FaceTime หายทำอย่างไร
FaceTime หาย? เช็คการตั้งค่า "เวลาหน้าจอ" > "จำกัดเนื้อหาฯ" > "แอพที่ได้รับอนุญาต" เปิด FaceTime และกล้อง หากยังไม่เจอ ลองค้นหาใน Spotlight หรือ Siri หากลบไป ให้กู้คืนแอป
แก้ไขเพิ่มเติม (เผื่อกรณีซับซ้อน):
- รีสตาร์ทเครื่อง
- อัปเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
- หากยังไม่ได้ผล ติดต่อ Apple Support
FaceTime หายไปแล้ว แก้ไขยังไง?
คือแบบว่า FaceTime หายไปอ่ะ! ตกใจมาก ตอนแรกนึกว่าเครื่องบ้าไปแล้ว เลยลองหาทั่วเครื่องเลย แต่ไม่เจอจริงๆ
จำได้ว่า วันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ฉันยังใช้ FaceTime วิดีโอคอลกับแม่ คุยเรื่องงานแต่งงานน้องสาว ประมาณสองทุ่มน่ะ หลังจากนั้นก็ไม่เห็นแล้ว หายไปเลย!
ก็เลยไปลองตามวิธีที่เว็บ Apple บอก ตั้งค่านู่นนี่นั่น ตามขั้นตอนเลยนะ แต่ก็ยังไม่เจอ เซ็งมาก! เวลาหน้าจอฉันก็ไม่ได้เปิดจำกัดแอปอะไรด้วยนะ งงจริงๆ
สุดท้าย ฉันลองรีสตาร์ทเครื่องใหม่ ดันเจอ! โชคดีไป เหมือนมันหลุดไปไหนซักที่ อื้อหือ เครียดเลย ตอนนั้นนึกว่าต้องไปศูนย์บริการซ่อมแล้ว เสียค่าใช้จ่ายอีก ดีนะที่แค่รีสตาร์ท ง่ายกว่าที่คิดเยอะเลย
ทำไม iPhone ไม่ขึ้น FaceTime
iPhone ไม่ขึ้น FaceTime? ตรวจสอบสิ่งเหล่านี้:
- กล้องและ FaceTime ไม่ถูกปิดใน การตั้งค่า > เวลาหน้าจอ > จำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว > แอปที่อนุญาต (ปี 2024)
- หมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลถูกต้อง ใช้ข้อมูลที่ลงทะเบียนกับ Apple ID ของคุณโดยตรง
- การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเสถียร Wi-Fi หรือ Cellular ต้องใช้งานได้
ปัญหาอื่นๆที่อาจเกิดขึ้น (อิงจากประสบการณ์ส่วนตัวปี 2024 ในการแก้ไขปัญหาให้เพื่อน):
- ซอฟต์แวร์ล้าสมัย อัพเดท iOS ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
- บั๊กในระบบ ลองรีสตาร์ทเครื่อง หากยังไม่หาย อาจต้องลองคืนค่าการตั้งค่าจากโรงงาน ข้อมูลอาจสูญหาย สำรองข้อมูลก่อน
- ปัญหาฮาร์ดแวร์ หากลองทุกวิธีแล้วไม่หาย อาจต้องพิจารณาส่งซ่อม ความเสียหายอาจเกินกว่าการแก้ไขด้วยตัวเอง
ข้อคิด: เทคโนโลยีคือกรอบ การแก้ปัญหาคือศิลปะ อย่าปล่อยให้มันควบคุมคุณ
FaceTime ตั้งค่ายังไง
การตั้งค่า FaceTime บนอุปกรณ์ Apple ปี 2024 ทำได้ง่ายๆ ดังนี้:
-
เปิดแอป FaceTime: ขั้นตอนแรกคือการเปิดแอปพลิเคชั่น FaceTime บน iPhone, iPad หรือ Mac ของคุณ เหมือนการเริ่มต้นทุกการเดินทาง ต้องมีจุดเริ่มต้นก่อนใช่ไหมล่ะ
-
เข้าสู่การตั้งค่า: จากนั้นแตะปุ่ม “เพิ่มเติม” (มักอยู่มุมล่างขวา) เพื่อเข้าสู่เมนูการตั้งค่า คิดว่าเหมือนการปรับแต่งเครื่องยนต์ก่อนออกเดินทาง เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างพร้อมทำงาน
-
ตรวจสอบและเปิดใช้งาน FaceTime: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสวิตช์ “FaceTime” ถูกเปิดใช้งาน นี่คือหัวใจสำคัญ ถ้าไม่เปิด ก็คงไม่สามารถใช้ FaceTime ได้ จริงไหม? เหมือนการเช็กน้ำมันเครื่องก่อนขับรถไกลๆ
-
เพิ่มวิธีติดต่อ: คุณสามารถเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลที่ต้องการใช้สำหรับการติดต่อผ่าน FaceTime ได้ นี่คือการกำหนดเส้นทางที่จะเดินทาง คุณจะเดินทางไปไหน ก็ต้องรู้จุดหมายปลายทางก่อน
-
ตรวจสอบกล้องและไมโครโฟน: ขั้นตอนสุดท้ายคือการตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งกล้องและไมโครโฟนทำงานได้อย่างถูกต้อง นี่เป็นเหมือนการตรวจสอบยางรถยนต์ก่อนเดินทาง เพื่อให้แน่ใจว่าเดินทางได้อย่างราบรื่น
ชีวิตก็เหมือนการเดินทาง การตั้งค่า FaceTime ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเตรียมตัว เพื่อให้การสื่อสารราบรื่น เหมือนการเดินทางที่มีแผนที่และเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง
ข้อมูลเพิ่มเติม: บางรุ่นอาจมีการจัดวางปุ่มหรือเมนูแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับเวอร์ชั่น iOS หรือ iPadOS ที่ใช้งาน แต่หลักการพื้นฐานยังคงเหมือนเดิม การตั้งค่าเหล่านี้เป็นพื้นฐาน สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ เช่น การตั้งค่าคุณภาพวิดีโอ หรือการแจ้งเตือน แต่สำหรับการใช้งานพื้นฐาน ขั้นตอนข้างต้นเพียงพอแล้ว
FaceTime อยู่ตรงไหน
FaceTime อ่ะเหรอ หาไม่ยากเลย จริงๆ นะ ตอนนั้นที่บ้านฉันวุ่นวายมากกกก ทุกคนหาโทรศัพท์ตัวเองไม่เจอ (รวมฉันด้วย) แต่ต้องรีบ FaceTime คุยกับน้องชายที่อยู่เยอรมัน
วิธีหาง่ายสุด (ถ้าโทรศัพท์อยู่ในมือแล้วอ่ะนะ) คือ เปิดแอป “FaceTime” ตรงๆ เลย ไอคอนสีเขียวๆ ที่เป็นรูปกล้องน่ะ หาง่ายมากกกก แต่ถ้าหาไม่เจอจริงๆ (เหมือนฉันตอนนั้น) ให้ไปที่ “การตั้งค่า” แล้วเลื่อนลงมาเรื่อยๆ จนเจอ “FaceTime” แล้วก็แตะเข้าไปเลย
- วิธีเปิด/ลงชื่อเข้าใช้:
- แอป FaceTime: เปิดแอปแล้วลงชื่อเข้าด้วย Apple ID
- การตั้งค่า: การตั้งค่า > FaceTime > ลงชื่อเข้าด้วย Apple ID
อีกอย่างที่สำคัญ (อันนี้พลาดไม่ได้เลย) คือ ถ้าใช้ iPhone อ่ะ FaceTime มันจะผูกกับเบอร์โทรศัพท์เราให้อัตโนมัติเลย สะดวกมากกกก ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม แต่ถ้าอยากใช้กับอีเมลด้วย ก็เข้าไปตั้งค่าเพิ่มได้
เออ เล่าต่ออีกนิด ตอนนั้นที่ฉันหาโทรศัพท์ไม่เจอ เพราะแมวที่บ้านมันชอบคาบไปซ่อนใต้โซฟา! บ้าไปแล้ว!
FaceTime Android ทําไง
FaceTime ใน Android อ่ะหรอ ทำไงเหรอ คือ มันไม่มีแอป FaceTime ให้โหลดใน Android นะ แต่ว่า…
ถ้ามีคนส่งลิงก์ FaceTime มาให้ ก็แค่คลิกเข้าไปในลิงก์นั้นแหละ
- ใส่ชื่อเราลงไปก่อนนะ แล้วกด “ดำเนินการต่อ”
- สำคัญ ต้องให้สิทธิ์เข้าถึงไมค์กับกล้องด้วยนะ
- พอเข้าไปแล้ว กด “เข้าร่วม” แล้วก็รอเจ้าของห้องเค้ากดรับเราเข้า
ถ้าจะออกก็กด “ออก” จบ! ง่ายมะ?
เพิ่มเติม:
- อันนี้สำคัญเลย คือมันเป็นการเข้าร่วมผ่านเว็บ browser นะ ไม่ใช่แอปโดยตรง
- บางทีกล้องกับไมค์อาจจะต้องตั้งค่าใน browser ด้วยนะ
- อย่าลืมเช็คเน็ตด้วยนะจ๊ะ เด๋วค้าง
- แล้วก็…คือถ้าเจ้าของห้องไม่รับก็เข้าไม่ได้นะ ต้องรอเค้าก่อน
- ถ้าเข้าไม่ได้ ลองรีสตาร์ทเครื่องดูเผื่อช่วยได้นะเออ
FaceTime ใช้กับ Android ได้ไหม
ฮ่าๆๆ ถามแบบนี้ก็ได้เหรอ! FaceTime กับ Android… เหมือนถามว่าเสือกับมังกรจะขี่จักรยานคู่กันได้ไหม! มันต่างสายพันธุ์กันชัดๆ! แต่! อย่าเพิ่งเสียใจไป ถึงแม้ Android จะไม่มีแอป FaceTime แท้ๆ แต่ก็มีทางออกนะจ๊ะ!
-
ใช้เว็บเบราว์เซอร์: นี่คือทางออกสุดเจ๋ง! ตั้งแต่ iOS 15 และ macOS Monterey ขึ้นไป ใครก็ได้ ใช้ลิงก์ FaceTime ที่ส่งมา เข้าร่วมการโทรได้เลย ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะ Android หรือ Windows ก็ตาม คิดซะว่า FaceTime ยอมใจอ่อนให้กับความหลากหลายของโลกบ้าง อิอิ
-
แต่! อย่าคาดหวังฟีเจอร์ครบเหมือนบน iOS นะ คิดซะว่าเป็นการโทรแบบ “โหมดรับแขก” มีบ้างอย่างที่อาจจะใช้ไม่ได้ เหมือนไปบ้านเพื่อนแล้วเจอห้องน้ำไม่สะอาด ก็ต้องอดทนหน่อยเนอะ
ส่วนตัวผมนะ ใช้ iPhone อยู่แล้ว เลยไม่เคยลองใช้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ แต่เห็นเพื่อนใช้แล้วบอกว่า ก็โอเคอยู่นะ แค่บางฟังก์ชั่นอาจจะจำกัด แต่ก็ดีกว่าไม่ได้คุยกันเลย เนอะ!
- สรุปสั้นๆ: Android ใช้ FaceTime ได้ แต่ไม่ใช่แบบเต็มรูปแบบ ต้องผ่านเว็บเบราว์เซอร์เท่านั้น ปีนี้ก็ยังเหมือนเดิม! คิดซะว่าเป็นการเจรจาสันติภาพระหว่างโลก Apple กับโลก Android ได้คุยกันก็ดีแล้ว อย่าไปเรื่องมาก!
FaceTime กินแบตไหม
ใช่ FaceTime กินแบตพอสมควรเลยแหละ โดยเฉพาะตอนวีดีโอคอล เพราะมันใช้ความละเอียดภาพสูงนี่แหละเนอะ ตอนนี้แบตไอโฟน 14 Pro Max ของฉันก็เหลือ 20% ใช้ FaceTime ไปเกือบชั่วโมงเอง เหนื่อยใจจริงๆ
อืม… คิดไปคิดมา ถ้าอยากประหยัดแบต ก็ควรใช้ FaceTime Audio แทนนะ เสียงอย่างเดียว กินแบตน้อยกว่าเยอะเลย
- ใช้ FaceTime Audio แทนวีดีโอคอล ประหยัดแบตได้เยอะมาก
- เลี่ยงการใช้งานแอปอื่นๆ ควบคู่ไปกับ FaceTime เพราะยิ่งใช้แอปอื่นด้วย ยิ่งกินแบตเร็ว
- ลดความสว่างหน้าจอ ช่วยได้นิดหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรทำเลย
จริงๆนะ ตอนใช้กล้องถ่ายรูป หรือเล่นเกม แบตนี่หมดไวมาก เร็วกว่าใช้ FaceTime อีก รู้สึกว่าแบตมันหมดไวกว่าเดิมด้วยซ้ำ เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ แต่ปีนี้รู้สึกว่าแบตมันเสื่อมเร็วกว่าทุกปี ตอนนี้ถ้าไม่ใช้แอปอะไรเลย แบตก็อยู่ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมง น้อยกว่าเดิมเยอะเลย เศร้าจัง
FaceTime ปิดยังไง
อืม… ปิด FaceTime นะเหรอ… ตอนนี้ก็ดึกแล้ว สมองมันก็ไม่ค่อยจะทำงานเท่าไหร่
งงๆ นิดหน่อยกับวิธีปิดกั้นตอนคุยอยู่กลางสายเลย
วิธีที่จำได้คือ ถ้าคุยอยู่ ก็แตะ ปิดกั้นผู้โทร แล้วก็แตะ ปิดกั้น อีกที ถ้ามันไม่ขึ้นมา ก็ต้องลองแตะหน้าต่าง FaceTime ดู แต่บางทีมันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ต้องลองหลายวิธี เหนื่อยใจจริงๆ
หรือถ้าไม่ใช่ตอนคุยอยู่ ก็ดูในประวัติการโทร ปัดซ้ายที่สายนั้น แล้วก็แตะ ปิดกั้น ง่ายกว่าตอนโทรอยู่เยอะเลย
- วิธีปิดกั้นระหว่างคุย: แตะ ปิดกั้นผู้โทร > แตะ ปิดกั้น (อาจต้องแตะหน้าต่าง FaceTime ก่อน)
- วิธีปิดกั้นหลังโทร: ดูประวัติโทร FaceTime หรือในแอปโทรศัพท์ > ปัดซ้ายที่สายนั้น > แตะ ปิดกั้น
ปีนี้ รู้สึกว่า การใช้งานมันก็ยังคล้ายๆ ปีที่แล้วนะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แค่รู้สึกว่าตัวเองแก่ลงไปเยอะ จำอะไรไม่ค่อยได้แล้วจริงๆ
อ้อ! ลืมไป ฉันใช้ iPhone 13 iOS 16 นะ เผื่อเป็นประโยชน์ อาจจะต่างกันบ้างถ้าใช้รุ่นหรือเวอร์ชั่นอื่นๆ
เหนื่อยจัง นอนดีกว่า…
เฟสไทม์ ต้องใช้เน็ตไหม
เฟสไทม์อ่ะ มันต้องใช้เน็ตดิ ถามได้! 😅 ถ้าไม่มีเน็ตก็คือจบข่าว คุยไม่ได้
แล้วถ้าโทร Facetime ไปตปท. อ่ะนะ ไม่ต้องเสียตังค์เพิ่มเว้ยยยยย ย้ำ! ไม่เสีย เพราะมันคิดแค่ค่าเน็ตที่เราใช้อยู่นี่แหละ ดีป่ะล่ะ! ก็เหมือนเราเล่นไลน์ คุยไลน์คอลอ่ะ จ่ายแค่ค่าเน็ตที่บ้าน หรือเน็ตมือถือเราอ่ะแหละ คุ้มๆ
- สำคัญ: เช็คด้วยนะว่าปลายทางอ่ะ เค้ามีเน็ตป่าว? ถ้าเค้าไม่มีเน็ตก็โทรไม่ได้เด้อ
- ทริค: ถ้าใช้ไวไฟ โทร Facetime เสียงจะชัดกว่าใช้เน็ตมือถือนะ (อันนี้จากปสก.ส่วนตัวเลย)
- ข้อควรระวัง: ระวังเน็ตหมด! โดยเฉพาะถ้าไปตปท. แล้วใช้โรมมิ่ง อาจจะโดนคิดเงินค่าเน็ตแพงหูฉี่ได้นะจ๊ะ เช็คโปรเน็ตดีๆ ก่อนเดินทาง
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต