เปลี่ยน Apple ID ใน iPhone ยังไง

18 การดู

อัปเดตข้อมูลบัญชี Apple ของคุณได้อย่างง่ายดาย เพียงเข้าสู่ระบบที่ account.apple.com จากนั้นไปที่การตั้งค่าบัญชี เลือก ข้อมูลส่วนตัว แก้ไขข้อมูลส่วนตัวได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ อีเมล หรือหมายเลขโทรศัพท์ ระบบจะส่งรหัสยืนยันเพื่อความปลอดภัย เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงเสร็จสิ้น อย่าลืมบันทึกการเปลี่ยนแปลง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เปลี่ยน Apple ID ใน iPhone: คู่มือฉบับเข้าใจง่าย ปลอดภัย และทำได้ด้วยตัวเอง

Apple ID คือกุญแจสำคัญที่เชื่อมโยงคุณเข้ากับจักรวาล Apple ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น App Store, iCloud, Apple Music หรือบริการอื่นๆ อีกมากมาย การจัดการ Apple ID ของคุณให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบันจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะนำเสนอวิธีการเปลี่ยน Apple ID ใน iPhone อย่างละเอียด ครอบคลุมทุกขั้นตอนที่คุณควรรู้ เพื่อให้คุณสามารถอัปเดตข้อมูลบัญชีได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย

ทำไมต้องเปลี่ยน Apple ID?

การเปลี่ยน Apple ID อาจมีความจำเป็นในหลายกรณี เช่น:

  • เปลี่ยนอีเมลหลัก: หากคุณเปลี่ยนอีเมลที่ใช้เป็น Apple ID หลัก คุณจำเป็นต้องอัปเดตเพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังคงได้รับการแจ้งเตือนสำคัญและการเข้าถึงบริการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
  • เหตุผลด้านความปลอดภัย: หากคุณสงสัยว่า Apple ID ของคุณถูกบุกรุกหรือcompromise การเปลี่ยน Apple ID เป็นอีเมลใหม่และตั้งรหัสผ่านที่รัดกุมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของคุณ
  • การเปลี่ยนแปลงส่วนตัว: อาจมีการเปลี่ยนแปลงส่วนตัว เช่น การแต่งงานและการเปลี่ยนนามสกุล ซึ่งส่งผลให้คุณต้องการอัปเดตชื่อที่แสดงใน Apple ID ของคุณ

ขั้นตอนการเปลี่ยน Apple ID บน iPhone (โดยไม่ต้องออกจากระบบ)

แม้ว่าจะมีหลายวิธีในการจัดการ Apple ID ของคุณ แต่การเปลี่ยน Apple ID โดยตรงบน iPhone นั้นทำได้ง่ายและสะดวกที่สุด:

  1. ไปที่การตั้งค่า: เปิดแอป “การตั้งค่า” (Settings) บน iPhone ของคุณ
  2. แตะที่ชื่อของคุณ: ที่ด้านบนสุดของหน้าจอ ให้แตะที่ชื่อของคุณ (Apple ID, iCloud, สื่อและการซื้อ)
  3. เลือก “ชื่อ, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล”: ในหน้านี้ ให้เลือก “ชื่อ, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล” (Name, Phone Numbers, Email)
  4. แตะที่ “แก้ไข” ข้าง “ติดต่อได้ที่”: ในส่วนของ “ติดต่อได้ที่” (Reachability) ให้แตะที่ “แก้ไข” (Edit) ที่อยู่ด้านบนขวา
  5. ลบอีเมลเก่า (ถ้าต้องการ): หากคุณต้องการลบอีเมลเดิมที่เคยใช้เป็น Apple ID ให้แตะที่เครื่องหมาย “-” (ลบ) ข้างอีเมลนั้น แล้วแตะ “ลบ” (Delete)
  6. เพิ่มอีเมลใหม่: แตะที่ “เพิ่มอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์” (Add Email or Phone Number) แล้วเลือก “เพิ่มอีเมล” (Add an Email)
  7. ป้อนอีเมลใหม่ของคุณ: กรอกอีเมลใหม่ที่คุณต้องการใช้เป็น Apple ID แล้วแตะ “ถัดไป” (Next)
  8. ยืนยันอีเมลใหม่: Apple จะส่งรหัสยืนยันไปยังอีเมลใหม่ของคุณ กรอกรหัสยืนยันที่ได้รับในช่องที่กำหนด
  9. อีเมลใหม่ของคุณจะถูกเพิ่มเป็น Apple ID: เมื่อยืนยันอีเมลสำเร็จ อีเมลใหม่ของคุณจะกลายเป็น Apple ID หลักของคุณ

ข้อควรจำ:

  • รหัสผ่าน: การเปลี่ยน Apple ID ไม่ได้เปลี่ยนรหัสผ่านของคุณ คุณยังคงต้องใช้รหัสผ่านเดิมเพื่อเข้าสู่ระบบ
  • การออกจากระบบ: หากคุณเลือกที่จะออกจากระบบ Apple ID ก่อนเปลี่ยน คุณจะต้องป้อนรหัสผ่าน Apple ID ใหม่หลังจากเปลี่ยนแล้ว
  • iCloud Keychain: หากคุณใช้ iCloud Keychain เพื่อบันทึกรหัสผ่าน คุณอาจต้องยืนยันรหัสผ่าน Apple ID อีกครั้งหลังจากเปลี่ยน Apple ID

การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ บน Apple ID

นอกจากการเปลี่ยน Apple ID แล้ว คุณยังสามารถแก้ไขข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ได้ที่ account.apple.com ตามคำแนะนำที่คุณให้ไว้:

  1. เข้าสู่ระบบ: ไปที่ account.apple.com และลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID และรหัสผ่านของคุณ
  2. เลือก “ข้อมูลส่วนตัว”: ไปที่ส่วน “ข้อมูลส่วนตัว” (Personal Information)
  3. แก้ไขข้อมูล: แก้ไขข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น ชื่อ, วันเกิด, อีเมลสำรอง, และหมายเลขโทรศัพท์
  4. ยืนยันการเปลี่ยนแปลง: ระบบอาจส่งรหัสยืนยันไปยังอุปกรณ์หรืออีเมลของคุณเพื่อความปลอดภัย
  5. บันทึกการเปลี่ยนแปลง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดก่อนออกจากระบบ

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย

  • รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง: เลือกใช้รหัสผ่านที่คาดเดายาก ประกอบด้วยตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ
  • การยืนยันตัวตนสองปัจจัย: เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองปัจจัย (Two-Factor Authentication) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้น
  • ตรวจสอบกิจกรรม: ตรวจสอบกิจกรรมบัญชีของคุณเป็นประจำเพื่อตรวจจับการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต

สรุป

การเปลี่ยน Apple ID ใน iPhone เป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อน แต่สิ่งสำคัญคือต้องทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลบัญชีของคุณเป็นปัจจุบันและปลอดภัย การอัปเดตข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ บน Apple ID เป็นประจำก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยของบัญชีและรับประโยชน์สูงสุดจากบริการต่างๆ ของ Apple