MIT เรียนกี่ปี

13 การดู

MIT ป.ตรี เรียน 4 ปี เน้นสมดุลวิทย์-ศิลป์-มนุษย์-สังคม เข้ายากมาก อัตราการรับต่ำเพียง 7.9% (รุ่น 2018) โอกาสย้ายเข้าเรียนน้อย มี 44 สาขาวิชาเอกให้เลือก

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เรียนที่ MIT ต้องใช้เวลาเท่าไหร่?

เรียน MIT นี่สิ นานแค่ไหนน้าาา… ถ้าเรียนปริญญาตรีแบบปกติ ก็สี่ปีเต็มๆ แน่นอน! แต่บอกเลยว่าเหนื่อย ไม่ใช่แค่เรียนหนักอย่างเดียวนะ กิจกรรมก็เยอะแยะ งานวิจัย แล็บ งานกลุ่ม แทบไม่มีเวลาพักหายใจเลยล่ะ จำได้ตอนปี 2 แทบจะนอนห้องสมุดทุกคืนเลย เพื่อให้ทันส่งงาน สอบเยอะมากด้วยนะ นี่แค่ส่วนหนึ่งนะ ยังมีเรื่องอื่นๆอีกเพียบเลย

พวกวิชาเลือกนี่แหละที่ทำให้สมดุล เรียนทั้งวิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลป์ สังคมศาสตร์ มันเลยครบเครื่อง แต่ก็หนักเหมือนกันนะ บางทีก็รู้สึกว่าตัวเองแบกโลกไว้ทั้งใบ เรียนเยอะ กิจกรรมเยอะ สังคมก็ต้องดูแล เพื่อนๆก็ต้องดูแล อื้อหือ เหนื่อย แต่ก็คุ้มค่า เพราะเพื่อนที่ MIT นี่เก่งๆทั้งนั้นเลย ได้เรียนรู้จากพวกเขาเยอะมาก

เรื่องการเข้าเรียนนี่ ยากจริงๆ เพื่อนผมสมัครหลายคน ติดน้อยมาก ปี 2018 ที่เคยอ่านเจอ อัตราการรับเข้าแค่ 7.9% เองนะ โหดมาก นี่ยังไม่นับพวกที่ย้ายมาเรียนด้วยนะ น้อยมาก แทบจะไม่มีเลย MITเน้นวิชาเอกเยอะมาก 44 วิชาเลยนะ เลือกกันไม่ถูกเลยล่ะ ตอนนั้นผมเองก็ลังเลอยู่นานเหมือนกัน กว่าจะตัดสินใจได้ แต่สุดท้ายก็เลือกเรียนสาขาที่ชอบ และตอนนี้ก็กำลังจะจบแล้วล่ะ.

MIT รับนักเรียนปีแรกกี่คน

MIT รับปีแรก 720 คน ปีนี้

นักสมัครรวม 18,062 โหดใช่ไหมล่ะ

  • ผ่านปกติ 11,712
  • เลื่อนจากรอบก่อน 6,350

จำนวนที่รับน้อยกว่าสมัครเยอะ สมแล้วที่เป็น MIT

ปีที่แล้วเพื่อนผมสมัครไม่ติด มันเสียใจไปหลายวัน บอกเลย ยากกว่าที่คิด

MIT ป.โท มีสาขาอะไรบ้าง

MIT เปิดสอนหลักสูตรปริญญาโทหลากหลายสาขา ครอบคลุมโรงเรียนหลักๆ 5 แห่ง และวิทยาลัยคอมพิวติ้งอีก 1 แห่ง โดยแบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้:

  • โรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ (School of Engineering): มีสาขาให้เลือกมากมาย เช่น วิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์, วิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรรมเคมี, วิศวกรรมโยธา และอื่นๆอีกเพียบ ซึ่งแต่ละสาขาจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอีกที บางสาขาเน้นหนักทางทฤษฎี บางสาขาเน้นการประยุกต์ใช้จริง นี่แหละคือเสน่ห์ของ MIT ความหลากหลายที่ตอบโจทย์นักศึกษาได้อย่างครอบคลุม การเรียนรู้จึงไม่ใช่แค่การรับรู้ แต่เป็นการค้นหา การสร้างสรรค์ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (ความคิดส่วนตัว: การเรียนรู้ที่แท้จริงคือการเรียนรู้ที่จะเรียนรู้)

  • โรงเรียนวิทยาศาสตร์ (School of Science): ครอบคลุมวิทยาศาสตร์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เช่น คณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ดาราศาสตร์ ฯลฯ สาขาเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญของนวัตกรรมต่างๆ เหมือนรากฐานของตึกสูง ถ้ารากฐานไม่แข็งแรง ตึกก็ไม่มั่นคง (ความคิดส่วนตัว: การเรียนรู้พื้นฐานสำคัญยิ่งกว่าการเรียนรู้เฉพาะทาง)

  • โรงเรียนสถาปัตยกรรมและการวางแผน (School of Architecture and Planning): ครอบคลุมสถาปัตยกรรม, การวางแผนเมือง, การออกแบบภูมิทัศน์ ฯลฯ เน้นการออกแบบที่คำนึงถึงความยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม

  • โรงเรียนมนุษยศาสตร์, ศิลปะ, และสังคมศาสตร์ (School of Humanities, Arts, and Social Sciences): รวมสาขาที่หลากหลาย เช่น เศรษฐศาสตร์, ประวัติศาสตร์, ภาษาศาสตร์, ศิลปะการแสดง เป็นต้น ถือเป็นมุมมองที่แตกต่าง ช่วยให้เข้าใจบริบทของสังคมและมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง

  • โรงเรียนการจัดการ Sloan (Sloan School of Management): เน้นหลักสูตรทางด้านบริหารธุรกิจ เช่น MBA, Master of Finance ฯลฯ การจัดการที่ดีเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ทั้งในองค์กรและในชีวิตส่วนตัว (ความคิดส่วนตัว: ความรู้ด้านการจัดการสำคัญไม่แพ้ความรู้ด้านเทคนิค)

  • วิทยาลัย Schwarzman College of Computing: เน้นการศึกษาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นสาขาที่กำลังมาแรงและสำคัญในโลกปัจจุบัน วิทยาลัยแห่งนี้เป็นหลักสูตรใหม่ที่ MIT ก่อตั้งขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต

Y-Axis ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการสมัครเรียน แต่รายละเอียดสาขา ต้องตรวจสอบกับเว็บไซต์ทางการของ MIT โดยตรง เพราะรายละเอียดอาจมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

#Mit #ปริญญาตรี #เรียน