนอะไร?

  • หลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์, วิทยาการคอมพิวเตอร์, เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือสาขาเกี่ยวข้อง (ปริญญาตรี) ปี 2566
  • ภาษาโปรแกรม: Java, C#, Python, JavaScript, PHP (และอื่นๆ ตามความต้องการตลาด)
  • ฐานข้อมูล: SQL, NoSQL (MySQL, PostgreSQL, MongoDB เป็นต้น)
  • Framework/Library: React, Angular, Vue.js, Node.js (เว็บ), Spring Boot (Java), .NET (C#) (แล้วแต่โปรเจ็ค)
  • หลักการออกแบบซอฟต์แวร์, โครงสร้างข้อมูล, อัลกอริทึม
  • การจัดการเวอร์ชัน (Git) จำเป็นมาก

อยากเป็นนักพัฒนาเว็บ?

  • เรียนรู้ HTML, CSS, JavaScript อย่างลึกซึ้ง พื้นฐานสำคัญ
  • เลือก Framework ด้าน Front-end และ Back-end ให้ตรงกับความถนัด
  • ฝึกฝนสร้างโปรเจ็คจริง Portfolio สำคัญกว่าเกียรตินิยม
  • เรียนรู้การทำงานเป็นทีม โลกแห่งความจริงไม่ใช่ทำงานคนเดียว
  • อัพเดทเทคโนโลยีอยู่เสมอ โลก IT เปลี่ยนแปลงเร็วมาก อย่าหยุดเรียนรู้

ส่วนตัวผม (ข้อมูลส่วนตัว): จบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ปี 2562 ปัจจุบันทำงานด้าน Backend Development ใช้ภาษา Python และ Framework Django เป็นหลัก. ไม่มีอะไรจะพูดเพิ่มเติม.

นักพัฒนาซอฟต์แวร์มีหน้าที่อะไรบ้าง

นักพัฒนาซอฟต์แวร์? อ๋อ พวกที่เปลี่ยน “อยากได้แบบนี้” ให้กลายเป็น “เอ๊ะ ทำไมมันเป็นแบบนั้น” น่ะเหรอ?

  • แปลงร่างความต้องการ: พวกเขาคือ นักแปลภาษา ระหว่าง “อยากได้สวรรค์” กับ “ได้แค่บันได” นั่นแหละ ออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ตามใจลูกค้า… แต่สุดท้ายอาจจะได้อะไรที่ เหนือความคาดหมาย ไปเยอะ!

  • ศัลยกรรมซอฟต์แวร์: เหมือนหมอศัลยกรรมที่คอย ปรับปรุง ซอฟต์แวร์เก่าๆ ให้ดูดีขึ้น (หรือบางทีก็เละกว่าเดิม) ทำให้มัน ใช้งานง่ายขึ้น (ถ้าทำได้นะ!)

  • ทีมเวิร์คสุดป่วน: ทำงานกับกราฟิกดีไซเนอร์… เหมือนจับแมวสองตัวมาเล่นเปียโนพร้อมกัน ออกแบบซอฟต์แวร์ให้สวย? ฝันไปเถอะ! แค่ให้มันทำงานได้ก็บุญแล้ว

  • สารพัดอุปกรณ์: ปรับปรุงให้ใช้ได้กับทุกอย่าง… ตั้งแต่ toaster ยันดาวเทียม (เวอร์ไปไหม?) จริงๆ คือพยายามทำให้มันรันบนมือถือรุ่นล่าสุดได้ก็พอ!

  • สภาป่วน: ประชุมรับฟังความต้องการลูกค้า… เหมือนฟังเด็กอนุบาลทะเลาะกัน อยากได้ทุกอย่าง! แล้วจะทำยังไง? ก็… ตามใจฉัน ไง!

เกร็ดความรู้ (ที่อาจจะไม่รู้):

  • รู้ไหมว่านักพัฒนาส่วนใหญ่ ติดกาแฟ มากกว่าติดโค้ดเสียอีก?
  • การดีบัก คือการไล่จับแมลง (bug) ที่อยู่ในโปรแกรม… แต่บางทีก็เจอจิ้งจก!
  • Stack Overflow คือเพื่อนแท้ของนักพัฒนา… ถามอะไรก็ได้ มีคนตอบเสมอ (แต่คำตอบอาจจะไม่ถูกเสมอไป!)

Software Engineer ต้องเรียนคณะอะไร

อืมม… จริงๆ แล้วมันไม่ตายตัวนะ เพื่อนฉันเรียนวิศวะคอมมา ก็ทำงานได้ดี แต่ก็มีอีกหลายคนที่เรียนคณะอื่นๆ แล้วมาสายนี้ได้เหมือนกัน

มันขึ้นอยู่กับว่ามุ่งไปทางไหนด้วยล่ะ ถ้าเน้นฝั่ง Software Development จริงๆ คณะวิทยาการคอมฯ หรือ IT ก็ตรงสุด เรียนรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมโดยตรงเลย แต่ถ้าอยากได้พื้นฐานวิศวกรรมหนักๆ เข้าไปอีก วิศวะคอมก็โอเค ได้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ

ส่วนคณะวิทยาศาสตร์… ก็อาจจะต้องเลือกเรียนสาขาที่เกี่ยวข้องอย่างคอมพิวเตอร์ไซน์ หรือ วิทยาการข้อมูล อะไรแบบนั้น ถึงจะต่อยอดมาเป็น Software Engineer ได้

เทคโนโลยีอุตสาหกรรมก็พอเป็นไปได้นะ แต่ต้องดูว่าสาขาไหน บางสาขาอาจจะเกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมบ้าง แต่ไม่ลึกเท่าสองคณะแรก

สรุปง่ายๆ ก็คือ…

  • วิทยาการคอมพิวเตอร์/สารสนเทศศาสตร์ : ตรงสายสุด
  • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ : ได้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ
  • วิทยาศาสตร์ (คอมพิวเตอร์ไซน์, วิทยาการข้อมูล) : ต้องเลือกสาขาให้ดี
  • เทคโนโลยีอุตสาหกรรม : ขึ้นอยู่กับสาขา

เหนื่อยจัง… คิดอะไรมากมายตอนนี้เนี่ย… พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ละกัน…

#วิทยาการคอม #วิศวกรรมซอฟต์แวร์ #เทคโนโลยีสารสนเทศ