Factory Reset iPhone ทำยังไง

คืนชีพ iPhone ให้กลับมาสดใส: คู่มือรีเซ็ตฉบับเข้าใจง่าย (และไม่ซ้ำใคร!)

iPhone ของคุณเคยเป็นเพื่อนคู่ใจที่ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่จู่ๆ กลับเริ่มอืดอาด หน่วง ชวนหงุดหงิดไหม? หรือบางทีอาจจะเจอปัญหาแปลกๆ ที่ไม่รู้จะแก้ไขยังไงดี? ก่อนที่จะตัดสินใจโยน iPhone ทิ้ง (ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ดีเลย!) ลองรีเซ็ตเครื่องดูก่อนไหม? การรีเซ็ต iPhone เป็นเหมือนการ “เริ่มต้นใหม่” ที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาซอฟต์แวร์ต่างๆ และคืนความสดใสให้เครื่องกลับมาใช้งานได้ดีเหมือนเดิม

แต่การรีเซ็ต iPhone ไม่ใช่แค่การกดปุ่มสองสามทีแล้วจบกัน เพราะมีตัวเลือกหลากหลายให้เลือกใช้ แต่ละตัวเลือกก็มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกเรื่องการรีเซ็ต iPhone ให้คุณเข้าใจอย่างละเอียด และเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุด โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไปทับซ้อนกับข้อมูลที่มีอยู่แล้ว เพราะเราจะเน้นที่การอธิบายแบบเจาะลึกและเคล็ดลับที่อาจจะไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน!

ก่อนเริ่มต้น: เตรียมตัวให้พร้อมก่อนรีเซ็ต

ก่อนที่จะลงมือรีเซ็ต iPhone เรามาเตรียมตัวให้พร้อมกันก่อน เพื่อป้องกันข้อมูลสำคัญสูญหาย หรือเกิดปัญหาที่ไม่คาดฝัน:

• สำรองข้อมูล (Backup): นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด! ไม่ว่าคุณจะเลือกรีเซ็ตแบบไหน การสำรองข้อมูลไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ควรทำเสมอ คุณสามารถสำรองข้อมูลได้ 2 วิธีหลักๆ:
  • iCloud: ง่ายและสะดวก เพียงแค่เชื่อมต่อ Wi-Fi และเปิดใช้งาน iCloud Backup ในการตั้งค่า
  • iTunes/Finder (บน Mac): เชื่อมต่อ iPhone กับคอมพิวเตอร์ของคุณและใช้ iTunes (หรือ Finder บน macOS Catalina ขึ้นไป) เพื่อสำรองข้อมูล
• จดจำ Apple ID และรหัสผ่าน: หลังจากรีเซ็ต iPhone จะต้องทำการล็อกอินด้วย Apple ID อีกครั้ง อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณจำ Apple ID และรหัสผ่านได้
• ชาร์จแบตเตอรี่: ควรมีแบตเตอรี่อย่างน้อย 50% เพื่อป้องกันเครื่องดับกลางคันระหว่างการรีเซ็ต
• ถอดซิมการ์ด (ถ้าจำเป็น): หากคุณต้องการส่งต่อ iPhone ให้คนอื่น ควรทำการถอดซิมการ์ดออกก่อน

ประเภทของการรีเซ็ต iPhone: เลือกให้ถูกวิธี ช่วยชีวิตเครื่องได้!

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การรีเซ็ต iPhone มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เรามาดูกันว่าแต่ละประเภทคืออะไร และเหมาะกับสถานการณ์ไหน:

1. รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด (Reset All Settings):

   • หน้าที่: คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมดใน iPhone ของคุณให้กลับเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน เช่น การตั้งค่า Wi-Fi, Bluetooth, เสียง, การแจ้งเตือน และอื่นๆ โดยที่ไม่ลบข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น รูปภาพ, วิดีโอ, แอปพลิเคชัน หรือเอกสาร
   • เหมาะสำหรับ:
     • แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้อง หรือเกิดข้อผิดพลาด
     • เมื่อ iPhone ทำงานผิดปกติหลังจากทำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า
     • ต้องการเริ่มต้นการตั้งค่าใหม่ทั้งหมดโดยไม่ลบข้อมูล
   • วิธีการ: ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone > รีเซ็ต > รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด
   • ข้อควรระวัง: หลังจากรีเซ็ตแล้ว คุณจะต้องทำการตั้งค่าต่างๆ ใหม่ทั้งหมด เช่น เชื่อมต่อ Wi-Fi อีกครั้ง และตั้งค่า Face ID/Touch ID ใหม่

2. ลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด (Erase All Content and Settings):

   • หน้าที่: ลบข้อมูลทั้งหมดใน iPhone ของคุณ รวมทั้งข้อมูลส่วนตัว, แอปพลิเคชัน, รูปภาพ, วิดีโอ, และการตั้งค่าต่างๆ เหมือนกับว่าคุณเพิ่งซื้อ iPhone มาใหม่ๆ
   • เหมาะสำหรับ:
     • เมื่อต้องการขาย, ยกให้, หรือส่งต่อ iPhone ให้ผู้อื่น
     • เมื่อต้องการล้างข้อมูลทั้งหมดใน iPhone อย่างปลอดภัย
     • เมื่อ iPhone มีปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ด้วยวิธีอื่นๆ
   • วิธีการ: ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone > ลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด
   • ข้อควรระวัง: ข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบอย่างถาวร ไม่สามารถกู้คืนได้ ดังนั้นต้องสำรองข้อมูลไว้ก่อนเสมอ

3. รีเซ็ตพจนานุกรมแป้นพิมพ์ (Reset Keyboard Dictionary):

   • หน้าที่: ลบคำศัพท์ที่คุณเคยบันทึกไว้ในพจนานุกรมแป้นพิมพ์
   • เหมาะสำหรับ: เมื่อคุณต้องการล้างคำศัพท์ที่ไม่ต้องการ หรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการคาดเดาคำผิดพลาด
   • วิธีการ: ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone > รีเซ็ต > รีเซ็ตพจนานุกรมแป้นพิมพ์

4. รีเซ็ตเค้าโครงหน้าจอโฮม (Reset Home Screen Layout):

   • หน้าที่: คืนค่าเค้าโครงหน้าจอโฮมให้กลับเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน โดยแอปพลิเคชันที่มาพร้อมกับเครื่องจะกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม และแอปพลิเคชันอื่นๆ จะถูกจัดเรียงตามลำดับตัวอักษร
   • เหมาะสำหรับ: เมื่อคุณต้องการจัดระเบียบหน้าจอโฮมใหม่ทั้งหมด หรือคืนค่าเค้าโครงเดิม
   • วิธีการ: ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone > รีเซ็ต > รีเซ็ตเค้าโครงหน้าจอโฮม

5. รีเซ็ตตำแหน่งที่ตั้งและความเป็นส่วนตัว (Reset Location & Privacy):

   • หน้าที่: รีเซ็ตการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่ตั้ง เช่น การอนุญาตให้แอปพลิเคชันเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งของคุณ
   • เหมาะสำหรับ: เมื่อคุณต้องการตรวจสอบและตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งของแอปพลิเคชันใหม่ทั้งหมด
   • วิธีการ: ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone > รีเซ็ต > รีเซ็ตตำแหน่งที่ตั้งและความเป็นส่วนตัว

เคล็ดลับเพิ่มเติม: ช่วยให้การรีเซ็ต iPhone เป็นไปอย่างราบรื่น

• ใช้ Wi-Fi ที่เสถียร: หากคุณทำการรีเซ็ตที่ต้องดาวน์โหลดข้อมูล เช่น การลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด ควรเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่เสถียร
• อย่าปิดเครื่องระหว่างการรีเซ็ต: การปิดเครื่องระหว่างการรีเซ็ตอาจทำให้เกิดปัญหาได้
• หาก iPhone ค้างระหว่างการรีเซ็ต: ลองบังคับรีสตาร์ท (Force Restart) โดยการกดปุ่มเพิ่มเสียง แล้วปล่อยอย่างรวดเร็ว จากนั้นกดปุ่มลดเสียง แล้วปล่อยอย่างรวดเร็ว จากนั้นกดปุ่มด้านข้าง (ปุ่ม Power) ค้างไว้ จนกว่าจะเห็นโลโก้ Apple

สรุป:

การรีเซ็ต iPhone เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ และคืนความสดใสให้กับเครื่องของคุณ แต่การเลือกประเภทการรีเซ็ตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มต้น เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการรีเซ็ต iPhone และหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่คาดฝัน หวังว่าคู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องการรีเซ็ต iPhone ได้อย่างละเอียดมากขึ้น!