นักพัฒนาแอพพลิเคชั่น เรียนอะไร

นักพัฒนาเว็บไซต์ เรียนสายอะไร

อืมม… จริง ๆ มันก็ไม่ตายตัวหรอกนะ นักพัฒนาเว็บ ไม่ใช่ว่าต้องเรียนสายไหนสายหนึ่งอย่างเดียว

แต่…ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คงพวก วิทย์คอม วิศวะคอม หรือสารสนเทศ พวกนี้แหละที่เกี่ยวข้องโดยตรง เรียนมาตรงๆเลย เข้าใจง่ายกว่า

แต่ ก็เห็นหลายคนนะ ที่ไม่ได้เรียนสายพวกนี้ ก็ทำได้ อาจจะต้องเรียนเพิ่มเอาเอง ตามคอร์สออนไลน์ หรือ Bootcamp ก็มี หรือบางคนก็เก่ง เรียนรู้เอง ก็มีเหมือนกัน

ก็เลยคิดว่า มันไม่ได้จำกัดจริงๆ อยู่ที่ทักษะมากกว่า เขียนโปรแกรมได้มั้ย ออกแบบเว็บเป็นรึเปล่า เข้าใจเทคโนโลยีต่างๆ พวกนี้สำคัญกว่า

• วิทยาการคอมพิวเตอร์
• วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
• สารสนเทศศาสตร์
• สาขาอื่นๆ + การศึกษาเพิ่มเติม (ปี 2024)

บางที… มานั่งคิดดู เส้นทางมันก็ไม่ได้ตรงไปตรงมาเสมอไป เนอะ

นักพัฒนาแอพพลิเคชั่น ทำอะไรบ้าง

ว้ายตาย! งานเยอะมากกกก ตอนนี้ฉันกำลังทำแอปเกี่ยวกับการจองคิวร้านตัดผมอยู่ แบบว่าเหนื่อยมาก เริ่มจากเดือนที่แล้วเลย ต้องนั่งคุยกับลูกค้า ที่ร้าน “เดอะแฮร์คัท” ย่านสุขุมวิท เป็นชั่วโมงๆ กว่าจะได้ความต้องการที่แท้จริง เขาอยากได้อะไรบ้าง แบบไหน สีอะไร ฟีเจอร์อะไร จนปวดหัวไปหมด ไอ้เราก็ต้องจด ต้องวาด ต้องคิด เอาล่ะ ได้ความต้องการมาแล้ว ก็มาถึงขั้นออกแบบ นี่ก็อีก ปวดหัวอีก ใช้ Figma นั่งลากเส้น นั่งวางตำแหน่งปุ่ม สี ฟอนต์ จนดึกดื่น กว่าจะเสร็จ ใช้เวลาไปเป็นอาทิตย์เลยล่ะ

แล้วก็มาถึงขั้นเขียนโค้ด ใช้ React Native นี่แหละ โค้ดไป ดีบักไป แก้บั๊กไป โค้ดจนตาจะปิด นี่ก็ใช้เวลาเป็นเดือน แทบไม่ได้นอนเลย ต้องทำงานกับทีมอีก นี่ก็อีกเรื่อง มีคนเก่ง มีคนไม่เก่ง ต้องประสานงาน ต้องตามงาน เหนื่อยใจ สุดท้ายก็เสร็จ แต่ยังไม่จบนะ ต้องทดสอบ ทั้งบน Android และ iOS แบบว่า ตรวจสอบทุกอย่าง ให้มั่นใจว่าไม่มีบั๊ก แล้วก็ประเมินผล ว่าแอปมันโอเคไหม มีปัญหาอะไรบ้าง ต้องแก้ไขอะไรอีก โอ้โห โคตรเหนื่อยเลย ยังไม่รวมเรื่องการประเมินความเสี่ยงด้วยนะ แบบว่า ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยข้อมูล อะไรพวกนี้

• เก็บข้อมูลความต้องการลูกค้า: สัมภาษณ์ลูกค้าอย่างละเอียดที่ร้าน เดอะแฮร์คัท สุขุมวิท เดือนตุลาคม 2566
• ออกแบบ UI/UX: ใช้ Figma ออกแบบเสร็จกลางเดือนพฤศจิกายน 2566
• พัฒนาแอป: ใช้ React Native พัฒนาตลอดเดือนธันวาคม 2566
• ทดสอบและตรวจสอบ: ทดสอบแอปบน Android และ iOS ต้นเดือนมกราคม 2567
• ประเมินความเสี่ยง: ประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูล ตลอดช่วงพัฒนาแอป

เครียดมากกก แต่ก็สนุกดีนะ ได้เรียนรู้เยอะเลย แต่ขอพักก่อนนะ ฉันเหนื่อยจริงๆ

นักออกแบบเว็บไซต์ เรียนคณะอะไร

นักออกแบบเว็บไซต์… สายลมพัดพาฝัน…

คณะอะไรนะ… เหมือนเสียงกระซิบจากปลายฟ้า… ศิลปะ… เทคโนโลยี… หรือบางทีอาจจะเป็น… นิเทศศาสตร์…

อยากเป็น… เหมือนดั่งผีเสื้อโผบิน… เรียนรู้… ฝึกฝน… สร้างสรรค์… ลงมือทำ…

• 🎨 ศิลปะ… จิตวิญญาณแห่งความงาม…
• 💻 เทคโนโลยี… ภาษาแห่งอนาคต…
• 📣 นิเทศศาสตร์… เรื่องราวที่ต้องเล่า…

แสงสุดท้าย… ส่องประกาย… บนผืนทราย…

อาชีพดีไซเนอร์ เรียนสายอะไร

อยากเป็นดีไซเนอร์เนี่ยนะ เรียนสายศิลป์จ้าาา ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์นี่แหละ เค้ามี 3 สาขา เลือกได้ตามใจเลย อิอิ

• การออกแบบนิเทศศิลป์: อันนี้ครีเอทสุดๆ เรียนออกแบบสื่อสาร แบบว่าใช้ภาพกับไอเดีย คิดโลโก้ บรรจุภัณฑ์ จัดตัวอักษร ทำแอนิเมชั่น พวก interactive design อะไรแบบนี้ สายอาร์ตๆ ชอบมากกกก ปีนี้เพื่อนฉันก็เรียนสาขานี้แหละ มันบอกสนุกดี งานเยอะหน่อยแต่ก็คุ้ม

• อีกสองสาขา จำไม่ค่อยได้แล้ว แต่ลองเข้าเว็บดูนะ www.bu.ac.th › featured-stories มีรายละเอียดอยู่ ปีนี้เว็บเค้าอัพเดตข้อมูลใหม่แล้วด้วย ลองเช็คดูเองนะ ฉันลืมจริงๆ ขอโทษที

• แต่โดยรวม เรียนสายศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ รับรองได้งานดีไซน์แน่นอน เพื่อนฉันเรียนจบไปแล้ว ได้งานทำหมดเลย สู้ๆนะ เลือกสาขาให้ดีๆด้วยล่ะ

ปล. ฉันเรียนจบจากมหาลัยอื่นนะ แต่ข้อมูลนี้ได้มาจากเพื่อน + เว็บมหาลัย จริงจังมาก 5555

ชอบออกแบบควรเรียนคณะอะไร

ชอบออกแบบเนี่ยนะ จริง ๆ ตอนม.ปลาย ฉันก็ลังเลเหมือนกัน เพื่อนๆ หลายคนเลือกแพทย์ วิศวะ แต่ฉันไม่ใช่แนวนั้นเลย ฉันชอบวาดรูปมากกว่า ชอบนั่งคิด ไอเดียใหม่ๆ เกี่ยวกับการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า โลโก้ อะไรก็ได้ที่มันใช้ความคิดสร้างสรรค์

สุดท้ายเลยเลือกเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบตกแต่งภายใน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี 66 นี่เอง ตอนนั้น ตื่นเต้นมาก เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเอง จากความกดดันเรื่องคะแนนสอบ มาทำในสิ่งที่ตัวเองรัก แม้ว่าจะเหนื่อย เครียด กับการทำงานกลุ่ม การส่งงานตรงเวลา แต่ก็มีความสุขดี

• ปี 1 เน้นพื้นฐาน เหมือนเรียนวาดรูป แบบร่าง การใช้สี
• ปี 2 เริ่มเรียนโปรแกรมออกแบบ AutoCAD, SketchUp หนักมาก ต้องนั่งเรียน ทำการบ้าน จนดึกทุกคืน
• ปี 3 เริ่มออกแบบจริง ได้ฝึกออกแบบบ้าน ห้อง ตกแต่งภายใน ได้ทำโปรเจคใหญ่ ตื่นเต้น แต่ก็เครียด เพราะต้องคิดให้ดี ให้สวย ให้ใช้งานได้จริง
• ปี 4 ฝึกงาน ได้ประสบการณ์ เจอโลกจริง เจอปัญหาต่างๆ ที่ต้องแก้ไข ได้เจอคนเก่งๆ หลายคน ได้เรียนรู้เยอะมาก

ตอนนี้เรียนจบแล้ว กำลังมองหางานทำ หวังว่าจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถ ที่เรียนมา ออกแบบผลงาน สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ต่อไป

อยากแนะนำว่า ถ้าชอบออกแบบ จริง ๆ ควรเลือกสาขาให้ตรงกับความสนใจ ไม่ใช่แค่สถาปัตยกรรมศาสตร์ นะ มีหลายสาขา ให้เลือกเรียน เช่น นิเทศศิลป์ ศิลปะ แฟชั่นดีไซน์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ ฯลฯ ลองหาข้อมูล ดูว่าตัวเอง ชอบอะไร เป็นพิเศษ แล้วเลือกเรียนให้ตรงใจ ดีที่สุด กว่าจะเรียนจบ เหนื่อยมาก แต่คุ้มค่า จริงๆ

ดีไซเนอร์ ต้องเก่งอะไร

อื้อหือ ดีไซเนอร์เนี่ย ต้องเก่งหลายอย่างเลยนะ ไม่ใช่แค่ร่างแบบสวยๆอย่างเดียวอ่ะ

• ความคิดสร้างสรรค์นี่ต้องมาอันดับ 1 เลย แบบว่าต้องคิดอะไรแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร ไอเดียต้องทะลักออกมาตลอดเวลา ปีนี้เทรนด์กำลังมาทางโทนสีพาสเทลผสมกับงานปักแบบ 3D เห็นไหมล่ะ ต้องอัพเดตเทรนด์ตลอด

• วาดรูปเก่งๆหน่อยก็ดี ไม่ต้องถึงกับเทพมากก็ได้ แต่ต้องสื่อสารไอเดียผ่านรูปร่างได้ ฉันเองก็วาดไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ แต่ฝึกมาเรื่อยๆจนพอไหว ใช้โปรแกรมช่วยบ้างอะไรบ้าง

• รู้จักตัดเย็บเสื้อผ้า อันนี้สำคัญมาก ถึงจะส่งต่อให้ช่างทำก็เถอะ แต่เราต้องรู้ขั้นตอนการผลิต ไม่งั้นคุยกับช่างไม่รู้เรื่อง เคยเจอมาแล้ว แบบผ้าไม่พอ ต้องแก้แบบใหม่หมดเลย เสียเวลาไปเป็นอาทิตย์

• ต้องเข้าใจเรื่องวัสดุด้วยนะ ผ้าแต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่างกัน บางทีไอเดียดี แต่เลือกผ้าไม่เหมาะสม งานออกมาไม่สวยเลย อย่างปีนี้ผ้าลินินกำลังมาแรง แต่ต้องเลือกให้ดี บางทีก็ดูแลยาก ซักยาก

• เรื่องธุรกิจก็ต้องรู้บ้าง การตลาด การจัดการ การเงิน พวกนี้สำคัญมาก เพราะเราต้องขายงานของเราให้ได้ ไม่ใช่แค่ทำสวยอย่างเดียว ถ้าขายไม่ได้ก็จบ

• ภาษาอังกฤษสำคัญมาก เพราะงานแฟชั่นส่วนใหญ่ต้องติดต่อกับต่างชาติ ถ้าภาษาไม่แข็งแรง การสื่อสารลำบาก อาจพลาดโอกาสดีๆไปเลย

ปีนี้เห็นเพื่อนๆหลายคนไปเรียนเพิ่มพวกคอร์สแฟชั่นดีไซน์ บางคนไปเรียนตัดเย็บ บางคนไปเรียนธุรกิจ ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลานะ ถึงจะอยู่รอดในวงการนี้ได้ โหดมากกก