แบตไอแพดเสื่อม ดูยังไง

11 การดู

ตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ iPad ง่ายๆ ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ ระบบจะแสดงรายละเอียดการใช้พลังงานในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ช่วยให้คุณวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานและระบุแอปพลิเคชันที่กินแบตมากเกินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการจัดการพลังงานที่ดีขึ้นและยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แบตเตอรี่ iPad เสื่อม: สังเกตอาการก่อนสายเกินแก้ พร้อมวิธีดูแลยืดอายุการใช้งาน

iPad กลายเป็นอุปกรณ์คู่ใจของใครหลายคน ทั้งเพื่อการทำงาน เรียนรู้ และความบันเทิง การใช้งานอย่างหนักหน่วงต่อเนื่องเป็นเวลานานย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ และในที่สุดก็ถึงจุดที่ต้องเผชิญกับปัญหา “แบตเตอรี่เสื่อม” คำถามคือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบตเตอรี่ iPad ของเรากำลังทรุดโทรม และควรทำอย่างไรเพื่อชะลอความเสื่อมนั้น?

แม้ว่า iPad จะไม่มีฟีเจอร์แสดง “สุขภาพแบตเตอรี่” เหมือน iPhone แต่ก็มีวิธีสังเกตอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของแบตเตอรี่ได้ดังนี้:

อาการที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่ iPad เริ่มเสื่อม:

  • แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติ: นี่เป็นสัญญาณที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด หากคุณรู้สึกว่า iPad ของคุณใช้งานได้สั้นลงอย่างเห็นได้ชัดเจน แม้จะใช้งานในลักษณะเดิมๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแบตเตอรี่เริ่มเก็บไฟได้น้อยลง
  • แบตเตอรี่ลดฮวบฮาบ: แทนที่จะค่อยๆ ลดลงอย่างสม่ำเสมอ แบตเตอรี่กลับลดลงอย่างรวดเร็วผิดปกติ เช่น ลดจาก 50% เหลือ 20% ภายในเวลาอันรวดเร็ว
  • iPad ร้อนผิดปกติ: ขณะใช้งานหรือชาร์จแบตเตอรี่ iPad ร้อนกว่าปกติมาก แม้จะไม่ได้ใช้งานหนัก
  • เครื่องดับเอง: iPad ดับเองโดยที่แบตเตอรี่ไม่ได้หมด หรือดับเองเมื่อใช้งานแอปพลิเคชันบางประเภท
  • เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ค้าง: เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลานาน แม้จะใช้งานอยู่ก็ตาม
  • แบตเตอรี่บวม: กรณีนี้ค่อนข้างอันตราย หากสังเกตว่าหน้าจอ iPad เริ่มดันขึ้น หรือมีรอยนูนผิดปกติบริเวณด้านหลังเครื่อง ควรรีบนำเครื่องไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบโดยด่วน เพราะอาจเกิดอันตรายได้

นอกจากการสังเกตอาการข้างต้น เรายังสามารถตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานแบตเตอรี่ได้ดังนี้ (ตามที่ระบุในข้อมูลที่คุณให้มา):

  • ตรวจสอบการใช้งานแบตเตอรี่: เข้าไปที่ การตั้งค่า > แบตเตอรี่ ระบบจะแสดงรายละเอียดการใช้พลังงานในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ทำให้คุณทราบว่าแอปพลิเคชันใดที่กินแบตเตอรี่มากที่สุด และสามารถปรับพฤติกรรมการใช้งานหรือปิดการทำงานของแอปพลิเคชันเหล่านั้นได้

เมื่อรู้แล้วว่าแบตเตอรี่ iPad เริ่มเสื่อม ควรทำอย่างไร?

  • ปรับพฤติกรรมการใช้งาน:

    • ลดความสว่างหน้าจอ: การลดความสว่างหน้าจอช่วยประหยัดพลังงานได้มาก
    • ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน: การเปิดแอปพลิเคชันทิ้งไว้ในเบื้องหลังเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน
    • ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น: การแจ้งเตือนต่างๆ ก็กินแบตเตอรี่เช่นกัน
    • เปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode): จะช่วยลดการทำงานของบางฟังก์ชันเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
    • ปิด Location Services เมื่อไม่จำเป็น: การใช้ GPS เพื่อระบุตำแหน่งตลอดเวลาเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก
    • อัปเดตซอฟต์แวร์: Apple มักจะปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการพลังงานในซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ๆ
  • เปลี่ยนแบตเตอรี่: หากแบตเตอรี่เสื่อมมากจนส่งผลกระทบต่อการใช้งานอย่างเห็นได้ชัดเจน การเปลี่ยนแบตเตอรี่เป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา ควรเลือกเปลี่ยนแบตเตอรี่กับศูนย์บริการที่น่าเชื่อถือ หรือร้านซ่อมที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพและปลอดภัย

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ iPad เพื่อยืดอายุการใช้งาน:

  • ชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี:

    • หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% อยู่เสมอ: การชาร์จไฟเต็ม 100% เป็นเวลานานๆ อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น
    • หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงบ่อยๆ: การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงแล้วค่อยชาร์จก็ส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่เช่นกัน
    • ใช้ที่ชาร์จที่ได้มาตรฐาน: การใช้ที่ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้
    • หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง: ความร้อนเป็นศัตรูตัวฉกาจของแบตเตอรี่
  • เก็บรักษา iPad ในที่ที่เหมาะสม:

    • หลีกเลี่ยงการวาง iPad ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง: เช่น ในรถที่จอดตากแดด
    • เก็บ iPad ไว้ในที่แห้ง: ความชื้นอาจทำให้ iPad เสียหายได้

การสังเกตอาการผิดปกติของแบตเตอรี่ iPad อย่างสม่ำเสมอ และการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณสามารถใช้งาน iPad ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น หากพบว่าแบตเตอรี่เริ่มมีปัญหา อย่ารอจนสายเกินแก้ รีบดำเนินการแก้ไขเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต